เรียนรู้สมาร์ทโฮม เพื่อก้าวสู่สมาร์ทลิฟวิ่ง

04 ส.ค. 2561 | 09:27 น.
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทคโนโลยีที่ลํ้าสมัยในปัจจุบันมีส่วนช่วยให้การใช้ชีวิตของเราสะดวกสบายมากขึ้น

แตกต่างจากเมื่อครั้งวัยเด็กจนแทบนึกภาพไม่ออกว่าทุกวันนี้แค่เพียงสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียวก็ช่วยให้เราหลุดพ้นจากการพกพวงกุญแจบ้านติดตัว หรือแม้แต่หากเราลืมปิดไฟหน้าบ้าน ก็แค่สั่งการผ่านสมาร์ทโฟน โดยไม่ต้องวนรถกลับมาปิดสวิตช์ไฟด้วยตัวเอง ซึ่งการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีเข้ากับบ้านนี้เราคุ้นเคยกันดีในชื่อของ “สมาร์ทโฮม” หรือบ้านที่ช่วยให้เราจัดการชีวิตของเราได้ง่ายขึ้น ลดความเสี่ยงในการใช้ชีวิตแต่ละวันให้น้อยลง และนำไปสู่ความสุขของผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านให้มีเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

smarthome

โดยหลักแล้วสมาร์ทโฮมจะถูกออกแบบมาให้เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน ให้ใช้ง่าย ไม่มีความซับซ้อน ซึ่งในทุกวันนี้บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เองก็ได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใส่ไว้ในโครงการใหม่ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรือคอนโดมิเนียม ล้วนแต่แฝงไว้ด้วยเทคโนโลยีลํ้าสมัยอยู่แทบทุกอาคาร โดยบางโครงการก็ไม่ได้มีเพียงแค่การเป็นสมาร์ทโฮมหรือสมาร์ทบิลดิ้งเท่านั้น แต่ก้าวไปสู่การเป็นอาคารสีเขียวที่มีความอัจฉริยะ และช่วยลดพลังงานที่ใช้ในแต่ละวันด้วย เช่นอาคารบางแห่ง ถูกออกแบบมาเพื่อให้ประหยัดพลังงาน ตั้งแต่การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และการเปิดปิดม่านบังแสงตามองศาของการส่องสว่างของแสงอาทิตย์แล้วนำมาคำนวณการเปิดไฟฟ้าส่องสว่างในอาคารให้มีความสมดุลกัน ซึ่งหากแสงจากภายนอกมีเพียงพอก็จะช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้มาก

อย่างไรก็ตามเมื่อเทคโน โลยีลํ้าหน้าไปทุกวัน ผู้บริโภคและผู้ที่มีหน้าที่ดูแลโครงการหมู่บ้านหรืออาคารต่างๆ ก็ต้องปรับตัวเองให้ก้าวทันเทคโนโลยี ด้วยการพัฒนาความรู้ความเข้าใจการใช้งานที่ถูกต้อง เพราะหากมีเทคโนโลยีที่ชาญฉลาดอยู่ในมือแล้ว แต่ไม่รู้วิธีใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดหรือไม่ได้ดูแลรักษาอย่างเหมาะสม การลงทุนในอาคารหรือโครงการต่างๆ ให้เป็นโครงการอัจฉริยะก็จะเป็นการลงทุนที่สูญเปล่า เช่น หากเป็นโครงการที่มีระบบให้บริการอำนวยความสะดวกต่างๆ ทางออนไลน์แก่ลูกบ้าน อย่างแอพพลิเคชันที่สามารถติดต่อกับนิติบุคคล ตรวจสอบพัสดุ จองพื้นที่ส่วนกลาง หรือแจ้งซ่อม ทีมงานผู้ดูแลอาคารควรต้องมีความรู้ความเข้าใจในด้านการใช้งานแอพพลิเคชัน เพื่อแนะนำการใช้งานแก่ลูกบ้านให้สามารถเข้าถึงบริการนี้ได้อย่างทั่วถึง เพื่อลดเวลาและขั้นตอนการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เป็นต้น

smarthome1

นอกจากนี้ในส่วนของผู้ดูแลอาคารหรือผู้ดูแลหมู่บ้านก็ต้องศึกษาหาความรู้ให้เท่าทันเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อนมากขึ้นในทุกวัน ซึ่งหากเจ้าหน้าที่มีความรู้ความเข้าใจการใช้เทคโนโลยีที่ถูกต้องและสามารถดูแลรักษาระบบได้อย่างมีมาตรฐาน ก็จะเป็นการช่วยรักษาผลประโยชน์ให้กับเจ้าของร่วมอีกทางหนึ่งให้ได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสูงสุด และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและบำรุงรักษาอาคาร ทำให้อาคารคงคุณค่าได้อย่างยาวนาน

เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาเป็นฟันเฟืองสำคัญในภาคอสังหาริมทรัพย์ ผู้ประกอบการจึงต้องปรับตัวให้ทัน ซึ่งผู้ประกอบการรายใดที่ก้าวทัน สามารถเลือกดึงเอาเทคโนโลยีที่เหมาะสมตอบโจทย์ความต้องการในการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยได้อย่างตรงจุดย่อมมีความได้เปรียบ แต่สิ่งสำคัญหลังจากการพัฒนาเทคโนโลยีคือเรื่องความสามารถในการบริหารจัดการดูแลเทคโนโลยีเหล่านั้น ให้สามารถใช้งานได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นการมีทีมงานที่เชี่ยวชาญ มีความรู้และทักษะเฉพาะด้าน สามารถปฏิบัติงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีได้อย่างมีศักยภาพ ย่อมเป็นโอกาสที่ช่วยผลักดันองค์กรให้ก้าวเป็นผู้เล่นอันดับต้นๆ ในวงการอสังหาริมทรัพย์ได้ อย่างที่เห็นได้จากผู้ประกอบการบางรายได้มีการจัดตั้งสถาบันพัฒนาศักยภาพพนักงาน โดยเฉพาะในส่วนงานบริหารโครงการที่พักอาศัย เพื่อพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมเสริมสร้างความรู้ให้กับเจ้าหน้าที่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความสามารถในการบริหารจัดการเทคโนโลยีเพื่อที่อยู่อาศัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรให้สามารถให้บริการได้อย่างมีมาตรฐาน และสิ่งสำคัญคือเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัยในแต่ละอาคารนั่นเอง

หน้า 31 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3387 ระหว่างวันที่ 29 ก.ค. - 1 สิงหาคม 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว