'บิ๊กตู่' เยี่ยมชมหมู่บ้านทอผ้าไหมสุรินทร์ "อยากให้คนไทยเรียนรู้ค้าขายออนไลน์" - "รัฐบาลนี้เข้ามาอาจทำหลายคนเสียโอกาส" ลั่น! ต้องเคารพ ก.ม.
"บิ๊กตู่" เยี่ยมชมหมู่บ้านทอผ้าไหมสุรินทร์ รับรัฐบาลนี้เข้ามาอาจทำให้หลายคนเสียโอกาส ลั่น! ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย ยันไม่เคยบังคับใคร - แก้ปัญหาทุจริตไร้ใบสั่ง
วันที่ 7 พ.ค. 61 เมื่อเวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ ได้เดินทางมาเยี่ยมชมหมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองโบราณบ้านท่าสว่าง ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ โดยมีข้าราชการ ประชาชนและนักเรียนมารอให้การต้อนรับประมาณ 4,000 คน พร้อมกันนี้ทางจังหวัด โดยนายกิติเมศวร์ รุ่งธนิเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ได้นำช้างแฝดเพศผู้อายุ 8 ปี ชื่อทองคำกับทองแท่ง ซึ่งเป็นช้างแฝดคู่แรกของโลกมาต้อนรับ และให้ช้างมอบกระเช้าดอกไม้ให้กับนายกฯ ซึ่งนายกฯ ได้ให้กล้วยน้ำว้าและแตงกวาเป็นอาหาร ก่อนที่ยืนชมการแสดงของช้างแฝด ก่อนจะเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านท่าสว่างและการจัดแสดงสินค้าโอทอป โดยนายกฯ ได้ชมการทอผ้าไหม ซึ่งหมู่บ้านนี้ได้อนุรักษ์ศิลปะการทอผ้าไหมดั้งเดิมและได้รับเลือกให้เป็นผู้ผลิตผ้าไหมที่ระลึกให้กับผู้นำต่างที่ไทยเป็นเจ้าภาพในการประชุมเอเปก 2003 ทั้งนี้ นายกฯ ได้ร่วมตีกลองพร้อมร่วมฟ้อนรำกับชาวบ้าน นายกฯ ยังทดลองสีข้าวและตำข้าวด้วยมือ พร้อมลงชื่อและเขียนข้อความเป็นที่ระลึกลงบนผ้าไหมพื้นเมืองว่า "ด้วยรักและห่วงใย" และได้ชิมข้าวพันธุ์ต่าง ๆ ของ จ.สุรินทร์ อาทิ ข้าวดอกมะลิ 105 ข้าวปกาอำปึล ข้าว 10 พันธ์ุ และข้าวเหนียวดำ
จากนั้น นายกฯ ได้กล่าวกับชาวบ้าน พร้อมร่วมจัดรายการวิทยุสำนักงานพัฒนาภาค 5 ว่า วันนี้ร้อนนะ แต่ร้อนด้วยเสื้อผ้า แต่มาที่นี้แล้วอบอุ่นใจ เพราะมาเจอพวกเรา รัฐบาลทำเพื่อพวกเรา หากวันหน้าใครมาก็มาทำต่อ เราจะเริ่มให้ดีที่สุด อย่าไปคิดอะไรที่มันง่ายเกินไป เพราะเดี๋ยวมันก็ล้มเหลว และไม่ต่อเนื่อง ตนคิดถึงทุกคน ตนต้องส่งใจให้คนทั้ง 70 ล้านคน อย่างที่ จ.สุรินทร์ มีคน 1.4 ล้านคน รัฐบาลต้องทำให้ทุกคนที่นี้มีรายได้ จะให้เอาเงินไปแจกคนละพันคงไม่ได้ เดี๋ยวก็หมด ทำอย่างนั้นไม่ได้เราต้องไปสร้างเครือข่าย และทุกคนต้องปรับตัวเองและนึกถึงอนาคตของลูกหลาน
"ปัญหาของเรา คือ กลุ่มย่อย ๆ มีปัญหา ถ้าเราควบคุมตลาดสร้างวงจรตลาด จะได้แข่งขันพ่อค้าคนกลางได้ ถ้าเราคิด เรียนรู้เราจะได้ผลกำไร วันนี้อยากให้คนเรียนรู้ค้าขายออนไลน์ ถ้าเรายังแข่งขันกับใครไม่ได้ ขายในประเทศผ่านออนไลน์ก่อน อย่างข้าวกินทั้งโลก แต่บางทีไม่ได้กินข้าวแบบเรา แล้วปลูกเยอะ แล้วไปปลูกอะไรจะก็ต้องดูอะไรราคาว่าดีหรือไม่ หากปลูกมากเกินไปขายไม่ได้ก็ต้องแข่งกันเอง ต้องทำอะไรมีเหตุมีผล พอประมาณ ถ้าจะให้รัฐบาลให้อย่างเดียวแก้ไม่ได้ อย่าให้ใครมาบิดเบือน ต้องช่วยรัฐบาลอีกทาง สร้างความเข้มแข็ง อย่าให้ใครมาบอกให้เงิน เชื่อผมนะเพราะผมไม่ได้มาเพื่อการเมือง" นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลเข้ามาหลายคนอาจจะเสียโอกาส