8 จำเลย "แก๊งนกฮูก" ค้าประเวณีเด็ก “ติดคุกหลายร้อยปี!!!”

18 เม.ย. 2561 | 11:53 น.
เมื่อเวลา 12.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานจากห้องพิจารณา 713 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษกว่าศาลอ่านคำพิพากษาคดีค้ามนุษย์ร่วมกันค้าประเวณีเด็กแก๊งนกฮูก บ้านน้ำเพียงดิน อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ตามที่พนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ 3 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ปิยะวรรณ สุขมาก(เจ๊เมย์) , น.ส.ปิยทัศน์ ภาพเทียนสุวรรณ (เจ๊ฟ้า) โดยทั้งสองคนเป็นแม่เล้า , ด.ต.ยุทธชัย ทองชาติ (ดาบยุทธ) สังกัด สภ.น้ำเพียงดิน จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นผู้จัดหาลูกค้าและอยู่เบื้องหลังการค้าประเวณี กับพวกชาย-หญิงอีก 5 คนซึ่งเป็นกลุ่มแม่เล้า เป็นจำเลยที่ 1-8 ในหมายเลขดำ คม.42/2560 ความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์เพื่อการค้าประเวณีฯ อันเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 , พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 , ร่วมกันเป็นธุระจัดหาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ค้าประเวณี , ร่วมกันพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปจากผู้ปกครองฯ , ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุเกิน 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปีไปจากผู้ปกครองเพื่อการอนาจารฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282,283,317,319

aHR0cDovL3BlMS5pc2Fub29rLmNvbS9ucy8wL3VkLzQ0Mi8yMjEwNDE0L3Njc2QuanBn ตามอัยการโจทก์และนำสืบพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างวันที่ 1 ก.พ 57- ปี 2559 พวกจำเลย ได้ร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปเพื่อการค้ามนุษย์ ร่วมกันเป็นธุรจัดหาเพื่อค้าประเวณี โดยพรากเด็กหญิงอายุไม่ถึง 15 ปี และผู้เยาว์ อายุไม่เกิน 18 ปี หลายคน ไปจากบิดา-มารดา เพื่อการอนาจารและแสวงหาหากำไร จากการพาไปขายบริการทางเพศ การค้าประเวณี และกลุ่มจำเลย ได้ขับรถสายตรวจ สภ.น้ำเพียงดิน พาเด็กนั้นไปขายบริการทางเพศกับลูกค้าที่เป็นตำรวจและกลุ่มลูกค้าชายอื่นอีกด้วยซึ่งจะมีการแบ่งเงินจากการขายบริการทางเพศคนละ 500 – 1,000 บาทจากยอดเงินที่ขายบริการ 2,000-3,000 บาท ในเขตจ.แม่ฮ่องสอน หากเด็กไม่ยินยอมก็จะถูกนำภาพที่ถ่ายไว้มาประจานและทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดที่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ขณะที่จำเลยทั้ง 8 คนให้การปฏิเสธตตลอดข้อกล่าวหา

โดยชั้นพิจารณาคดีตลอด 1 ปี จำเลยที่ 1-3 ไม่ได้รับการประกันตัว ศาลจึงเบิกตัวจำเลยทั้งสาม มากเรือนจำเพื่อฟังคำพิพากษา ส่วนกลุ่มพ่อเล้า-แม่เล้าที่เหลืออีก 5 คน ประกอบด้วยนายมงคล เกียรติภัคดิพงศ์ (แป๊ะ) จำเลยที่ 4 , น.ส.ปัทมพร อิ่นแก้ว(อึง) จำเลยที่ 5 , “น.ส.กนกวรรณ รัตนภักดี (ละม่อม) จำเลยที่ 6 , น.ส.ขวัญหทัย ฤกษ์อุดม (ตั๊ก ) จำเลยที่ 7 และ น.ส.กัลยา วุฒิคุณ (จอย) จำเลยที่ 8 ซึ่งได้รับการประกันตัวเดินทางมาฟังคำพิพากษาเช่นกัน
0001 ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐาน ที่อัยการโจทก์และจำเลย นำสืบหักล้างกันแล้ว เห็นว่า พยานหลักฐานที่อัยการโจทก์ นำสืบมามีน้ำหนักมั่นคงให้รับฟังได้ จำเลยทั้ง 8 คน ร่วมกันกระทำความผิดตามฟ้อง ตามหน้าที่แต่ละคน โดยด.ต.ยุทธชัย เป็นข้าราชการ ตามกฎหมายต้องระวางโทษเป็น 2 เท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดฐานค้ามนุษย์ด้วย

จึงพิพากษาว่า การกระทำของจำเลยที่ 1-8 เป็นการกระทำผิดหลายกรรมต่างกัน ก็ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป โดยให้จำคุกน.ส.ปิยะวรรณ เป็นเวลา 167 ปี , น.ส.ปิยทัศน์ เป็นเวลา 176 ปี และ ด.ต.ยุทธชัย เป็นเวลา 320 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิด ที่โทษกระทงซึ่งจำคุกสูงสุดนั้นไม่เกิน 10 ปีแล้วตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (3) ก็ให้จำคุกจำเลยที่ 1-3 สูงสุดตามกฎหมาย ไว้คนละ 50 ปี

นายมงคล ให้จำคุกเป็นเวลา 19 ปี , น.ส.ปัทมพรให้จำคุกเป็นเวลา 12 ปี , น.ส.กนกวรรณให้จำคุกเป็นเวลา 8 ปี ,น.ส.ขวัญหทัย ให้จำคุกเป็นเวลา 32 ปี และ น.ส.กัลยาให้จำคุกเป็นเวลา 36 ปี
1524051152612 ศาลยังมีคำพิพากษา ให้น.ส.ปิยะวรรณ,น.ส.ปิยทัศน์ กับด.ต.ยุทธชัยร่วมกันชำระค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายโจทก์ร่วมที่ 1 จำนวน 850,000 บาท และโจทก์ร่วมที่ 2 จำนวน 700,000 บาทด้วย

รวมทั้งให้นายมงคล, น.ส.ปัทมพร ,น.ส.กนกวรรณ ร่วมกันชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมที่ 1 จำนวน 20,000 บาทและให้ น.ส.ขวัญหทัย ชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมที่ 1 จำนวน 50,000 บาท ส่วนน.ส.กัลยาให้ชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมที่ 1 จำนวน 60,000 บาท และโจทก์ร่วมที่ 3 จำนวน 20,000 บาท ทั้งหมดให้ชำระพร้อมดอกเบี้ย อัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้อง 19 ก.ค.2560 เป็นต้นไป
capture-20180418-100055