พลิกโฉม 'อุตฯการผลิต' แบบต่อเนื่อง! ฉลากอิเล็กทรอนิกส์-บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ (ตอน 2)

06 พ.ค. 2561 | 06:42 น.
060561-1333 07-3354

ความเดิมตอนที่แล้ว (ฉลากอิเล็กทรอนิกส์-บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ พลิกโฉมอุตฯการผลิตแบบต่อเนื่อง (1))


■ ■ ■ ■ ■


2.บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะราคาย่อมเยากำลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับชั้นวางสินค้า ซึ่งจะเริ่มใช้งานกับเนื้อสัตว์ก่อนเป็นอันดับแรก

ของเสีย : สำหรับผู้ผลิตโลกและผู้คน ไม่เคยมีเรื่องไหนจะเร่งด่วนเท่านี้มาก่อน ทราบหรือไม่ว่า มีอาหารที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เลยรวมกันทั่วโลกมากถึง 4 พันล้านตันทุกปี และในอเมริกาพบว่า 50% ของอาหาร ไม่เคยถูกกินเลย อีกทั้งในทุกปี 33% ของเนื้อสัตว์ โดยเฉลี่ยที่ชาวอเมริกันซื้อไว้ไม่เคยถูกกิน มีแต่เก็บเน่าจนต้องทิ้ง

ด้วยเหตุนี้ ของเสียจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมโดยตรง ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ เมื่อปี 2558 ที่อนุญาตให้ผู้ผลิตสามารถใช้ส่วนประกอบต่าง ๆ ในบรรจุภัณฑ์ได้ ตราบเท่าที่ไม่ส่งผลให้รสชาติของผลิตภัณฑ์เกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งผมเชื่อว่า ภายในสิ้นปี 2561 เราจะเริ่มเห็นบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะบุกเข้าสู่ร้านค้าปลีกทั่วไป ภายใต้การสนับสนุนขององค์กรและหน่วยงานภาครัฐ ที่ต้องการจัดการปัญหาด้านของเสียให้สำเร็จ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการกับเนื้อสัตว์ก่อนเป็นอันดับแรก


expire

จะเห็นได้ว่า วันที่ 'บริโภคก่อน' และ 'ใช้ไม่เกิน' บนบรรจุภัณฑ์ในทุกวันนี้ ยังไม่ถูกต้องชัดเจนเลยทีเดียว ซึ่งหมายถึง ต้องเสียเวลาผลิตไปโดยเปล่าประโยชน์ และจะเกิดอะไรขึ้น หากตัวบรรจุภัณฑ์บอกคุณได้เลยว่า สินค้าเหลือเวลาให้ใช้ได้อีกกี่วัน หรือ ได้เวลาแล้ว ต้องรีบนำไปบริโภคทันที และหากลงลึกการแจ้งเตือนไปถึงระดับชั่วโมงด้วยล่ะ แน่นอนว่า การประหยัดเวลาอาหารและค่าใช้จ่ายจากการใช้บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะย่อมสร้างความสามารถในการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัจจุบัน บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะประเภทนี้มีพร้อมให้ใช้งานแล้ว มาทำความรู้จักกับ บริษัท RipeSense ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับผลไม้กัน เริ่มจากเซ็นเซอร์อัจฉริยะบนฉลากบรรจุภัณฑ์ของผลไม้จะเปลี่ยนสี เพื่อบอกให้ผู้บริโภคทราบว่า ผลไม้มีความสุกมากน้อยเพียงใดแล้ว ตั้งแต่ความกรอบ (สีแดง) ความแน่น (สีส้ม) ไปจนถึงความฉ่ำ (สีเหลือง) โดยเซ็นเซอร์จะทำปฏิกิริยากับกลิ่นที่ปล่อยออกมาจากผลไม้เมื่อสุก และบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะของ RipeSense จะช่วยให้ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อผลไม้ที่เหมาะกับความต้องการได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังช่วยยืดอายุผลิตภัณฑ์และลดการเกิดของเสียได้อย่างมากอีกด้วย


Screen Shot 2561-05-06 at 13.37.25

ทั้งนี้ สมาคมบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะทั่วโลก ที่ชื่อว่า Active & Intelligent Packaging Industry Association (AIPIA) ได้คำนวณมูลค่าตลาดของบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะที่มีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ว่า อยู่ที่ระดับ 1.35 พันล้านยูโรต่อปี และคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ทุก 5 ปี ด้วยเหตุนี้ บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะที่สามารถช่วยลดของเสียได้อย่างมาก จึงกำลังขยายตัวอย่างมากในตอนนี้ และด้วยเทคโนโลยีที่สมบูรณ์ในราคาย่อมเยา เช่น เซ็นเซอร์แสง, อาร์เอฟไอดี (RFID-Radio Frequency Identification), เซ็นเซอร์ชีวภาพ, เซ็นเซอร์สารเคมี และเซ็นเซอร์ก๊าซ ล้วนมีส่วนสำคัญในการช่วยยืดอายุความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์บนชั้นวางได้อีกหลายวัน ซึ่งส่งผลดีต่อธุรกิจของผู้ผลิตแบบต่อเนื่องโดยตรง ทั้งเรื่องเวลา การวางแผน และรายได้

