LIVING IN THE  MASTERPIECE ความวิจิตรของชีวิตที่กลมกล่อม

ความสุข เป็นนามธรรมไม่อาจจับต้องได้ แต่เป็นความรู้สึกที่พร้อมเปลี่ยนเป็นพลังในการขับเคลื่อนหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิต... สรรพสิทธิ์ ฟุ้งเฟื่องเชวง กล่าว “สำหรับผม ‘งานศิลปะ’ คือส่วนเติมเต็มความสุขที่ลงตัว งานศิลปะไม่ได้มีเฉพาะเพียงภาพวาด งานประติมากรรม หรือภาพถ่าย แต่ความสุขอยู่ในทุกๆ อย่าง ตั้งแต่การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ ทิศทางของแสง ทำให้เรารู้สึกว่ามุมนี้เราจะเกิดแรงบันดาลใจ และมุมนี้คือมุมที่เรารู้สึกผ่อนคลายที่สุด ความรู้สึกนี้มีเพียงเราที่สัมผัสได้ เพราะฉะนั้นสำหรับผมแล้วงานศิลปะคือองค์ประกอบที่เติมเต็มการใช้ชีวิต ทำให้เรารู้สึกว่าเราได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า ยิ่งงานศิลปะสอดแทรกอยู่ในส่วนต่างๆ มากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งเปิดโอกาสให้เราเรียนรู้ รับรู้ความรู้สึกที่ซึมลึกลงไปในจิตใจมากขึ้นเท่านั้น…”

ท่ามกลางสภาพการจราจรที่หนาแน่นจนเป็นปกติของถนนสุขุมวิท ทันทีที่ล้อทั้งสี่หมุนเลี้ยวเข้าไปในซอยสุขุมวิท 39 ไม่ถึง 100 เมตร ก็เจอที่ตั้งของ “VITTORIO” ซูเปอร์ลักซ์คอนโดฯผลงานใหม่ล่าสุดจากเอพี พื้นที่ที่ต้อนรับผู้มาเยือนด้วยความสงบดุจหลุดเข้าไปในมิติที่ใฝ่หา ความสง่างามของงานศิลปะโดยปรมาจารย์ผู้คร่ำหวอดในวงการศิลปะระดับประเทศและได้รับการยกย่องในระดับโลก ได้รับการจัดวางอย่างมีจังหวะ เปิดรับสัมผัสของผู้มาเยือนอย่างมีขั้นตอน องค์ประกอบทุกชิ้นตั้งแต่พื้นหินจดเพดานผ่านการเลือกสรรมาจากแหล่งวัตถุดิบชั้นนำระดับโลก พื้นที่อยู่อาศัยซึ่งทุกองค์ประกอบคืองานศิลปะ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้แตกต่าง นี่คือสถานที่ที่ทำให้เราได้พบกับ คุณเป๋า-สรรพสิทธิ์ ฟุ้งเฟื่องเชวง Head of Corporate Brand Strategy and Execution ผู้หลอมรวมองค์ความรู้ ประสบการณ์  และพรสวรรค์ มารังสรรค์ให้ “VITTORIO” ฉายพลังของการอยู่อาศัยแบบมาสเตอร์พีซข้ามกาลเวลาอย่างแท้จริง

“สำหรับผมความสงบและความเป็นส่วนตัว คือเอกสิทธิ์ที่ทุกคนต่างใฝ่หา VITTORIO คำนึงถึงพื้นที่การใช้ชีวิตของคนในทุกๆ กลุ่มผ่านการจำแนกโดยละเอียด ร่วมกับประสบการณ์การรังสรรค์โครงการอสังหาฯ กว่า 25 ปีของเอพี จึงพร้อมส่งต่อประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบหรูหราเหนือระดับแบบฉบับมาสเตอร์พีซผ่านโครงการ VITTORIO ซูเปอร์ลักซ์คอนโดฯที่มาพร้อมกับงานศิลปะที่ถูกจัดวางทุกองค์ประกอบ ให้เสริมและเคียงคู่กันอย่างสง่างาม”

จากเด็กชายอายุ 14 ปีที่ตัดสินใจควักเงินซื้อภาพเสือดาวหมอบที่ดูเหมือนจะเป็นภาพธรรมดาๆ ภาพหนึ่ง แต่ลายเส้นพู่กันจีนกลับสัมผัสลึกไปจนถึงจิตใจ ดึงดูดความรู้สึกให้ไหลเวียนอยู่ในภาพนั้นจนไม่สามารถละความสนใจได้ งานศิลปะชิ้นแรกในวันนั้น เหมือนกับการเปิดประตูความรู้สึกให้คุณเป๋าได้รู้จักตนเองมากขึ้น จากความชอบเป็นความเชี่ยวชาญ กับความพร้อมที่จะเปิดรับความท้าทายใหม่ๆ  นำพาให้ชีวิตเดินทางไปในเส้นทางที่คาดเดาไม่ได้ เหมือนกิจกรรมสุดโปรดของคุณเป๋า ที่ตื่นตั้งแต่ก่อนรุ่งสางเพื่อไปรอชมการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ของทุ่งหญ้าซาฟารี ปีนขึ้นไปบนภูเขาสูงเพื่อจะค้นพบว่าบนยอดนั้นมีอะไรที่รอเขาอยู่ หรือแม้กระทั่งการเดินทางไปสัมผัสสถานที่ต่างๆ รอบโลกทั้งเก่าที่สุดและใหม่ที่สุด เก็บเกี่ยวเป็นภาพความทรงจำที่พร้อมหยิบจับขึ้นมาใช้เมื่อได้รับโจทย์ใหม่ที่ขับให้คุณเป๋าดึงศักยภาพของตัวเองออกมาใช้อยู่เสมอ



