เชนมะกัน‘คาร์ลสันเรซิดอร์’ รุกเพิ่มโรงแรมในไทยเป็น 2 เท่า

04 ก.พ. 2559 | 12:00 น.
ที่ผ่านมาแม้ชื่อของเชนบริหารโรงแรมจากสหรัฐอเมริกา อย่าง "คาร์ลสันเรซิดอร์" อาจจะยังไม่คุ้นหูสำหรับคนไทยมากนัก เพราะปัจจุบันมีโรงแรมในไทยที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของเชนนี้อยู่ 4 แห่ง จากโรงแรมในกลุ่มมากกว่า 1,370 แห่ง และกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 2.2 แสนห้อง ครอบคลุม 110 ประเทศทั่วโลก แต่นับจากนี้จะเริ่มเห็นการเปิดแนวรุกในการขยายธุรกิจรับบริหารโรงแรมแบรนด์หรู ระดับกลาง ของเชนนี้ในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงในไทย เพิ่มขึ้น อ่านได้จากสัมภาษณ์ นายธอร์สเท่น เคิร์สชเก้ ประธานกรรมการ กลุ่มโรงแรมคาร์ลสันเรซิดอร์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

 เล็งบริหารรร.ในไทยอีก 6 แห่ง

คุณเคิร์สชเก้ ในฐานะผู้กุมบังเหียนและรับผิดชอบด้านการวางแผนยุทธศาสตร์การเติบโตทางธุรกิจของกลุ่มโรงแรมคาร์สสันเรซิดอร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มโรงแรมคาร์ลสันเรซิดอร์ มีโรงแรมที่เปิดดำเนินกิจการและอยู่ระหว่างการพัฒนาในภูมิภาคนี้มากกว่า 190 แห่ง ภายใต้ 7 แบรนด์ ได้แก่ "โควร์วัส คอลเล็กชั่น" (แบรนด์โรงแรมน้องใหม่ระดับหรูหราที่ได้แรงบันดาลใจจากไลฟ์สไตล์จากนักเดินทางทั่วโลก เพื่อให้สัมผัสแห่งความสะดวกสบายเหนือระดับ) "เรดิสันบลู" (โดดเด่นด้วยสไตล์นำสมัย หรูหรา) "เรดิสัน" (ทัศนียภาพงดงามทันสมัย เน้นการให้บริการด้วยความจริงใจและรับผิดชอบต่อสังคม) "เรดิสันเรด" (โรงแรมแนวไลฟ์สไตล์) "พาร์คพลาซ่า" (เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและห้องพักมีสไตล์ตามรูปแบบของสถานที่ตั้งอย่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว "พาร์คอินบายเรดิสัน"(เน้นออกแบบอย่างมีสีสัน เน้นเทคโนโลยี หรูหราระดับกลาง)และ" คันทรี่อินส์แอนด์สวีทส์บายคาร์ลสัน" (หรูหราระดับกลางเน้นให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายมากที่สุดเหมือนพักที่บ้าน)

แม้จะมีถึง 7 แบรนด์ แต่ปัจจุบันคาร์ลสัน เรซิดอร์ มีโรงแรมในเครือ 4 แห่ง ในกรุงเทพฯ ภายใต้แบรนด์ 3 แบรนด์ ได้แก่ เรดิสัน บลู พลาซ่า กรุงเทพ, เรดิสัน สวีท กรุงเทพ สุขุมวิท, พาร์ค พลาซ่า สุขุมวิท กรุงเทพ และ พาร์ค พลาซ่า กรุงเทพ ซอย 18 และภายในไตรมาสสองของปีนี้ จะเปิดให้บริการ เรดิสัน บลู รีสอร์ท หัวหิน

"คาร์ลสัน เรซิดอร์ มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2558 เห็นได้จากการเซ็นสัญญาเป็นผู้บริหารโรงแรมในเอเชียแปซิฟิกทั้งหมด 23 แห่ง ขณะนี้ทางทีมผู้บริหารกำลังเจรจากับเจ้าของธุรกิจหลายแห่งในประเทศไทย ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าอย่างยิ่งว่าจะสามารถเปิดโรงแรมเพิ่มขึ้นได้อีก 6 แห่งในเมืองยุทธศาสตร์หลักอย่างกรุงเทพ ภูเก็ต และ พัทยา ภายใน 1 ปี ถึง 1 ปีครึ่ง ทางกลุ่มฯ คาดการณ์ว่าจะเติบโตในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องได้มากกว่าเท่าตัว ถ้าไม่นับรวมเรดิสันบลู หัวหิน ที่จะเปิดในไตรมาสที่ 2 ของปี 2559 นี้ โดยเติบโตไปพร้อมกับการขยายตัวของการท่องเที่ยวของไทย โดย The World Travel & Tourism Council ได้คาดการณ์ว่า ตั้งแต่ปี 2558 ไปจนถึง 2568 การท่องเที่ยวไทยจะมีอัตราเติบโตราว 6.7% ต่อปี และยังจะช่วย สร้างงานมากกว่า 3.4 ล้านอัตราภายในปี 2568 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 2.2 ล้านอัตรา"

 วางเป้าปักธงรร.ในเอเชีย 200 แห่ง

เขา มองว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ถือเป็นตลาดหลักและเป็นทำเลยุทธศาสตร์ของเครือคาร์สันเรซิดอร์ เพราะปัจจุบัน คาร์ลสัน เรสิดอร์ มีโรงแรมในเครือถึง 108 แห่ง และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 91 แห่ง ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี เป็นแรงสนับสนุน เพราะการเป็นเออีซี ก็เพื่อบูรณาการเศรษฐกิจของประเทศที่มีความหลากในหลายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้หลอมรวมเป็นหนึ่งเพื่อรองรับประชากรที่มีถึง 625 ล้านคนในภูมิภาค และมีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศมากถึง 2.5 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐในปี 2557 โดยการรวมตลาดและฐานการผลิตในอาเซียนเป็นหนึ่งเดียวจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและการเชื่อมต่อทางธุรกิจของภูมิภาคโดยรวม หากการดำเนินการเปิดเออีซีประสบความสำเร็จยังสามารถยกระดับการส่งออกโดยรวมเพิ่มขึ้น 7 %จากปี 2558 อาเซียนก็จะกลายเป็นเศรษฐกิจเดียวที่คาดว่าจะกลายเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสี่ของโลกในปี 2573 ตามหลังเพียงสหรัฐอเมริกาและจีน

ขณะที่ 10% ของ GDP ประเทศไทย สามารถมาจากการท่องเที่ยวและเป็นที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นอีก 6 % ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นับเป็นประเทศที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน ถนน และท่าเรือ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศ ด้วยเหตุนี้ ประเทศไทยจึงติด 1ใน20 อันดับแรกที่คาดการณ์ว่าจะมีการเจริญเติบโตในระยะยาว และการรวมกลุ่มเออีซี ต่อไปก็จะเป็นประโยชน์ในเรื่องของการเดินทางที่ไม่ต้องใช่วีซ่า และการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินที่มากขึ้น การค้าเสรีข้ามแดนและการส่งเสริมการการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ และนี่จะเป็นการส่งเสริมผลักดันให้ธุรกิจของกลุ่มคาร์ลสันเรซิดอร์เจริญเติบโตได้เป็นอย่างดีในภูมิภาคนี้

ไม่ว่าจะเป็นการมุ่งขยายสาขาในอินโดนีเซีย ด้วยการเซ็นสัญญากับกลุ่มธุรกิจอสังหาหลายโครงการกับซาเฟียร์ กรุ๊ป (Saphir Group)ในปีที่ผ่านมา และยังปิดโครงการเปิดโรงแรมแห่งใหม่อีก 2 แห่งในเมืองหลักทางธุรกิจอย่างบาหลีและจาร์กาต้า การเร่งขยายโรงแรมแนวไลฟ์สไตล์ภายใต้แบรนด์ เรดิสัน เรด ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงเมืองสำคัญๆ อย่าง โอ๊คแลนด์, กัวลาลัมเปอร์, เพิร์ธ และ ซิดนีย์ ในไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ เพิ่งเซ็นสัญญาเปิดโรงแรมเรดิสัน เรด กวางโจว เซาท์ สเตชั่น นับเป็นโรงแรมเรดิสันเรดอันดับที่ 5 ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในภูมิภาคนี้ ซึ่งกลุ่มเพิ่งเซ็นสัญญาเปิดโรงแรมเรดิสันเรดอีก 3 แห่งในเอเชียแปซิฟิก รวมถึงการร่วมทุนทางธุรกิจกับกลุ่มเบสเทค ฮอสพิทัลลิตี้ส์ ในอินเดีย กลุ่มพาโนรามาในอินโดนีเซีย และกลุ่มเอสเอ็มในฟิลิปปินส์ เพื่อเปิดโรงแรมใหม่ จากสิ่งที่เกิดขึ้น ถือเป็นการเดินไปสู่เป้าหมายที่คาร์สันเรซิดอร์ ตั้งเป้าไว้ว่าจะเปิดโรงแรมในเอเชีย แปซิฟิก ให้ครบ 200 แห่งภายในปี 2563