3.1 ใน 4 ของผู้ผลิตอาหารระดับโลกจะสร้างความร่วมมือรูปแบบใหม่ เพื่อรับประกันถึงความพร้อมของวัตถุดิบที่หายาก

"จงใกล้ชิดกับเพื่อน ๆ แต่ใกล้ชิดกับศัตรูให้มากกว่า"
เป็นคำกล่าวสุดคลาสสิกตั้งแต่ศตวรรษที่ 5 จากตำราพิชัยสงครามของซุนวู และตอกย้ำอีกครั้งโดย ไมเคิล คอร์เลโอเน ที่พูดวลีนี้ในเรื่อง The Godfather II ดูเหมือนว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2561 น่าจะสอดคล้องกับคำกล่าวดังกล่าวและน่าจะเป็นปีแห่ง "ศัตรูผู้เป็นมิตร" (Frenemies) และ "การร่วมมือแข่งขัน" (Coopetition) ที่พร้อมเป็นแรงผลักดันที่แท้จริงของกระแสโลกาภิวัตน์ โดยเห็นได้จากการร่วมมือกันครั้งล่าสุด ระหว่าง Kellogg, Pillsbury และ Nobisco เกี่ยวกับการขายออนไลน์ ที่แสดงให้เห็นว่า ในโลกที่กำลังขาดแคลนทรัพยากรนั้น ความร่วมมือกับคู่แข่งก่อให้เกิดประโยชน์ได้อย่างมาก


Screen Shot 2561-05-06 at 13.38.01

การรวมกิจการและการเข้าซื้อกิจการจะยังคงเป็นวิธีการที่ใช้กันทั่วไปสำหรับบริษัทต่าง ๆ ในการจัดหาวัสดุและอุปทานทั่วโลก แต่แนวทางดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อค่าใช้จ่ายและสร้างความท้าทายใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น การเข้าซื้อกิจการของซัพพลายเออร์ในบราซิล อาจทำให้ผู้เข้าซื้อกิจการมั่นใจได้ ถึงจำนวนทรัพยากรที่แน่นอน แต่ก็อาจเกิดความยุ่งยากรูปแบบใหม่ ๆ ในกระบวนการผลิตเพิ่มขึ้นด้วย การร่วมทุนเพื่อความคล่องตัวและการเป็นพันธมิตรระหว่างกันของผู้แพ้ในตลาด อาจกลายเป็นสิ่งปกติแบบใหม่ที่เกิดขึ้นในปี 2561 เนื่องจากบรรดาคู่แข่งจะหันมาจับมือและทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ

ซึ่งนั่นจะนำไปสู่การได้รับมูลค่าสูงสุดจากห่วงโซ่อุปทานและรับประกันได้ถึงวัตถุดิบในมือ นวัตกรรมที่เพิ่มมากขึ้นจะสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ผู้เล่นขนาดเล็กจนถึงขนาดกลางเดินหน้าเข้าสู่อุตสาหกรรม ที่ต้องมีความร่วมมือระหว่างกันเพิ่มขึ้น และแน่นอนว่า เป็นรูปแบบของ "การร่วมมือแข่งกัน"


Screen Shot 2561-05-06 at 13.38.43

แนวทางการทำงานร่วมกัน ที่เรียกว่า รู้จักมิตรผู้เป็นศัตร จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับผู้ผลิตได้อย่างมาก การค้นหาผู้ที่สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ที่คุณทำไม่ได้ และในทางกลับกันนั้น จะช่วยขยายข้อเสนอของคุณไปยังผู้ค้าปลีกโดยไม่จำเป็นต้องลงทุนเงินเป็นจำนวนมาก และเพื่อรับมือกับแนวโน้มทั้งหมดนี้ คุณจะต้องแน่ใจให้ได้ว่า มีความสามารถด้านระบบคลาวด์และเว็บที่เหมาะสม ซึ่งนั่นจะทำให้คุณสามารถแข่งขันและทำงานร่วมกับทรัพยากรที่มีอยู่ได้ทุกที่ตามต้องการ


……………….
บทความ โดย คอลิน เอลกินส์ ผอ.อุตสาหกรรมส่วนกลาง ด้านการผลิตแบบต่อเนื่อง บริษัท ไอเอฟเอสฯ
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,354 วันที่ 5-7 เม.ย. 2561 หน้า 07

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ฉลากอิเล็กทรอนิกส์-บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ พลิกโฉมอุตฯการผลิตแบบต่อเนื่อง (1)


e-book-1-503x62