'วรรณ' แนะลงหุ้นพื้นฐาน! เน้นกำไรโตสูง เลี่ยงผลกระทบจากสงครามการค้า

05 ส.ค. 2561 | 17:33 น.
บลจ.วรรณฯ ชี้! เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว หนุนลงทุนหุ้น เหตุตราสารหนี้ได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยขาขึ้น ชี้! กลุ่มกำไรเติบโตสูงน่าลงทุน ผลกระทบจากสงครามการค้ามีจำกัด คาดสหรัฐฯ-จีนร่วมเจรจาหาข้อสรุป แนะติดตามนโยบายดอกเบี้ยสหรัฐฯ และยุโรปยุติ QE สิ้นปี

นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งนำโดยเศรษฐกิจประเทศสหรัฐฯ เป็นหลัก ได้ส่งผลดีต่อการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทหุ้นมากกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ที่จะยังคงได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นตาม ส่งผลให้ราคาของตราสารหนี้ลดลง

[caption id="attachment_295665" align="aligncenter" width="337"] พจน์ หะริณสุต พจน์ หะริณสุต[/caption]

อย่างไรก็ตาม ปัญหาสงครามการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ และประเทศจีน ยังส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกและตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) เป็นระยะ สะท้อนได้จากการที่ทิศทางค่าเงินหยวนของประเทศจีนที่อ่อนค่าลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับมาตรการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ และจีน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้

"ความไม่แน่นอนเรื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ยังคงกดดันต่อตลาดหุ้นทั่วโลกเป็นระยะ ๆ แต่มองว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้ง 2 ฝ่าย จะหาทางออกร่วมกันได้ และได้บทสรุปที่ชัดเจน"

ดังนั้น การลงทุนในตลาดหุ้นช่วงนี้ ควรเน้นเรื่องของปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก การคัดเลือกหุ้นที่เหมาะสำหรับการลงทุน ควรเป็นหุ้นที่มีอัตราการเติบโตสูง และหลีกเลี่ยงหุ้นที่ได้รับผลกระทบมากจากสงครามการค้า เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญและมีผลต่อตลาดอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า คือ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และการยุติมาตรการ QE ของธนาคารกลางยุโรปในปีนี้ เพราะการเปลี่ยนโนบายทางการเงินจากผ่อนคลายมาเป็นเข้มงวดบ่งบอกได้ว่า เศรษฐกิจโลกยังมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและขยายตัวได้ดี ทำให้ต้องมีการควบคุมปริมาณเงินในระบบและอัตราเงินเฟ้อ

นอกจากปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจโลกที่แข็งแกร่งแล้วนั้น บลจ.วรรณฯ ยังมองว่า ธนาคารกลางทั่วโลกจะเริ่มพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อรักษาส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยในประเทศของตนกับประเทศสหรัฐฯ ไม่ให้แตกต่างกันมากจนเกินไป แต่ทิศทางการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวของแต่ละประเทศจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะอัตราดอกเบี้ยในประเทศต้องเหมาะสมและเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศด้วยเช่นกัน

สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ บริษัทแนะนำกองทุนเปิด วรรณ อัลติเมท โกลบอล โกรว์ธ (ONE-UGG) ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุน Baillie Gifford Long Term Global Growth Fund เน้นลงทุนในหุ้นที่มีอัตราการเติบโตระดับสูงในระยะยาว เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี สูงถึง 44.4% กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคแบบฟุ่มเฟือย ที่ 34.1% รวมถึงกลุ่มเทคโนโลยีการแพทย์ชั้นสูง อยู่ที่ 14.3%

"ช่วงครึ่งแรกของปีนี้ กองทุน ONE-UGG สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงถึง 17.22% สูงสุดเป็นอันดับ 1 ในบรรดากองทุนรวมทั้งหมดในไทย จากภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนเช่นนี้ จึงมองเป็นโอกาสในการทยอยเข้าสะสมการลงทุนในกองทุน ONE-UGG"


……………….
เซกชัน : กองทุน โดย นสพ.ฐานเศรษฐกิจ

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,381 วันที่ 8-11 ก.ค. 2561 หน้า 19

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เปิดทางลูกจ้างลงทุนกบช. ‘วรวรรณ’เดินหน้าค้านตั้งสำนักงาน
เอสซีบีปฎิเสธสินเชื่อ "อนันต์" ล้มดีลซื้อหุ้น LH



e-book-1-503x62