หลายคนอาจจะขายของไม่ได้ เพราะถ้าคนทำผิดกฎหมายมาก ๆ คนที่ทำถูกกฎหมายก็เสียเปรียบ ต้องเปิดพื้นที่ให้ก้าวและเข้ามาขายด้วยกัน โดยไม่มีการละเมิดสิทธิ กฎหมายจะทำให้ทุกคนมีโอกาสเข้ามา ทุกคนต้องต้องเคราพกฎหมาย เพราะคงไม่มีใครอยากไปบังคับใคร เดี๋ยวจะหาว่านายกฯลงตู่ บังคับคนอย่างที่เขาพูดกัน หน้าตาตนใจดีจะตาย ที่ทำมาก็หวังเพื่ออนาคตทั้งนั้น รวมถึงเราทุกคนต้องเคารพกติกา ซึ่งตนก็เคารพกติกาเช่นกัน เพราะฉะนั้นจึงขอให้ทุกคนปฏิบัติแบบเดียวกับตน สำหรับผู้ที่เดือดร้อน รัฐบาลได้เปิดช่องทางรับเรื่องร้องเรียน ทั้งศูนย์ดำรงธรรม และศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ หากพบมีหลักฐานชัดเจนเกี่ยวกับการทุจริต รัฐบาลพร้อมจะดำเนินการโดยทันที และตนขอยืนยันอีกครั้งว่า การดำเนินการทุกอย่างนั้นไม่มีใบสั่งใด ๆ ทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทักทายประชาชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ซึ่งมีประชาชนได้มาขอถ่ายรูปและนำของมามอบให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ อาทิ พระเครื่อง ผ้าขาวม้า ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของ จ.สุรินทร์ ได้ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ พิจารณา สร้างสนามบินใน จ.สุรินทร์ เพื่อพัฒนาระบบขนส่ง และการท่องเที่ยวให้พัฒนายิ่งขึ้น
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินชมตลาดผ้าไหม บ้านท่าสว่าง โดยในตลาดได้มีจัดแสดงผ้าไหม และเครื่องเงินรวมถึงอาหารจากชุมชนใกล้เคียง อาทิ ข้าวตัง มะพร้าว และกะปิ โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอให้ให้กำลังใจรองนายกฯ ของตนบ้าง อย่าให้กำลังใจแค่ตนเพียงคนเดียว ขอให้ประชาชนทุก ๆ คนดูแลรัฐมนตรีทุกคนด้วย ขณะเดียวกันในระหว่างที่นายกฯ เดินชมตลาด ได้มีชาวบ้านมาร้องเรียนเรื่องปัญหาราคาข้าวตกต่ำ โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกวันนี้ขายข้าวหอมมะลิ จนไม่มีจะส่งออกแล้ว อย่าคิดว่าราคาข้าวจะขึ้นมาก เพราะเรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับผู้ซื้อด้วย
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ ได้เข้าบ้านพัก นายวีรธรรม ตระกูลเงินไทย ครูศิลป์ของแผ่นดิน ประเภทเครื่องทอ (ผ้าไหมทอง) เพื่อพักรับประทานอาหารกลางวัน โดยนายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้จัดอาหารพื้นบ้านต้อนรับ ประกอบด้วย แกงผักหวานปลากรอบใส่ไข่มดแดง แกงจืดปลาร้าบอง ผักสด ไข่เจียวใส่ไข่มดแดง ไก่ย่างเพี้ยราม ลาบหมู ปลาเนื้ออ่อนทอด ตำไก่ใส่มะมวง ผลไม้ เมล่อน แตงโม มะม่วงมัน ไอศครีมกะทิสดในลูกมะพร้าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเป็นไปอย่างเข้มงวด นอกจากนี้หากประชาชนที่จะต้องการร้อนเรียนปัญหาใด ๆ ต่อนายกฯ ทางเจ้าหน้าที่ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยได้จัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมชั่วคราวไว้บริเวณทางเข้างาน ซึ่งอยู่คนละด้านกับจุดที่เฮลิคอปเตอร์นายกฯ ลงจอด
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● ผนึก 'อาลีบาบา' แก้ราคายาง! ขายออนไลน์ดึงสถาบันเกษตรกรตั้งบริษัทร่วมค้า
● 1 พ.ค.สสว.ดันbeautynista ขายออนไลน์ดีเดย์แคมเปญ SME 1 BAHT
วันที่ 7 พ.ค. 61 เมื่อเวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ ได้เดินทางมาเยี่ยมชมหมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองโบราณบ้านท่าสว่าง ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ โดยมีข้าราชการ ประชาชนและนักเรียนมารอให้การต้อนรับประมาณ 4,000 คน พร้อมกันนี้ทางจังหวัด โดยนายกิติเมศวร์ รุ่งธนิเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ได้นำช้างแฝดเพศผู้อายุ 8 ปี ชื่อทองคำกับทองแท่ง ซึ่งเป็นช้างแฝดคู่แรกของโลกมาต้อนรับ และให้ช้างมอบกระเช้าดอกไม้ให้กับนายกฯ ซึ่งนายกฯ ได้ให้กล้วยน้ำว้าและแตงกวาเป็นอาหาร ก่อนที่ยืนชมการแสดงของช้างแฝด ก่อนจะเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านท่าสว่างและการจัดแสดงสินค้าโอทอป โดยนายกฯ ได้ชมการทอผ้าไหม ซึ่งหมู่บ้านนี้ได้อนุรักษ์ศิลปะการทอผ้าไหมดั้งเดิมและได้รับเลือกให้เป็นผู้ผลิตผ้าไหมที่ระลึกให้กับผู้นำต่างที่ไทยเป็นเจ้าภาพในการประชุมเอเปก 2003 ทั้งนี้ นายกฯ ได้ร่วมตีกลองพร้อมร่วมฟ้อนรำกับชาวบ้าน นายกฯ ยังทดลองสีข้าวและตำข้าวด้วยมือ พร้อมลงชื่อและเขียนข้อความเป็นที่ระลึกลงบนผ้าไหมพื้นเมืองว่า "ด้วยรักและห่วงใย" และได้ชิมข้าวพันธุ์ต่าง ๆ ของ จ.สุรินทร์ อาทิ ข้าวดอกมะลิ 105 ข้าวปกาอำปึล ข้าว 10 พันธ์ุ และข้าวเหนียวดำ
จากนั้น นายกฯ ได้กล่าวกับชาวบ้าน พร้อมร่วมจัดรายการวิทยุสำนักงานพัฒนาภาค 5 ว่า วันนี้ร้อนนะ แต่ร้อนด้วยเสื้อผ้า แต่มาที่นี้แล้วอบอุ่นใจ เพราะมาเจอพวกเรา รัฐบาลทำเพื่อพวกเรา หากวันหน้าใครมาก็มาทำต่อ เราจะเริ่มให้ดีที่สุด อย่าไปคิดอะไรที่มันง่ายเกินไป เพราะเดี๋ยวมันก็ล้มเหลว และไม่ต่อเนื่อง ตนคิดถึงทุกคน ตนต้องส่งใจให้คนทั้ง 70 ล้านคน อย่างที่ จ.สุรินทร์ มีคน 1.4 ล้านคน รัฐบาลต้องทำให้ทุกคนที่นี้มีรายได้ จะให้เอาเงินไปแจกคนละพันคงไม่ได้ เดี๋ยวก็หมด ทำอย่างนั้นไม่ได้เราต้องไปสร้างเครือข่าย และทุกคนต้องปรับตัวเองและนึกถึงอนาคตของลูกหลาน
"ปัญหาของเรา คือ กลุ่มย่อย ๆ มีปัญหา ถ้าเราควบคุมตลาดสร้างวงจรตลาด จะได้แข่งขันพ่อค้าคนกลางได้ ถ้าเราคิด เรียนรู้เราจะได้ผลกำไร วันนี้อยากให้คนเรียนรู้ค้าขายออนไลน์ ถ้าเรายังแข่งขันกับใครไม่ได้ ขายในประเทศผ่านออนไลน์ก่อน อย่างข้าวกินทั้งโลก แต่บางทีไม่ได้กินข้าวแบบเรา แล้วปลูกเยอะ แล้วไปปลูกอะไรจะก็ต้องดูอะไรราคาว่าดีหรือไม่ หากปลูกมากเกินไปขายไม่ได้ก็ต้องแข่งกันเอง ต้องทำอะไรมีเหตุมีผล พอประมาณ ถ้าจะให้รัฐบาลให้อย่างเดียวแก้ไม่ได้ อย่าให้ใครมาบิดเบือน ต้องช่วยรัฐบาลอีกทาง สร้างความเข้มแข็ง อย่าให้ใครมาบอกให้เงิน เชื่อผมนะเพราะผมไม่ได้มาเพื่อการเมือง" นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลเข้ามาหลายคนอาจจะเสียโอกาส หลายคนอาจจะขายของไม่ได้ เพราะถ้าคนทำผิดกฎหมายมาก ๆ คนที่ทำถูกกฎหมายก็เสียเปรียบ ต้องเปิดพื้นที่ให้ก้าวและเข้ามาขายด้วยกัน โดยไม่มีการละเมิดสิทธิ กฎหมายจะทำให้ทุกคนมีโอกาสเข้ามา ทุกคนต้องต้องเคราพกฎหมาย เพราะคงไม่มีใครอยากไปบังคับใคร เดี๋ยวจะหาว่านายกฯลงตู่ บังคับคนอย่างที่เขาพูดกัน หน้าตาตนใจดีจะตาย ที่ทำมาก็หวังเพื่ออนาคตทั้งนั้น รวมถึงเราทุกคนต้องเคารพกติกา ซึ่งตนก็เคารพกติกาเช่นกัน เพราะฉะนั้นจึงขอให้ทุกคนปฏิบัติแบบเดียวกับตน สำหรับผู้ที่เดือดร้อน รัฐบาลได้เปิดช่องทางรับเรื่องร้องเรียน ทั้งศูนย์ดำรงธรรม และศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ หากพบมีหลักฐานชัดเจนเกี่ยวกับการทุจริต รัฐบาลพร้อมจะดำเนินการโดยทันที และตนขอยืนยันอีกครั้งว่า การดำเนินการทุกอย่างนั้นไม่มีใบสั่งใด ๆ ทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทักทายประชาชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ซึ่งมีประชาชนได้มาขอถ่ายรูปและนำของมามอบให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ อาทิ พระเครื่อง ผ้าขาวม้า ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของ จ.สุรินทร์ ได้ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ พิจารณา สร้างสนามบินใน จ.สุรินทร์ เพื่อพัฒนาระบบขนส่ง และการท่องเที่ยวให้พัฒนายิ่งขึ้น
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินชมตลาดผ้าไหม บ้านท่าสว่าง โดยในตลาดได้มีจัดแสดงผ้าไหม และเครื่องเงินรวมถึงอาหารจากชุมชนใกล้เคียง อาทิ ข้าวตัง มะพร้าว และกะปิ โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอให้ให้กำลังใจรองนายกฯ ของตนบ้าง อย่าให้กำลังใจแค่ตนเพียงคนเดียว ขอให้ประชาชนทุก ๆ คนดูแลรัฐมนตรีทุกคนด้วย ขณะเดียวกันในระหว่างที่นายกฯ เดินชมตลาด ได้มีชาวบ้านมาร้องเรียนเรื่องปัญหาราคาข้าวตกต่ำ โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกวันนี้ขายข้าวหอมมะลิ จนไม่มีจะส่งออกแล้ว อย่าคิดว่าราคาข้าวจะขึ้นมาก เพราะเรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับผู้ซื้อด้วย
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ ได้เข้าบ้านพัก นายวีรธรรม ตระกูลเงินไทย ครูศิลป์ของแผ่นดิน ประเภทเครื่องทอ (ผ้าไหมทอง) เพื่อพักรับประทานอาหารกลางวัน โดยนายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้จัดอาหารพื้นบ้านต้อนรับ ประกอบด้วย แกงผักหวานปลากรอบใส่ไข่มดแดง แกงจืดปลาร้าบอง ผักสด ไข่เจียวใส่ไข่มดแดง ไก่ย่างเพี้ยราม ลาบหมู ปลาเนื้ออ่อนทอด ตำไก่ใส่มะมวง ผลไม้ เมล่อน แตงโม มะม่วงมัน ไอศครีมกะทิสดในลูกมะพร้าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเป็นไปอย่างเข้มงวด นอกจากนี้หากประชาชนที่จะต้องการร้อนเรียนปัญหาใด ๆ ต่อนายกฯ ทางเจ้าหน้าที่ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยได้จัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมชั่วคราวไว้บริเวณทางเข้างาน ซึ่งอยู่คนละด้านกับจุดที่เฮลิคอปเตอร์นายกฯ ลงจอด
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● ผนึก 'อาลีบาบา' แก้ราคายาง! ขายออนไลน์ดึงสถาบันเกษตรกรตั้งบริษัทร่วมค้า
● 1 พ.ค.สสว.ดันbeautynista ขายออนไลน์ดีเดย์แคมเปญ SME 1 BAHT
