ที่นี่ไม่มีความลับ : ขอตัว “ยิ่งลักษณ์” สร้าง EVENT ข่าว หรือหวังได้ตัวมาลงโทษ?
เหมือนเจอสภาพ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคดี เคลื่อนไหวที รัฐบาลของ ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ออก EVENT มาสักทีในการเอาจริงเอาจังไล่ล่า 2 พี่น้อง “ชินวัตร” ซึ่งหนีคดีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ลงโทษจำคุกทั้ง 2 พี่น้อง คราวนี้เป็นการออก EVENT ขอให้รัฐบาลอังกฤษส่งตัว น้องปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มารับโทษในประเทศไทย หลังจากที่ปล่อยให้เคลื่อนไหวเฉิดฉายในต่างแดนมานาน
เหมือนขึงขังยกสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน ปี 2454 หรือเมื่อ 107 ปีที่แล้ว เป็นเหตุเป็นผลที่อังกฤษต้องส่งตัวมาให้ทางการไทย ดำเนินคดีให้ได้ แต่พอเอาเข้าจริงทั้งหัวขบวนอย่าง ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าเป็นไปตามขั้นตอนปกติ หาใช่การเร่งรัดไม่ (ซึ่งก็น่าจะจริง) เพราะกว่าเรื่องการขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนจะเริ่มต้นทำนั่นเวลาผ่านไปกว่า 10 เดือน หลังคำพิพากษาของศาลให้จำคุกยิ่งลักษณ์ ผ่านไปแล้ว และเธอก็หนีไปปรากฎตัวทั้งในอังกฤษและรัสเซียอย่างไม่ยี่หระสายตาชาวไทยและชาวโลกเรียบร้อยโรงเรียนชินวัตรแล้ว
ย้อนไปดู 107 ปี แห่งสนธิสัญญาที่กรุงสยามทำกับสหราชอาณาจักร พยายามค้นหาข้อมูล พบกรณีเดียวที่อังกฤษ ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนมาดำเนินคดีในไทย คือคดีที่หนุ่มชาวอังกฤษ ชื่อ ลี อารอน เป็นผู้ต้องหาฆ่าทหารและนักกีฬาอเมริกันฟุตบอล ในจังหวัดภูเก็ต เมื่อปี2553 และกระบวนการยุติธรรมอังกฤษใช้เวลา 2 ปี ในการส่งตัวมาให้กระบวนการยุติธรรมไทยดำเนินคดี คือเมื่อเดือนธันวาคม 2555 ซึ่งน่าจะเป็นกรณีเดียวเท่านั้น
ส่วนที่เกือบได้ คือ คดี “ปิ่น จักกะพาก” แห่งเอกธนกิจ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ที่สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง 2540 ที่มีมูลค่าราว 1.766 ล้านบาท ศาลชั้นต้นของอังกฤษได้เห็นชอบกับข้อเสนอของทางการไทยให้ส่งตัวมาดำเนินคดีในไทย แต่ศาลอุทธรณ์ (ซึ่งเป็นศาลสูงสุดในการพิจารณาคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน) ตัดสินกลับคำพิพากษาให้ยกคำร้อง ผลคือ ปิ่น จักกะพาก ลอยนวล
ยกท่าทีของคนในรัฐบาลและประวัติศาสตร์มา เพราะเชื่อว่ากระบวนการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่ไม่ได้เห็นด้วยกับ ชัยเกษม นิติสิริ นักกฎหมายค่ายเพื่อไทย ที่มองว่าคดีของนักโทษยิ่งลักษณ์ ไม่เข้าข่ายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ด้วยคนเพื่อไทยย่อมไม่แสดงความเห็นที่เป็นลบกับ “นาย” จึงไม่ใช่สาระที่นำมาใส่ใจ เพียงแต่ทันทีที่ ทักษิณ ชินวัตร เริ่มเปิดฉากทำสงครามการเมืองรอบใหม่ การ “ขู่” ไล่ล่าจากอีกฝั่งก็เกิดขึ้นทั้งที่เงียบมานาน จึงขอหยิบเรื่องนี้มาสะกิดกันเล็กน้อย เพราะโดยส่วนตัวเชื่อว่าหมดหวังที่จะจับตัวมารับโทษ ดูตัวอย่างผู้พี่ถูกคำพิพากษามาร่วมทศวรรษ ยังลอยชาย ทั้งโลกโจมตีกระบวนการยุติธรรมและรัฐบาลไทย อยู่อย่างสม่ำเสมอ ที่รัฐบาลทั้งเลือกตั้งและลากตั้งมิสามารถลากคอมารับโทษได้เลย
ส่วนข่าวฮือฮาของสื่อไทยที่ว่าหลังกระทรวงการต่างประเทศส่งหนังสือถึงรัฐบาลอังกฤษ ทำให้ น้องปู-ยิ่งลักษณ์ ต้องเผ่นไปตั้งหลักกบดานที่ดูไบ นั่นก็อย่าคิดมาก แค่คนที่ไม่ได้เป็นพลเมืองอังกฤษและยังไม่ได้สถานะ “ผู้ลี้ภัย” จะอาศัยอยู่ในอังกฤษตลอดไปไม่ได้ ต้องออกนอกประเทศ เมื่อหมดระยะเวลาวีซ่าที่พึงอยู่ได้ แล้วค่อยขอกลับเข้ามาอยู่ใหม่ เหมือนพลเมืองมอนเตเนโกร ผู้พี่ที่สิงสถิตไหนไม่ได้เป็นหลักแหล่งนานๆ ต้องเปลี่ยนที่ขอวีซ่า เหมือน “เจ้าไม่มีศาล” ไปเรื่อยๆ ไม่งั้นคงไม่มีเสียงบ่นมาเป็นระยะๆ จาก ทักษิณ ว่า “อยากกลับบ้าน” และเป็นแรงจูงใจสำคัญของ 2 พี่น้องคู่นี้ที่จะต้องทำสงครามเพื่อ “แย่งชิง” อำนาจทางการเมืองกลับมา เพราะหากไม่มีอำนาจไปออกกฎหมาย สร้างเงื่อนไขให้ “กลับบ้านได้” ในช่วงที่ยังมีลมหายใจอยู่ คงกลับมาได้แค่ “ร่างที่ไร้วิญญาณ” แค่นั้น
