ก.ล.ต.จี้GGC เร่งแจงผลสอบ โบรกฯชี้กระทบ PTTGC 4%
ก.ล.ต.จี้บอร์ด GGC เร่งตรวจสอบวัตถุดิบคงคลังสูญหายมูลค่า 2.1 พันล้านบาท ให้เปิดเผยผลสอบแจงสาธารณชนภายในสิ้นเดือนก.ค.นี้ นักวิเคราะห์ประเมินผลกระทบกำไรบริษัทแม่ PTTGC ไม่มาก มองราคาปัจจุบันตอบรับแล้ว
จากกรณีที่บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC ได้เปิดเผยข้อมูลผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับปัญหาเรื่องข้อมูลวัตถุดิบคงคลังในระบบของบริษัทมีจำนวนที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญกับปริมาณวัตถุดิบคงคลังที่มีอยู่จริง ณ สถานที่เก็บรักษาวัตถุดิบที่ฝากไว้กับคู่ค้า ซึ่งวัตถุดิบคงคลังส่วนที่ขาดหายไปจะต้องทวงถามหรือติดตามคืน คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 2,100 ล้านบาทนั้น
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลัก ทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีหนังสือให้คณะกรรมการ GGC ชี้แจงประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการจัดการเกี่ยวกับวัตถุดิบคงคลังของ GGC การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ GGC และผู้ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการประเมินความเพียงพอของระบบควบคุมภายในของบริษัทเพื่อป้องกันมิให้เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นอีก พร้อมทั้งให้เปิดเผยผลการตรวจสอบให้สาธารณชนทราบผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ฯภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2561
นายจักรพงศ์ เชวงศรี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่ากรณีที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อคาดการณ์กำไรของบริษัทแม่ (บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอลหรือ PTTGC ถือ 72.29%) ไม่มากเพียง 3-4% แต่จะส่งผลต่อความเชื่อมั่น มูลค่าหุ้น GGC ให้ปรับลง โดยราคาหุ้น ณ ปัจจุบันได้สะท้อนผลรับไปแล้ว อย่างไรก็ดีหุ้นในกลุ่มเคมิคอลต้องจับตาผลกระทบสงครามการค้าโลก เพราะดีมานด์ของหุ้นกลุ่มนี้ขึ้นกับอัตราเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ หรือ DBSV คาดผลกระทบต่อ PTTGC ไม่มาก กรณีกระทบมากสุด คือ ทาง GGC ต้องตั้งสำรองฯสำหรับมูลค่าสต๊อก ที่หายไปเต็มจำนวน 2.1 พันล้านบาท จะกระทบต่อ PTTGC 1.52 พันล้านบาท คิดเป็น 0.34 บาทต่อหุ้นของ PTTGC และคิดเป็น 3.7% ของคาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ในปีนี้ที่บริษัทประมาณการ
ราคาหุ้น GGC ปิดตลาดวันที่ 6 กรกฎาคมที่ระดับ 9.35 บาท เพิ่มขึ้น 3% เทียบกับปิดตลาดวันที่ 26 มิถุนายนที่ 13.10 บาท ปรับตัวลดลง 29% ส่วนราคาหุ้น PTTGC ปิดวันที่ 6 กรกฎาคมที่ 74 บาท เพิ่มขึ้น 3%
……………….……………….……………….
หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,381 วันที่ 8-11 ก.ค. 2561
จากกรณีที่บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC ได้เปิดเผยข้อมูลผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับปัญหาเรื่องข้อมูลวัตถุดิบคงคลังในระบบของบริษัทมีจำนวนที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญกับปริมาณวัตถุดิบคงคลังที่มีอยู่จริง ณ สถานที่เก็บรักษาวัตถุดิบที่ฝากไว้กับคู่ค้า ซึ่งวัตถุดิบคงคลังส่วนที่ขาดหายไปจะต้องทวงถามหรือติดตามคืน คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 2,100 ล้านบาทนั้น
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลัก ทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีหนังสือให้คณะกรรมการ GGC ชี้แจงประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการจัดการเกี่ยวกับวัตถุดิบคงคลังของ GGC การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ GGC และผู้ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการประเมินความเพียงพอของระบบควบคุมภายในของบริษัทเพื่อป้องกันมิให้เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นอีก พร้อมทั้งให้เปิดเผยผลการตรวจสอบให้สาธารณชนทราบผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ฯภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2561
นายจักรพงศ์ เชวงศรี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่ากรณีที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อคาดการณ์กำไรของบริษัทแม่ (บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอลหรือ PTTGC ถือ 72.29%) ไม่มากเพียง 3-4% แต่จะส่งผลต่อความเชื่อมั่น มูลค่าหุ้น GGC ให้ปรับลง โดยราคาหุ้น ณ ปัจจุบันได้สะท้อนผลรับไปแล้ว อย่างไรก็ดีหุ้นในกลุ่มเคมิคอลต้องจับตาผลกระทบสงครามการค้าโลก เพราะดีมานด์ของหุ้นกลุ่มนี้ขึ้นกับอัตราเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ หรือ DBSV คาดผลกระทบต่อ PTTGC ไม่มาก กรณีกระทบมากสุด คือ ทาง GGC ต้องตั้งสำรองฯสำหรับมูลค่าสต๊อก ที่หายไปเต็มจำนวน 2.1 พันล้านบาท จะกระทบต่อ PTTGC 1.52 พันล้านบาท คิดเป็น 0.34 บาทต่อหุ้นของ PTTGC และคิดเป็น 3.7% ของคาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ในปีนี้ที่บริษัทประมาณการ
ราคาหุ้น GGC ปิดตลาดวันที่ 6 กรกฎาคมที่ระดับ 9.35 บาท เพิ่มขึ้น 3% เทียบกับปิดตลาดวันที่ 26 มิถุนายนที่ 13.10 บาท ปรับตัวลดลง 29% ส่วนราคาหุ้น PTTGC ปิดวันที่ 6 กรกฎาคมที่ 74 บาท เพิ่มขึ้น 3%
……………….……………….……………….
หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,381 วันที่ 8-11 ก.ค. 2561