จุดเล็กๆ ที่เริ่มจากคำว่า “ความท้าทาย” นี้เองที่ทำให้คุณเป๋าค้นพบการทำงานที่สนุก ตรงกับความชอบและความถนัด  เปลี่ยนเส้นทางของบัณฑิตด้านกฎหมายให้เข้ามาอยู่ในโลกของศิลปะและงานออกแบบมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะบทบาทสำคัญในบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่ผนึกทุกความสามารถของคุณเป๋าขับเคลื่อนแต่ละหน่วยขององค์กรให้เป็นหนึ่งภายใต้อัตลักษณ์เดียว ที่สำคัญคือความพยายามทำให้บุคลากรทุกคนในเอพี ค้นหาจิตวิญญาณนักออกแบบในตัวเอง นำความสามารถที่ซ่อนอยู่มาร่วมรังสรรค์ให้ “พื้นที่” ของเอพี สร้างคุณค่าได้อย่างไร้ขีดจำกัด

“ที่เอพี พื้นที่ทุกตารางนิ้วของแต่ละยูนิตในแต่ละโครงการมีความสำคัญมาก ใน 1 พื้นที่ทีมออกแบบคิดวิธีการวางเลย์เอาต์ไม่ใช่ 3-4 แบบ แต่เราคิดมากถึง 17 แบบ จากแนวคิดของ AP  Design Lab ในการนำจุดยืนความคิดเรื่องการใช้พื้นที่และการไม่หยุดที่จะพัฒนาให้ดีกว่าเดิม นำคำว่า “ทันสมัย” มาทำให้ทุกตารางนิ้วมีคุณค่า สร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่แตกต่าง”

คุณเป๋า กล่าวต่อว่า “ทุกคนมีพรสวรรค์ด้านการออกแบบซ่อนอยู่ เพียงแต่ยังไม่มีเวทีสำหรับการฉายพลัง” การเห็นตัวเองคือจุดเริ่มต้นของการเห็นคนอื่น แผนกใหม่ของเอพี จึงเกิดขึ้นภายใต้ชื่อสุดเท่ว่า “Innovation Department” แผนกใหม่ที่ทำให้คุณเป๋าทึ่งกับรสนิยมด้านการออกแบบของเพื่อนร่วมงานในสายวิศวกร หรือตรรกะในการจัดสรรพื้นที่ที่คาดไม่ถึงของพี่ๆ ในแผนกบัญชี แผนกที่ทำให้เราได้เห็นความครีเอทีฟใหม่ๆ จากเพื่อนร่วมงานที่มาจากต่างสายงาน



หากมองลึกเข้าไปในงานที่คุณเป๋าถึงกับเอ่ยปากว่า “ผมโชคดีที่ได้ทำงานที่ชอบ” การได้สัมผัสกับงานที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบทุกวัน ทั้งการออกแบบพื้นที่ ออกแบบเรื่องราว รวมถึงการออกแบบความคิด เหมือนกับการเติมงานศิลปะเข้าไปในชีวิตทุกๆ วัน รายละเอียดที่ซ่อนอยู่ภายใต้แบรนด์ทั้ง 14 แบรนด์ของเอพี ไม่ต่างจากความกลมกล่อมของสูตสไตล์  Bespoke ที่คุณเป๋าสวมใส่ การเลือกที่อยู่อาศัยจึงไม่ต่างจากการเลือกช่างตัดเย็บ โดยเมื่อรู้ใจแล้วเรื่องอื่นๆ ก็กลายเป็นเรื่องง่ายในทันที

คุณเป๋าเปรียบช่างตัดเย็บที่รู้ใจเหมือนกับบ้านที่ถูกสร้างโดยผู้สร้างมืออาชีพ ไว้ว่า “งานตัดเย็บที่ออกแบบแพตเทิร์นมาเพื่อเป็นของของเรา จะทำให้เราดูสง่างามโดยไม่ต้องพยายาม การที่ช่างตัดเย็บรู้ว่าโครงร่างของเราเป็นแบบไหน ไหล่แต่ละข้างโครงสร้างเป็นอย่างไร ชายเสื้อยาวเท่าไหร่จึงจะพอดีเนื้อผ้าแบบไหนที่เหมาะกับสภาพอากาศ ลักษณะงาน และกิจวัตรประจำวันของผู้สวมใส่ นอกจากทำให้การใช้ชีวิตของเราง่ายมากขึ้นแล้ว รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ยังทำให้เราใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากขึ้น ซึ่งก็เหมือนกับการสร้างบ้านถ้าเข้าใจผู้อยู่อาศัยก็จะสามารถออกแบบได้ตรงใจยิ่งขึ้น”

สิ่งที่ทำให้การประกอบร่างของ อิฐ หิน ปูน ทราย แตกต่างกันไม่ใช่แค่การออกแบบ แต่คือการเติมศิลปะเข้าไป เปลี่ยนลมหายใจในกรอบสี่เหลี่ยมแบบเดิมๆ ให้เป็นศิลปะของการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง มุมคิดจากผู้บริหารที่เลือกจดจำประสบการณ์ผ่านภาพความทรงจำมากกว่าภาพถ่าย

“สรรพสิทธิ์ ฟุ้งเฟื่องเชวง”

หน้า 25 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,375 (844) วันที่ 17 - 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561