คอลัมน์ : ที่นี่ไม่มีความลับ โดย...เอราวัณ | หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3389 หน้า 16 ระหว่างวันที่ 5-8 ส.ค. 2561
เหมือนขึงขังยกสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน ปี 2454 หรือเมื่อ 107 ปีที่แล้ว เป็นเหตุเป็นผลที่อังกฤษต้องส่งตัวมาให้ทางการไทย ดำเนินคดีให้ได้ แต่พอเอาเข้าจริงทั้งหัวขบวนอย่าง ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าเป็นไปตามขั้นตอนปกติ หาใช่การเร่งรัดไม่ (ซึ่งก็น่าจะจริง) เพราะกว่าเรื่องการขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนจะเริ่มต้นทำนั่นเวลาผ่านไปกว่า 10 เดือน หลังคำพิพากษาของศาลให้จำคุกยิ่งลักษณ์ ผ่านไปแล้ว และเธอก็หนีไปปรากฎตัวทั้งในอังกฤษและรัสเซียอย่างไม่ยี่หระสายตาชาวไทยและชาวโลกเรียบร้อยโรงเรียนชินวัตรแล้ว
ส่วนที่เกือบได้ คือ คดี “ปิ่น จักกะพาก” แห่งเอกธนกิจ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ที่สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง 2540 ที่มีมูลค่าราว 1.766 ล้านบาท ศาลชั้นต้นของอังกฤษได้เห็นชอบกับข้อเสนอของทางการไทยให้ส่งตัวมาดำเนินคดีในไทย แต่ศาลอุทธรณ์ (ซึ่งเป็นศาลสูงสุดในการพิจารณาคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน) ตัดสินกลับคำพิพากษาให้ยกคำร้อง ผลคือ ปิ่น จักกะพาก ลอยนวล
ยกท่าทีของคนในรัฐบาลและประวัติศาสตร์มา เพราะเชื่อว่ากระบวนการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่ไม่ได้เห็นด้วยกับ ชัยเกษม นิติสิริ นักกฎหมายค่ายเพื่อไทย ที่มองว่าคดีของนักโทษยิ่งลักษณ์ ไม่เข้าข่ายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ด้วยคนเพื่อไทยย่อมไม่แสดงความเห็นที่เป็นลบกับ “นาย” จึงไม่ใช่สาระที่นำมาใส่ใจ เพียงแต่ทันทีที่ ทักษิณ ชินวัตร เริ่มเปิดฉากทำสงครามการเมืองรอบใหม่ การ “ขู่” ไล่ล่าจากอีกฝั่งก็เกิดขึ้นทั้งที่เงียบมานาน จึงขอหยิบเรื่องนี้มาสะกิดกันเล็กน้อย เพราะโดยส่วนตัวเชื่อว่าหมดหวังที่จะจับตัวมารับโทษ ดูตัวอย่างผู้พี่ถูกคำพิพากษามาร่วมทศวรรษ ยังลอยชาย ทั้งโลกโจมตีกระบวนการยุติธรรมและรัฐบาลไทย อยู่อย่างสม่ำเสมอ ที่รัฐบาลทั้งเลือกตั้งและลากตั้งมิสามารถลากคอมารับโทษได้เลย
ส่วนข่าวฮือฮาของสื่อไทยที่ว่าหลังกระทรวงการต่างประเทศส่งหนังสือถึงรัฐบาลอังกฤษ ทำให้ น้องปู-ยิ่งลักษณ์ ต้องเผ่นไปตั้งหลักกบดานที่ดูไบ นั่นก็อย่าคิดมาก แค่คนที่ไม่ได้เป็นพลเมืองอังกฤษและยังไม่ได้สถานะ “ผู้ลี้ภัย” จะอาศัยอยู่ในอังกฤษตลอดไปไม่ได้ ต้องออกนอกประเทศ เมื่อหมดระยะเวลาวีซ่าที่พึงอยู่ได้ แล้วค่อยขอกลับเข้ามาอยู่ใหม่ เหมือนพลเมืองมอนเตเนโกร ผู้พี่ที่สิงสถิตไหนไม่ได้เป็นหลักแหล่งนานๆ ต้องเปลี่ยนที่ขอวีซ่า เหมือน “เจ้าไม่มีศาล” ไปเรื่อยๆ ไม่งั้นคงไม่มีเสียงบ่นมาเป็นระยะๆ จาก ทักษิณ ว่า “อยากกลับบ้าน” และเป็นแรงจูงใจสำคัญของ 2 พี่น้องคู่นี้ที่จะต้องทำสงครามเพื่อ “แย่งชิง” อำนาจทางการเมืองกลับมา เพราะหากไม่มีอำนาจไปออกกฎหมาย สร้างเงื่อนไขให้ “กลับบ้านได้” ในช่วงที่ยังมีลมหายใจอยู่ คงกลับมาได้แค่ “ร่างที่ไร้วิญญาณ” แค่นั้น
คอลัมน์ : ที่นี่ไม่มีความลับ โดย...เอราวัณ | หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3389 หน้า 16 ระหว่างวันที่ 5-8 ส.ค. 2561