นำเข้าLNG5ล้านตัน รับการใช้ไฟฟ้าพุ่ง
ปตท.เตรียมนำเข้าแอลเอ็นจีปีหน้ากว่า 5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีนี้ 1 ล้านตัน หนุนสร้างโรงไฟฟ้าหลักรองรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและรถยนต์อีวีที่จะเข้ามาในอนาคต
นายวุฒิกร สติฐิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่จัดหาและตลาดก๊าซธรรมชาติ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปตท.มีแผนจัดหาและนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ในปี 2562 อยู่ที่ประมาณ 5 ล้านตัน จากปีนี้อยู่ที่ประมาณ 4 ล้านตัน โดยในจำนวนนี้แบ่งเป็นก๊าซที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า 65% ส่วนปริมาณการนำเข้าแอลเอ็นจีในอนาคตจะเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงไรนั้น คงต้องรอแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าระยะยาวของประเทศ (พีดีพี) ฉบับใหม่ คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในเดือนกันยายนนี้
ทั้งนี้ ปตท.จะทำหน้าที่จัดหาก๊าซแอลเอ็นจีตามแผน โดยปัจจุบันมีสัญญาระยะยาวแล้ว 4 สัญญา ได้แก่ สัญญานำเข้าแอลเอ็นจี 2 ล้านตันต่อปี จากประเทศกาตาร์, บริษัท SHELL EASTERN TRADING (PTE) LTD 1 ล้านตันต่อปี, บริษัท BP SINGAPORE PTE. LIMITED 1 ล้านตันต่อปี และบริษัท ปิโตรนาสฯของประเทศมาเลเซีย อีก 1.2 ล้านตันต่อปี รวมทั้งสิ้น 5.2 ล้านตันต่อปี
นอกจากนี้ปตท.ยังสามารถ จัดหาจากตลาดจร (สปอต) ได้เพิ่มขึ้นตามความต้องการ ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนการจัดหาก๊าซแอลเอ็นจี แบ่งเป็นสัญญาระยะยาว 70% ส่วนอีก 30% ซื้อจากตลาดจร ซึ่งตลาดจรในช่วงนี้ราคาแพงอยู่ที่ 9-10 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อล้านบีทียู เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 6-7 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อล้านบีทียู
นายวุฒิกร กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การที่ประเทศไทยต้องมีโรงไฟฟ้าหลักเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และรถยนต์ไฟฟ้า(อีวี) สถานีชาร์จไฟฟ้า ที่จะเข้ามาในอนาคต และยังคงมองว่าก๊าซเป็นเชื้อเพลิงหลัก
ส่วนการเจรจาเพื่อจัดหาก๊าซแอลเอ็นจีในรูปแบบสัญญาระยะยาวกับผู้ประกอบการรายใหม่นั้น ทาง ปตท. มีการเจรจากับผู้ผลิตก๊าซอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แหล่งก๊าซแอลเอ็นจีในโครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน ซึ่งบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตร เลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ร่วมถือหุ้นนั้น ก็มีการเจรจาด้วยเช่นกัน
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,389 วันที่ 5-8 สิงหาคม 2561
นายวุฒิกร สติฐิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่จัดหาและตลาดก๊าซธรรมชาติ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปตท.มีแผนจัดหาและนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ในปี 2562 อยู่ที่ประมาณ 5 ล้านตัน จากปีนี้อยู่ที่ประมาณ 4 ล้านตัน โดยในจำนวนนี้แบ่งเป็นก๊าซที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า 65% ส่วนปริมาณการนำเข้าแอลเอ็นจีในอนาคตจะเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงไรนั้น คงต้องรอแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าระยะยาวของประเทศ (พีดีพี) ฉบับใหม่ คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในเดือนกันยายนนี้
ทั้งนี้ ปตท.จะทำหน้าที่จัดหาก๊าซแอลเอ็นจีตามแผน โดยปัจจุบันมีสัญญาระยะยาวแล้ว 4 สัญญา ได้แก่ สัญญานำเข้าแอลเอ็นจี 2 ล้านตันต่อปี จากประเทศกาตาร์, บริษัท SHELL EASTERN TRADING (PTE) LTD 1 ล้านตันต่อปี, บริษัท BP SINGAPORE PTE. LIMITED 1 ล้านตันต่อปี และบริษัท ปิโตรนาสฯของประเทศมาเลเซีย อีก 1.2 ล้านตันต่อปี รวมทั้งสิ้น 5.2 ล้านตันต่อปี
นอกจากนี้ปตท.ยังสามารถ จัดหาจากตลาดจร (สปอต) ได้เพิ่มขึ้นตามความต้องการ ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนการจัดหาก๊าซแอลเอ็นจี แบ่งเป็นสัญญาระยะยาว 70% ส่วนอีก 30% ซื้อจากตลาดจร ซึ่งตลาดจรในช่วงนี้ราคาแพงอยู่ที่ 9-10 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อล้านบีทียู เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 6-7 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อล้านบีทียู
นายวุฒิกร กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การที่ประเทศไทยต้องมีโรงไฟฟ้าหลักเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และรถยนต์ไฟฟ้า(อีวี) สถานีชาร์จไฟฟ้า ที่จะเข้ามาในอนาคต และยังคงมองว่าก๊าซเป็นเชื้อเพลิงหลัก
ส่วนการเจรจาเพื่อจัดหาก๊าซแอลเอ็นจีในรูปแบบสัญญาระยะยาวกับผู้ประกอบการรายใหม่นั้น ทาง ปตท. มีการเจรจากับผู้ผลิตก๊าซอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แหล่งก๊าซแอลเอ็นจีในโครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน ซึ่งบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตร เลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ร่วมถือหุ้นนั้น ก็มีการเจรจาด้วยเช่นกัน
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,389 วันที่ 5-8 สิงหาคม 2561
