ประธานอีซีบีชี้เงินเฟ้อยูโรโซนอ่อนแอกว่าที่ประเมินไว้เมื่อเดือนธันวาคม นับเป็นการเน้นย้ำถึงความพร้อมในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนมีนาคม
นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป หรืออีซีบี กล่าวต่อรัฐสภายุโรปในสัปดาห์นี้ว่า ปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจยูโรโซนมีเพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่ ความผันผวนของตลาดการเงินและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ นอกจากนี้ นายดรากียังชี้ให้เห็นว่า แนวโน้มเงินเฟ้อของยูโรโซนมีความอ่อนแอกว่าการคาดการณ์เมื่อเดือนธันวาคม
ในการประชุมเดือนธันวาคม อีซีบีตัดสินใจขยายเวลาการดำเนินนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือคิวอี ด้วยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลด้วยมูลค่า 6 หมื่นล้านยูโรออกไปจนถึงเดือนมีนาคม 2560 เพื่อกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำมาก ก่อนที่การประชุมครั้งล่าสุดในเดือนมกราคม นายดรากีกล่าวว่าทางธนาคารจะทำการทบทวนและพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ในเดือนมีนาคม ทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าอีซีบีจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติม
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติยุโรประบุว่า อัตราเงินเฟ้อยูโรโซนปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 0.4% ในเดือนมกราคมเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากระดับ 0.2% ในเดือนธันวาคม แต่ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายใกล้เคียง 2% ของอีซีบีอยู่มาก
นายดรากีกล่าวว่า แม้ว่าราคาน้ำมันที่ลดต่ำลงมากจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ แต่ค่าแรงก็เพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้ากว่าความคาดหมาย และแนวโน้มเงินเฟ้อในอนาคตก็ลดต่ำลง ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ทำให้จำเป็นต้องมีการวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนว่าอัตราเงินเฟ้อต่ำจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มราคาสินค้าในอนาคตและอัตราค่าแรงในภูมิภาคยูโรโซนอย่างไร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทางการของอีซีบีต้องการความมั่นใจว่าราคาพลังงานที่ลดลงจะไม่กระเทือนไปถึงอัตราค่าแรงและราคาสินค้าอื่นๆ
นอกจากนี้ นายดรากีระบุถึงความท้าทายเชิงนโยบายที่อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซน อาทิ ความผันผวนในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ซึ่งอาจะกระทบต่อความต้องการการส่งออกของภูมิภาค และความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหภาพยุโรป อาทิเช่น การลงประชามติของอังกฤษเพื่อตัดสินอนาคตในสหภาพยุโรป เป็นต้น
ประธานอีซีบียังกล่าวสนับสนุนการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของอังกฤษต่อไปด้วย "ทางออกที่จะทำให้ความสัมพันธ์ของสหราชอาณาจักรแนบแน่นในสหภาพยุโรป พร้อมกับการบูรณาการของยูโรโซนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นจะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่น"
ขณะเดียวกัน ผลการสำรวจกิจกรรมของภาคการผลิตในยูโรโซนโดยมาร์คิตประจำเดือนมกราคมแสดงให้เห็นว่า การตั้งราคาสินค้าของโรงงานผลิตลดลงต่ำที่สุดในรอบปี สะท้อนถึงความเสี่ยงต่อภาวะเงินฝืด "ภาคการผลิตของยูโรโซนเริ่มต้นปีได้อย่างไม่สดใสนัก ถ้ากิจกรรมของภาคธุรกิจที่ชะลอตัวลงไม่เพียงพอจะสร้างความกังวลให้ผู้กำหนดนโยบาย การลดลงอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบปีของราคาที่กำหนดโดยผู้ผลิตเป็นปัจจัยที่สร้างความกังวลเพิ่มเติมว่าภาวะเงินฝืดกำลังเกิดขึ้น" คริส วิลเลียมสัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของมาร์คิตกล่าว
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของยูโรโซนลดลงจาก 53.2 เหลือ 52.3 ในเดือนมกราคม โดยในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ การเติบโตชะลอตัวในเยอรมนีและอิตาลี ไม่มีการเติบโตในฝรั่งเศส และเติบโตขึ้นในสเปน
"ข้อมูลชุดนี้น่าจะเพิ่มแรงกดดันต่ออีซีบีในการขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร็วในเดือนมีนาคม" วิลเลียมสันให้ความเห็น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,128 วันที่ 4 - 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559