นมอัลมอนด์แข่งเดือด แบรนด์เล็กแจ้งเกิด ปลุกตลาดนมทางเลือก

ชี้ตลาดนมทางเลือกคึกคัก หลังคนรุ่นใหม่ฮิตดื่ม “นมอัลมอนด์” ส่งผลยอดขายพุ่ง จับตาผู้เล่นแห่อัดกิจกรรมตลาดหวังสร้างชื่อ สร้างการรับรู้ มั่นใจสิ้นปีตลาดขยับเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านบาท จากตลาดรวมนมพร้อมดื่มกว่า 5 หมื่นล้านบาท


มีสินค้าอุปโภคบริโภคกว่า 3.9 แสนรายการที่วางจำหน่ายใน “อีเลฟเว่นสตรีท” ยักษ์ใหญ่ด้านอี-คอมเมิร์ซ จากผู้ผลิตชั้นนำระดับประเทศและโลกกว่า 2.3 หมื่นราย แต่พบว่าในปี 2560 ผลิตภัณฑ์ “นมอัลมอนด์” ได้รับความนิยมมียอดสั่งซื้อติดอันดับ 3 รองจากแบรนด์ซุปไก่สกัด และโอวัลตินครั้นชี่ แซงหน้าสินค้าอีกนับแสนรายการ ทั้งๆ ที่นมอัลมอนด์เป็นสินค้าใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นในตลาดได้ไม่กี่ปี บ่งชี้ให้เห็นถึงศักยภาพและโอกาสของแบรนด์ตลาดนมทางเลือก ที่นับวันมีแต่โตกับโต

นายวิทวัส พลไพศาล รองประธานกรรมการ เครือเฮอริเทจ ผู้ผลิตและจำหน่ายนมอัลมอนด์ ภายใต้แบรนด์ “บลูไดมอนด์ อัลมอนด์ บรีซ” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สำหรับตลาดนมทางเลือก RNGS (Rice Nut Grain Seed) ในปัจจุบันนี้มีแนวโน้มการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีเซ็กเมนต์นมอัลมอนด์เป็นตัวขับเคลื่อนทำให้ตลาดนมทางเลือก RNGS มีการเติบโต อย่างไรก็ดีตลาดนมอัลมอนด์มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่องทุกปี ตามเทรนด์สุขภาพที่ มาแรง และกระแสรักสุขภาพที่มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยนมอัลมอนด์ กลายเป็นทางเลือกที่ผู้บริโภคนิยมดื่ม เห็นได้จากบลูไดมอนด์ อัลมอนด์ บรีซที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 หรือมีส่วนแบ่งตลาด 48% ของตลาดรวมนมอัลมอนด์ในเมืองไทย ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา ซึ่งมารายงานวิจัยตลาด บริษัท นีลเส็น ประเทศไทยฯ และเป็นเทรนด์เดียวกับอีกหลายประเทศในโลก

ปัจจุบัน ตลาดนมพร้อมดื่มในเมืองไทยมีมูลค่าราว 5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ตลาดนมทางเลือกเป็นเซ็กเมนต์ใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น อาทิ นมอัลมอนด์ นมข้าว นมข้าวโพด ฯลฯ มีสัดส่วนตลาดไม่ถึง 1% เมื่อเทียบกับตลาดนมพร้อมดื่มของสหรัฐอเมริกา ซึ่งนมอัลมอนด์มีส่วนแบ่งในตลาดประมาณ 35% อย่างไรก็ดีนมอัลมอนด์ในเมืองไทยถือว่ายังใหม่และผู้บริโภคยังขาดการรับรู้ในเรื่องคุณประโยชน์ของนมอัลมอนด์ บวกกับเรื่องราคาที่สูงเพราะวัตถุดิบต้องนำเข้า โดยในปีนี้คาดว่าการดื่มนมอัลมอนด์จะเติบโตและมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 2% ของตลาดนมพร้อมดื่มในประเทศ โดยมีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท

“เทรนด์เรื่องของสุขภาพที่มีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี ใครที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพย่อมได้เปรียบกว่า ในส่วนของตลาดนมอัลมอนด์ในเมืองไทยนั้นกำลังมาแรง และมีผู้เล่นในตลาดหลัก 3-4 แบรนด์ ยังไม่นับหลายรายย่อย อีกกว่า 10 แบรนด์”
นายวิทวัส กล่าวว่า ตลาดนมอัลมอนด์แข่งขันกันในเรื่องของรสชาติ ราคา แหล่งที่มา กระบวนการผลิต ช่องทางการวางจำหน่ายและโปรโมชันต่างๆ ซึ่งต้องบอกเลยว่า บลูไดมอนด์ อัลมอนด์ บรีซ เราได้เปรียบในเรื่องของแหล่งที่มา เพราะนำเข้าเมล็ดอัลมอนด์จากแคลิฟอร์เนียมาผลิตในเมืองไทยทำให้สามารถปรับราคาให้ถูกลงจากราคานำเข้าถึง 30% ซึ่งขนาด 1 ลิตรปรับราคาจาก 150 บาทเหลือ 99 บาท และขนาด 180 มิลลิลิตรหรือ Single Served ราคากล่องละ 20 บาท รวมถึงเพิ่มราคา 59 บาทสำหรับ 1 แพ็ก (3 กล่อง)

