ยูพีเอสประกาศแผนยกระดับเครือข่ายทั่วเอเชีย รวมถึงการเพิ่มศักยภาพการบริการด้านโลจิสติกส์ในไทยครั้งล่าสุดที่สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยใช้นวัตกรรมตามนโยบายประเทศไทย 4.0 ที่มุ่งส่งเสริมและสรางมูลค่าเพิ่มด้านการลงทุน
นาย รอส แม็คคัลลา ประธานยูพีเอส เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “เศรษฐกิจโลกในวันนี้คือสนามการค้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาก ขณะที่กำแพงของการแบ่งแยกก็ลดลงอย่างมากจากในอดีต ปัจจัยต่าง ๆ ทั้งผลจากการเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์โลก ข้อตกลงการค้าเสรี และกระแสการเติบโตของเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงถึงกันหมด ต่างส่งเสริมให้ธุรกิจจากตลาดต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงเอเชีย สามารถนำเสนอสินค้าและบริการสู่ลูกค้าได้ทุกที่ทั่วโลก”
“ด้วยการลงทุนในเครือข่ายโลจิสติกส์อัจฉริยะของเราในเอเชีย เรามุ่งที่จะวางรากฐานเพื่อผลักดันธุรกิจในเอเชียขยายสู่ตลาดนานาชาติมากขึ้น โดยเฉพาะสู่ตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาคเดียวกัน เนื่องจากปริมาณการค้าภายในเอเชียที่เพิ่มขึ้นจะช่วยลดผลกระทบจากความไม่แน่นอนของการค้าโลกและนโยบายที่เกี่ยวข้อง”
นับตั้งแต่ต้นปี 2561 ที่ผ่านมา ยูพีเอสได้ดำเนินการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
· เครือข่ายเชื่อมโยงธุรกิจในเอเชียที่แข็งแกร่งขึ้น ครอบคลุมกว่า 220 ประเทศและเขตการปกครองทั่วโลก ด้วยระยะเวลาการขนส่งที่เร็วขึ้นสูงสุด 3 วัน ในกว่า 500 เส้นทางการค้า
· พอร์ตบริการ UPS Express ที่ครอบคลุมมากขึ้น ด้วยบริการส่งด่วนแบบถึงตามเวลาที่กำหนดสู่ปลายทางรหัสไปรษณีย์ในจีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์
· ขยายเวลาเข้ารับพัสดุเพิ่ม สำหรับการส่งออกสูงสุด 5 ชั่วโมงใน 4 ประเทศ [1] ช่วยให้กว่า 90,000องค์กรธุรกิจมีช่วงเวลาการผลิตเพิ่มขึ้นและสามารถรองรับคำสั่งซื้อแบบเร่งด่วนจากลูกค้า โดยขยายเวลาเข้ารับพัสดุเพื่อส่งออกได้นานสุดถึง 20:00 น.
· ขยายขีดความสามารถการขนส่งทางอากาศระหว่างทวีป ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 747-8 ใหม่ 7 ลำ ให้บริการในเส้นทางการค้าที่เชื่อมโยงเอเชียสู่สหรัฐอเมริกาและยุโรป โดยมีแผนเพิ่มจำนวนเครื่องบินใหม่ทั้งหมด 9 ลำเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการขนส่งสูงขึ้นกว่า 10% ภายในสิ้นปี 2561
· เปิดตัวบริการขนส่งทางรางใหม่ ระหว่างฮ่องกงและยุโรป ขยายบริการขนส่งทางรางระหว่างจีนและยุโรปโดยเพิ่มจุดจอด 9 จุดในจีน เยอรมนี ฮังการี เนเธอร์แลนด์ และโปแลนด์ เชื่อมโยงธุรกิจในสองภูมิภาคให้เข้าถึงกันมากขึ้น
· เพิ่มจุดรับสินค้าทางเลือกใหม่ ในพื้นที่ที่เดินทางเข้าถึงได้สะดวก เช่น อีเอฟล็อกเกอร์ หรือเอสเอฟสโตร์ เพิ่มความยืดหยุ่นในการรับสินค้ารองรับจำนวนนักช็อปออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในฮ่องกง
· เพิ่มจุดบริการลูกค้ารายย่อย ถึง 70% ในมาเลเซีย สู่เกือบ 180 จุดบริการใน 43 เมือง
นาย รัสเซล รี้ด กรรมการผู้จัดการ ยูพีเอส ประเทศไทย กล่าวว่า “ปัจจุบัน ประเทศไทยมีการลงทุนขนาดใหญ่ทางด้านโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ จากภาครัฐและเอกชน เนื่องจากประเทศกำลังพัฒนาจากเศรษฐกิจฐานการผลิตสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรมที่มุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มตามนโยบายประเทศไทย 4.0 การขยายศักยภาพการบริการในไทยครั้งล่าสุดของเราก็ได้มุ่งส่งเสริมและเกื้อหนุนการลงทุนเหล่านี้ รวมถึงช่วยผลักดันให้ธุรกิจในประเทศได้เติบโตไปพร้อมกัน ยกตัวอย่างเช่น ยูพีเอสได้ขยายเวลาเข้ารับพัสดุเพิ่มสูงสุดถึง 7 ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้ามีเวลามากขึ้นในการจัดเตรียมสินค้าตามคำสั่งซื้อ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องแข่งกับเวลาอย่างไฮเทคและยานยนต์
ขณะที่รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์และนวัตกรรมระดับโลก ยูพีเอสจะมุ่งขยายบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถรองรับความต้องการด้านโลจิสติกส์ที่หลากหลายของลูกค้า และเพื่อส่งเสริมให้ลูกค้าขยายและเติบโตสู่ตลาดต่างประเทศได้อย่างแข็งแกร่ง”
ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ยูพีเอสมีการลงทุนในทั่วภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งการขยายบริการครอบคลุมพื้นที่หลายพันรหัสไปรษณีย์ทั่วจีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ ไทย และเวียดนาม นอกจากนั้นยังมีการร่วมทุนกับเอสเอฟเอ็กซ์เพรส ซึ่งเป็นผู้ให้บริการส่งสินค้าด่วนชั้นนำในจีน เพื่อขยายขอบข่ายบริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศจีน