ไม่ได้ผิดความคาดหมายใดๆ ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. จะออกคำชี้แจงหาความชอบธรรมในการยื้อการสอบสวนการได้มาซึ่ง
“นาฬิกาหรู” ของ ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เพราะไม่มีความคาดหวังใดๆ ตั้งแต่ต้นว่าป.ป.ช.ชุดนี้จะสามารถสอบสวนเรื่องนี้ได้อย่างตรงไปตรงมาและไม่ไว้หน้าใครเหมือนการสอบสวนเรื่องอื่นๆ
[caption id="attachment_300374" align="aligncenter" width="503"]
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ[/caption]
ถ้อยแถลงของ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช. และ วรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการป.ป.ช. บอกว่าที่ไม่สามารถตรวจสอบหาชื่อผู้ซื้อจากบริษัทผู้จำหน่ายนาฬิกาได้ เนื่องจากกฎหมายไทยไปบังคับใช้กับเอกชนต่างประเทศไม่ได้ เป็นถ้อยแถลงแบบ
“กำปั้นทุบดิน” ป.ป.ช.ได้เคยขอความร่วมมือรัฐบาลประเทศที่บริษัทเอกชนนั้นสังกัดแล้วหรือยัง ในกรณี ริชาร์ด มิลล์ นาฬิกายี่ห้อนี้ ป.ป.ช. ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์แล้วบ้างมั้ย ประเทศเหล่านี้อยู่ในอนุสัญญาต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันมั้ย ช่วยแถลงให้เป็นที่ประจักษ์หน่อย เพราะแน่นอนว่าเอกชนเขาย่อมปกปิดความลับของลูกค้า แต่ถ้ารัฐเขาใช้กฎหมายหรือขอความร่วมมือ ย่อมมีช่องทางที่หาข้อมูลได้
[caption id="attachment_300384" align="aligncenter" width="503"]
วรวิทย์ สุขบุญ[/caption]
โรลส์-รอยซ์ เขาใช้วิธีการรัฐติดต่อกับรัฐเพื่อให้รัฐบาลที่มีอำนาจอธิปไตยเหนือเอกชนที่อยู่ภายใต้รัฐนั้น ให้ข้อมูลและความร่วมมือ หากป.ป.ช.ไม่เข้าใจหลักปฏิบัติอันนี้ และอ้างว่าเอกชนตัวแทนผู้จำหน่ายนาฬิกาไม่ให้ข้อมูล ก็ขอให้ออกไปทั้งชุด เปิดโอกาสให้คนที่เขารู้และทำเป็นมาทำงานดีกว่า
ไม่แปลกใจนัก ภาคเอกชนที่ต่อต้านการคอร์รัปชัน ทั้ง มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน วิญญู ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ รวมทั้ง ต่อตระกูล ยมนาค ประธานอนุกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ในคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) จึงดาหน้ามาชี้ว่านี้คือวิธีการ
“ยื้อ” การตรวจสอบของป.ป.ช. และเรียกร้องให้สังคมมากดดันให้ป.ป.ช.ทำงานในแนวทาง ที่ถูกต้อง
ว่ากันตามตรงเรียกร้องหา
“สามัญสำนึกในหน้าที่” จากป.ป.ช.ชุดนี้คงลำบาก เพราะขนาดเรื่องพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยป.ป.ช. อันมีประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อนในการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการชุดนี้ยังส่งคนที่เป็นกรรมการป.ป.ช. 3 คน เข้าไปเป็นกรรมการวิสามัญพิจารณาแก้ไขกฎหมาย พร้อมผู้ถูกกล่าวหาในคดีป.ป.ช.อีก 2 คน ที่เข้าไปเป็นคณะกรรมการวิสามัญ จึงร่างกฎหมายออกมามีบทฉพาะกาลไม่ต้อง
“เซตซีโร่” ป.ป.ช.ชุดนี้เหมือน กกต. จึงทำให้ดำรงตำแหน่งอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้
อนิจจา...ที่มายังคลุมเครือเรื่องการหลบหลีกรัฐธรรมนูญโดยอาศัยกฎหมายลูก ยังจะตั้งความหวังในการตรวจสอบทุจริตที่
“ไม่เลือกปฏิบัติ” อีกหรือ เอวัง...
|คอลัมน์ : ที่นี่ไม่มีความลับ
|โดย เอราวัณ
|หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3386 หน้า 14 ระหว่างวันที่ 26-28 ก.ค.2561