สำหรับกลยุทธ์และแผนการตลาด สำหรับตลาดนมอัลมอนด์ถือว่าเป็นนิช มาร์เก็ต หลังจากทำตลาดมาได้ 1 ปี บริษัทจะเริ่มขยายตลาดไปยังตลาดแมส โดยเน้นวางจำหน่ายที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น และร้านค้าทั่วไปให้มากขึ้น พร้อมเริ่มทำกิจกรรมตลาดทั้งการจัดกิจกรรม ณ จุดขาย การแจกชิม และการให้ความรู้กับผู้บริโภคถึงคุณค่าทางโภชนาการ ขณะเดียวกันก็พัฒนารสชาติใหม่ออกวางจำหน่ายต่อเนื่อง เพื่อรองรับกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ โดยล่าสุดบริษัทเพิ่งวางจำหน่ายรสชาติมัทฉะ และลาเต้ เป็นต้น


ด้านนางสาวอาศยา ทรัพย์มนู ประธานบริหาร บริษัท บัตเตอร์ฟลาย ออร์แกนิค จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายนมอัลมอนด์ ภายใต้แบรนด์ “บัตเตอร์ฟลาย” (Butterfly) กล่าวว่า บริษัทพัฒนานมอัลมอนด์ออกวางจำหน่ายเพื่อเป็นทางเลือกใหม่สำหรับกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ ซึ่งหลังจากทดลองวางจำหน่ายพบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สำหรับแนวทางการทำตลาดต่อไปเน้นการจัดกิจกรรมบีโลว์เดอะไลน์ ได้แก่ การโรดโชว์ เพื่อให้ข้อมูลและแจกให้ทดลองชิมฟรี ได้สัมผัสกับรสชาติที่แตกต่างจากนมโคทั่วไป พร้อมกับโฆษณาและประชาสัมพันธ์
ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ผ่าน www.facebook.com/butterflyorganicmilk

“บริษัทให้ความสำคัญกับสื่อออนไลน์ ด้วยการสะท้อนแบรนด์ บัตเตอร์ฟลาย ผ่านสโลแกน Add Value Rhythm Vital” เติมคุณค่าให้ทุกจังหวะชีวิต แคมเปญเด็ก Generation Z โดยมีชื่อกลุ่มว่า Team Talent เป็นการรวมตัวของเด็ก ที่มีพลังเต็มเปี่ยม มีพรสวรรค์ และพรแสวงในการเรียนรู้จากเทคโนโลยียุคใหม่ด้วยตนเอง และก็ให้ความสำคัญต่อสุขภาพ มั่นใจว่า จะสื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี และช่วยผลักดันให้ บัตเตอร์ฟลาย ขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าที่จะมียอดขายรวม 100 ล้านบาท” นางสาว อาศยากล่าวและว่า

นมอัลมอนด์ และนมโยเกิร์ต ออร์แกนิกจัดอยู่ในกลุ่มนมทางเลือก ที่มีสัดส่วนอยู่ประมาณ 5% ส่วนอีก 95% จะเป็นกลุ่มนมวัว และ นมถั่วเหลือง อย่างไรก็ตาม ด้วยกระแสการดูแลสุขภาพ ทำให้เซ็กเมนต์ของนมทางเลือกเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่นางสาวอริสา กุลปิยะวาจา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมอัลมอนด์ แบรนด์ “137ดีกรี” กล่าวว่า บริษัทพัฒนานมอัลมอนด์ ออกมาทดลองทำตลาดเมื่อ 2 ปีก่อน ถือเป็นผู้บุกเบิกเพราะคนไทยยังไม่เป็นที่รู้จัก พร้อมกับปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์จากขวดแก้ว มาเป็นแบบกล่องเพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค นอกจากนี้ยังพัฒนานมอัลมอนด์ รสชาติต่างๆ เพื่อให้แตกต่างและตรงกับความต้องการของผู้ดื่ม เช่น นํ้านมอัลมอนด์สูตรกาแฟลาเต้ เป็นต้น

นอกจากการผลิตและจำหน่ายในประเทศแล้ว บริษัทยังส่งออกไปจำหน่ายในอีก 30 ประเทศทั่วโลก ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ขณะที่ตลาดนมอัลมอนด์ทั่วโลกมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเอเชีย-แปซิฟิกซึ่งตลาดนมอัลมอนด์มีการเติบโตเร็วที่สุด และตลาดเกิดใหม่เช่น จีน และ อินเดีย ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง

..........................................................................................

หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,375 ระหว่างวันที่ 17-20 มิ.ย.61