'สุเทพ' ยัน "369 โรงพัก" ไม่เสร็จ ไม่เกี่ยวสัญญาประมูล

20 ส.ค. 2561 | 09:48 น.
'สุเทพ' หอบเอกสาร 94 หน้า แจง ป.ป.ช. ยัน! บริษัทที่ชนะการประมูลสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง ไม่เสร็จทันตามกำหนด ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการทำสัญญาการประมูล




สุเทพ-1

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เดินทางมาให้ถ้อยคำกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในข้อกล่าวหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต โครงการก่อสร้างสถานีตำรวจหรือโรงพักทดแทน 396 แห่ง โดยนายสุเทพได้เตรียมเอกสารชุดเดิมกว่า 94 หน้า ที่เคยยื่นต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2558 มายื่นประกอบการชี้แจงอีก เพื่อนำมายื่นประกอบกับคำชี้แจงของตนเองในครั้งนี้ ส่วนการชี้มูลความผิดก็ขึ้นอยู่กับคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. แต่ตนมั่นใจว่า การกระทำของตนนั้นไม่มีความผิด ที่ผ่านมา ตนทำงานตามขั้นตอนและมีหลักฐานเอกสารทุกอย่างยืนยันความบริสุทธิ์ได้

ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า มีการฮั้วประมูลเพื่อให้บางบริษัทได้รับการประมูลนั้น เรื่องนี้คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. มีอคติ เพราะถ้าอ่านข้อมูลเอกสารทั้งหมด คนธรรมดาก็เข้าใจได้ ไม่ต้องเป็นนักฎหมาย อยากบอกว่า สิ่งที่ ป.ป.ช. แถลงเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา ทำให้สังคมเข้าใจผิด และตนได้รับความเสียหาย ป.ป.ช. เคยพูดเช่นนี้มาหลายครั้ง และตนก็เคยชี้แจงมาหลายรอบ แต่เรื่องก็ยังไม่ยุติ ดังนั้น จึงต้องออกมาชี้แจงความชัดเจนอีกครั้ง เพื่อให้ทุกฝ่ายได้มีความเข้าใจ


สุเทพ-2

นายสุเทพ กล่าวว่า ส่วนบริษัทที่ชนะการประมูลดำเนินการสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง ไม่เสร็จทันตามกำหนด ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการทำสัญญาการประมูล เพราะเรื่องการทำสัญญาประมูลดำเนินการตามระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรีทุกขั้นตอนและถูกต้อง ส่วนขั้นตอนการก่อสร้างเป็นหน้าที่ของผู้ควบคุมกำกับตามเวลา ซึ่งตนไม่รู้ว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องของการควบคุมการก่อสร้าง

"การอนุมัติ การจัดซื้อจัดจ้าง การเปลี่ยนแปลงวิธีการประมูล และการทำสัญญา ทำถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของการก่อสร้างว่าจะเสร็จหรือไม่เสร็จ" นายสุเทพ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า "มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการประมูลแบบรายภาคมาเป็นการรวมศูนย์" นายสุเทพ กล่าวว่า เคยชี้แจงไปแล้วหลายรอบว่า ตอนที่อนุมัติครั้งแรกเป็นการพิจารณาตามที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. เป็นผู้เสนอมา ซึ่งตนเห็นว่า มีเหตุผลเรื่องของการแยกสัญญาออกเป็น 9 ภาค จึงอนุมัติให้ดำเนินการ

แต่ต่อมา ในสมัยของ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ เป็น ผบ.ตร. ได้เสนอแก้ไขสัญญาว่าจ้างใหม่ ให้เป็นไปตามกฎหมายงบประมาณ ปี 2553 ที่ออกมา หลังจากที่ได้มีการอนุมัติโครงการครั้งแรกไปแล้ว โดยระบุว่า หากเป็นโครงการเดียวกันไม่สามารถแยกเป็นหลายสัญญาได้ จึงเป็นที่มาของการเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญาใหม่ ให้ถูกต้องตามระเบียบงบประมาณ ปี 2553 ซึ่งทุกโครงการก็ทำตามระเบียบดังกล่าว


……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
"สุเทพ"ย้ำสร้างโรงพักไม่เสร็จ ไม่เกี่ยวสัญญาประมูล
ยุบกต.ตร.โรงพัก มอบกก.จังหวัดสอดส่องแทน


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว