Leadership Energy

07 ก.พ. 2559 | 23:00 น.
ผู้นำหลายท่านทำงานอย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย บางท่านทำงานอย่างลืมวันลืมคืน แต่บางท่านดูจะเหนื่อยอ่อนกับการทำงานและเสาร์อาทิตย์ให้โทรทัศน์ดูแทนที่จะดูโทรทัศน์ มีผู้นำท่านหนึ่งที่ผู้เขียนจะไปเจอในช่วงปีใหม่ของทุกปี แต่ที่น่าสนใจก็คือทุกปีดูหน้าสดใสขึ้น มีพลังของความเป็นหนุ่มสาวตลอดเวลาแม้อายุจะใกล้ 60 แล้ว ผู้นำท่านนี้กล่าวถึงเคล็ดลับของการบริหารพลังของผู้นำไว้อย่างน่าสนใจที่ประกอบด้วย

 1. E- Energy Awareness

การตระหนักรู้ถึงระดับพลังชีวิตในตัวเองเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ผู้นำบางท่านปล่อยให้ระดับพลังงานในตัวติดลบด้วยการทำงานในสิ่งที่ไม่ชอบ สิ่งที่เครียด สิ่งที่ไม่รัก ทำให้สภาพพลังชีวิตลดลงเหมือน Zombie ในที่ทำงาน ถ้าเราไม่ตระหนักรู้ระดับของความเครียด หรือระดับของพลังความสุข เราก็ไม่สามารถจะรู้ได้ว่า ทำอะไรจะเป็นการชาร์จพลังและทำอะไรจะเป็นการดูดพลัง

ผู้นำท่านนี้เฝ้ามองระดับพลังของตัวเองอย่างมีสติ รู้ว่าช่วงเวลาไหนของชีวิตที่มีพลังที่ดี ช่วงเวลาไหนของชีวิตที่พลังเรารู้สึกเหือดหาย และยังรู้ว่าจะต้องถึงเวลาต้องพักและเวลาที่ต้องใส่พลังดีๆเข้าไปในร่างกาย

 2. N-Negative Tension release

เมื่อตระหนักรู้ระดับพลังในร่างกาย การเข้าใจถึงธรรมชาติพลังของต่อมเครียดและสามารถสลายพลังความเครียดไม่ให้ตกค้างภายในตัวเราเป็นส่วนที่สำคัญ ผู้นำท่านนี้ใช้กระบวนการ Tension Release Exercise เพื่อเฝ้ามองพลังของความเครียดที่สั่งสมในตัวเรา ใช้กระบวนการในการทำให้เกิดการสลายความเครียดจากความสามารถของร่างกายที่เรียกว่า Body Intelligence

การ Healing ของร่างกายเป็นความสามารถที่สามารถฝึกฝนให้เชี่ยวชาญและสามารถยกระดับให้สูงขึ้นได้ การสลายความเครียดที่ตกค้างจะทำให้เรามีที่ใส่พลังงานดีๆที่มีความสุขให้เพิ่มพูนขึ้นได้ทุกวันผู้นำท่านนี้จะใช้เวลา 15 นาทีเพื่อสลายความเครียดนี้ก่อนนอนทำให้เมื่อหลับลงสามารถมีที่ว่างที่ชาร์จพลังดีๆจากการนอนให้เต็มเปี่ยมได้

 3. E-Engage Positive Energy

การเติมพลังความสุขสามารถทำได้ตลอดเวลา เริ่มได้ตั้งแต่การชื่นชมสิ่งที่ตัวเองมี รักในสิ่งที่มี ทำในสิ่งที่รัก พลังความสุขสามารถเริ่มได้จากหันกลับมามองความสุขง่ายได้ที่เกิดขึ้นจากต่อมสุขใจที่อยู่ในตัวเรา

