โวย!!อ.ส.ค.2 มาตรฐาน จี้สอบเอื้อเอกชน
ผู้เลี้ยงโคนมโวย อ.ส.ค. 2 มาตรฐาน จ่อบุกพบ “กฤษฎา” การันตีนายกสมาคมยูเอชที ไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล เผย ยอมรับน้อยใจจริง ก่อนหน้านั้น 26 รายโดนกองปราบแจ้ง กล่าวหาสำแดงน้ำนมดิบเท็จ จนหลุดข้อกล่าวหา แต่อีกฝ่ายโดนบ้างกับปกป้องชี้ไม่ถูกต้อง บิ๊กผอ.มึนไม่ทราบเรื่องจริง ยันนโยบายองค์กรต้องเป็นกลางระหว่างเกษตรกร-ผู้ประกอบการ รับปากเร่งสอบด่วน
จากกรณีที่องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) . ได้ออกทำหนังสือรับรองเลขที่ กษ 1917/3307 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2561 ให้นายกิตติศักดิ์ เกียรติไกรวัลศิริ นายกสมาคมผู้ผลิตนมยูเอชที ไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลต่อโครงการอาหาร (เสริม) นมโรงเรียน นั้น ลงนามโดยนายวิศิษฎ์ แสงคล้อย ผู้ช่วยผู้อำนวยการทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทยนั้น
นายนัยฤทธิ์ จำเล ประธานชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เมื่อประมาณปลายปี 2560 นายกิตติศักดิ์ เกียรติไกรวัลศิริ นายกสมาคมผู้ผลิตนมยูเอชที ไปแจ้งกองบังคับการกองปราบปราม โดยมี พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผู้การกองปราบปราม เป็น เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีนี้ มีการแจ้งข้อกล่าวหา 25 ผู้ประกอบการว่ามีปริมาณการซื้อขายน้ำนมโคอันเป็นเท็จไม่เป็นปตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์ที่มิลด์บอร์ดประกาศ รวมถึงขั้นตอนการจัดทำบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) การซื้อขายนํ้านมโค ปี 2559/2560 ลงวันที่ 28 กันยายน 2559 เพื่อประโยชน์แก่ตนเองและพวกพ้อง จึงได้ออกหมายเรียกให้มาชี้แจง ขณะเดียวกันตำรวจกองปราบก็ได้ออกหนังสือให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ตั้งกรรมการสอบ
[caption id="attachment_290486" align="aligncenter" width="335"]
นัยฤทธิ์ จำเล[/caption]
ระหว่างนั้นกลุ่มเกษตรกรและบริษัทที่มีรายชื่อก็ต้องต่อสู้ หอบหลักฐานเดินทางไปกองปราบฯ สู้จนหลุดคดี แต่พอจะฟ้องกลับบ้าง ทาง อ.ส.ค.กลับทำหนังสือออกมาปกป้องแบบนี้สองมาตรฐานหรือไม่ แล้วตอนที่เกษตรกรโดนกองปราบเรียกสอบหาก อ.ส.ค.ทำหนังสือปกป้องเกษตรกรออกมาแบบนี้บ้างก็คงดี ก็รู้สึกน้อยใจแทนพี่น้องชาวโคนม
นายนายนัยฤทธิ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวนี้ทำให้ทางชุมนุมฯ ไม่ไว้วางใจ อ.ส.ค. จะบุกยื่นหนังสือถึง นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่กำกับดูแล อ.ส.ค.จะต้องออกมาชี้แจงว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องดังกล่าวนี้กระทำถูกต้องหรือไม่ เอื้อเอกชนหรือไม่
ขณะที่ ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการ อ.ส.ค. กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องจริงๆ ยืนยันว่า อ.ส.ค.เป็นองค์กรต้องเป็นกลางระหว่างผู้ประกอบการกับเกษตรกร จะไปเข้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ หรือจะไปรับรองใครไม่ได้ เพราะถ้ารับรองใครจะต้องเข้าสู่คณะกรรมการ หรือบอร์ดเห็นชอบ เรื่องดังกล่าวนี้รับจะไปดำเนินการสอบสวนให้เร็วที่สุด
จากกรณีที่องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) . ได้ออกทำหนังสือรับรองเลขที่ กษ 1917/3307 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2561 ให้นายกิตติศักดิ์ เกียรติไกรวัลศิริ นายกสมาคมผู้ผลิตนมยูเอชที ไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลต่อโครงการอาหาร (เสริม) นมโรงเรียน นั้น ลงนามโดยนายวิศิษฎ์ แสงคล้อย ผู้ช่วยผู้อำนวยการทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทยนั้น
นายนัยฤทธิ์ จำเล ประธานชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เมื่อประมาณปลายปี 2560 นายกิตติศักดิ์ เกียรติไกรวัลศิริ นายกสมาคมผู้ผลิตนมยูเอชที ไปแจ้งกองบังคับการกองปราบปราม โดยมี พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผู้การกองปราบปราม เป็น เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีนี้ มีการแจ้งข้อกล่าวหา 25 ผู้ประกอบการว่ามีปริมาณการซื้อขายน้ำนมโคอันเป็นเท็จไม่เป็นปตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์ที่มิลด์บอร์ดประกาศ รวมถึงขั้นตอนการจัดทำบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) การซื้อขายนํ้านมโค ปี 2559/2560 ลงวันที่ 28 กันยายน 2559 เพื่อประโยชน์แก่ตนเองและพวกพ้อง จึงได้ออกหมายเรียกให้มาชี้แจง ขณะเดียวกันตำรวจกองปราบก็ได้ออกหนังสือให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ตั้งกรรมการสอบ
[caption id="attachment_290486" align="aligncenter" width="335"]
ระหว่างนั้นกลุ่มเกษตรกรและบริษัทที่มีรายชื่อก็ต้องต่อสู้ หอบหลักฐานเดินทางไปกองปราบฯ สู้จนหลุดคดี แต่พอจะฟ้องกลับบ้าง ทาง อ.ส.ค.กลับทำหนังสือออกมาปกป้องแบบนี้สองมาตรฐานหรือไม่ แล้วตอนที่เกษตรกรโดนกองปราบเรียกสอบหาก อ.ส.ค.ทำหนังสือปกป้องเกษตรกรออกมาแบบนี้บ้างก็คงดี ก็รู้สึกน้อยใจแทนพี่น้องชาวโคนม
นายนายนัยฤทธิ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวนี้ทำให้ทางชุมนุมฯ ไม่ไว้วางใจ อ.ส.ค. จะบุกยื่นหนังสือถึง นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่กำกับดูแล อ.ส.ค.จะต้องออกมาชี้แจงว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องดังกล่าวนี้กระทำถูกต้องหรือไม่ เอื้อเอกชนหรือไม่
ขณะที่ ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการ อ.ส.ค. กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องจริงๆ ยืนยันว่า อ.ส.ค.เป็นองค์กรต้องเป็นกลางระหว่างผู้ประกอบการกับเกษตรกร จะไปเข้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ หรือจะไปรับรองใครไม่ได้ เพราะถ้ารับรองใครจะต้องเข้าสู่คณะกรรมการ หรือบอร์ดเห็นชอบ เรื่องดังกล่าวนี้รับจะไปดำเนินการสอบสวนให้เร็วที่สุด