 วางกรอบธุรกิจ "เราทำได้"

การตั้งเป้าหมายในเชิงรุกเช่นนี้ เขาเชื่อมั่นว่าคาร์ลสัน เรซิดอร์ มีจุดยืนในการดำเนินธุรกิจโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างจากเชนโรงแรมอื่นๆ ตัวเขาเองจะให้เบอร์โทรศัพท์มือถือส่วนตัวกับเจ้าของธุรกิจโรงแรมทุกแห่งที่เข้าบริหาร เน้นการมีสัมพันธ์ภาพที่ดีและให้ทุกคนรู้สึกสะดวกในการติดต่อกับเขาได้ในทุกเวลาและทุกวันเมื่อพบปัญหาใดๆ เน้นการทำงานกับทีมงานของคาร์ลสันฯอย่างใกล้ชิด และตัวเขาเองก็รับทราบเรื่องข้อมูลของลูกค้า รวมถึงการติเตียนในทุกตลาดของคาร์ลสัน เรซิดอร์ เพราะตระหนักดีว่า ปัญหาของโรงแรมหนึ่งก็ไม่มีทางที่จะเหมือนกับปัญหาของอีกโรงแรมหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงใช้วิธีบริหารจัดการกับทุกปัญหาด้วยตัวเองและให้ดูแลทุกคนด้วยความเสมอภาคเท่าเทียมกัน

"เราไม่เชื่อว่าจะมีแผนกลยุทธ์ใดที่ครอบคลุมได้ทุกการดำเนินธุรกิจ และนี่อาจจะเป็นเหตุผลในการสร้างฐานความจงรักภักดีของลูกค้าจากทั่วโลก แต่สำหรับตลาดที่มีพื้นที่ภูมิศาสตร์ที่แตกต่างกัน เราต้องใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างเพื่อตอบสนองให้ตรงกับความต้องการของแต่ละแห่ง กลุ่มบริษัทของเรามีหลักศรัทธาเป็นกรอบในการดำเนินธุรกิจว่า "เราทำได้" (Yes I Can!) เราเชื่อในเรื่องของ "การให้บริการด้วยความเอาใจใส่" เน้นให้ทีมงานของเราให้ความเอาใจใส่ลูกค้าของเราเป็นอย่างดีและให้ลูกค้ารู้สึกเป็นคนพิเศษตลอดระเวลาที่พักอยู่กับเรา ทีมงานของเราทุกคนได้รับการสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานด้วยหลักศรัทธาที่ว่า "เราทำได้" เราต้องการให้ทีมงานของเราทุกคนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ไม่ว่าจะใน เอเชียแปซิฟิก ยุโรป หรืออเมริกาเหนือ"

อีกทั้งคาร์สันเรซิดอร์ ยังเน้นสร้างคุณค่าให้แตกต่างจากคู่แข่งขัน โดยลงทุนในการเรื่องแคมเปญการสร้างแบรนด์ต่างๆ อย่างเช่น Experience Meeting เน้นขายงานประชุมสำหรับแบรนด์เรดิสันบลู ซึ่งได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อปีที่แล้ว สำหรับโรงแรมเรดิสันที่มีอยู่ในเมืองสำคัญๆ ทุกแห่งในเอเชียแปซิฟิก รวมถึงถึง เซี่ยงไฮ้ กรุงเทพ และนิวเดลี

นี่เองจึงเป็นจุดเด่นที่เชนคาร์ลสันเรซิดอร์ ใช้เป็นกลยุทธในการปักธงการขยายแบรนด์โรงแรมสู่ภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,128 วันที่ 4 - 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559