ผู้นำสายพันธุ์ใหม่ท่านนี้เน้นการใช้ชีวิตที่สร้างพลังตลอดเวลา เขาตระหนักรู้ถึงต่อมความคิดสร้างสรรค์ของต่อมสุขใจ เริ่มเช้าวันไหม่เขาจะวางตารางเวลาที่ให้กับตัวเองระหว่างวิ่งออกกำลังตอนเช้าให้กับการใช้ต่อมความคิดสร้างสรรค์ว่าวันนี้จะสร้างอะไรใหม่ๆให้เกิดขึ้นในงานบ้าง เมื่อวิ่งเสร็จในตอนเช้าก็เหมือนการชาร์จพลังดีๆให้กับตัวเองอย่างเต็มที่

ระหว่างการทำงานเขาจะเลือกงานที่เขาสามารถใส่จินตนาการและความคิดใหม่ๆเข้าไป ยิ่งได้คิดสร้างสรรค์ พลังงานในวันนั้นก็ยิ่งสูงขึ้น เมื่อกลับบ้านหลังจากสลายความเครียดแล้วก็จะหยุดชื่นชมตัวเองและสิ่งที่ทำในวันนั้นเพื่อใส่บัญชีพลังบวกก่อนนอน

 4.R-Realign with the right people

การห้อมล้อมด้วยทีมงานที่เสริมพลังบวกให้กับเราเป็นการเสริมพลังในชีวิตได้เป็นอย่างดี การเลือกทีมงานที่ชอบในสิ่งที่เราเครียดจะเป็นการเสริมพลังบวกอย่างทวีคูณ ผู้นำท่านนี้มีต่อมเครียดเรื่องงานธุรการ ยิ่งทำพลังลบก็ยิ่งเพิ่มขึ้นจึงรับทีมงานที่มีความสุขกับการทำธุรการ เมื่อผู้นำส่งงานที่เครียดให้ทีมงานปรากฏว่าเหมือนนำความเครียดออกไปแต่ไปเพิ่มพลังบวกให้กับทีมงาน ทำให้ทั้งตัวผู้นำและทีมงานยกระดับพลังชีวิตไปด้วยพร้อมกัน

 5. G-Goal setting

การตั้งเป้าหมายของความสำเร็จที่มีความหมายในการเดินทางจะทำให้ทุกก้าวที่เดินจะไปกระตุ้นต่อมสุขใจให้ทำงานอย่างต่อเนื่อง การตั้งเป้าหมายโดยไม่ได้คำนึงถึงต่อมสุขใจอาจทำให้เราถึงเป้าของความสำเร็จแต่อาจจะมีความรู้สึกอ้างว้างเมื่อถึงปลายทาง

ผู้นำเมื่อตระหนักถึงพลังของต่อมความคิดสร้างสรรค์จึงวางเป้าหมายในการเดินทางให้สอดคล้องใหม่เพื่อกระตุ้นได้ต่อมความคิดสร้างสรรค์ทำงานได้อย่างต่อเนื่องด้วยการเป็น Innovative leader ที่มีความสุขในการวางแนวนวัตกรรมเพื่อสร้างสินค้าและบริการใหม่ๆตลอดเวลา

 6. Y- Yes we can

การมีทัศนคติที่เป็นบวกต่อชีวิต ต่อมุมมองในการใช้ชีวิตที่เป็นบวก มองความเป็นไปได้และไม่กลัวกับการเปลี่ยนแปลงในเป็นผู้นำสายใหม่จะทำให้เราสามารถก้าวข้ามความกลัวที่เป็นขีดจำกัดที่เราสร้างขึ้นมาเอง ความกลัวเหล่านี้จะทำให้เราสูญเสียพลังในการใช้ชีวิตอย่างมากมาย การสร้างความเชื่อใหม่ในการเป็นบวกกับสิ่งที่มากระทบและความเชื่อมั่นในตัวของผู้นำเองจะสร้างให้เรามีพลังชีวิตของความเป็นผู้นำให้ลุกโชติช่วงตลอดเวลา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,128 วันที่ 4 - 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559