มูลนิธิซิตี้และยูเอ็นดีพีร่วมหาทางออกเยาวชนว่างงาน

26 มี.ค. 2561 | 13:49 น.
องค์กรแรงงานระหว่างประเทศระบุว่า เยาวชนประมาณ 71 ล้านคน ที่มีอายุระหว่าง 15-24 ปีทั่วโลก กำลังว่างงานและมีจำนวนเยาวชนว่างงานถึง 33 ล้านคนทั่วเอเชียแปซิฟิก เนื่องจากประชากรวัยหนุ่มสาวหรือเยาวชนของโลกเป็นประชากรเกือบหนึ่งในสี่ของประชากรโลก ประเด็นดังกล่าวจึงถือเป็นปัญหาเร่งด่วน แม้แต่ในบรรดาเยาวชนที่มีงานทำก็ตาม เยาวชนส่วนใหญ่ยังเผชิญกับปัญหาความยากจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลาง

มูลนิธิซิตี้ ร่วมกับ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) จึงมีการเปิดเวทีเสวนาระดับเอเชียแปซิฟิก ยูธ โคแล็บ ซัมมิท 2018 (Youth Co:Lab Summit 2018) พัฒนาเยาวชนเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมทางสังคมอย่างยั่งยืน และจัดการปัญหาเยาวชนว่างงานทั่วทวีปเอเชีย โดยมีตัวแทนเข้าร่วมกว่า 200 คน และเยาวชนทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเข้าร่วมอีกกว่า 1,700 คน โดยมีธุรกิจเพื่อสังคมเกิดขึ้นกว่า 140 ธุรกิจ

กิจกรรมในโครงการยูธ โคแล็บ (Youth Co:Lab) เป็นโครงการที่เน้นพัฒนาให้ความรู้ ความเข้าใจ และให้คำปรึกษาแก่เยาวชนในด้านต่างๆ ตลอดจนการนำเสนอผลงานของตนเองบนเวทีเสวนาระดับเอเชียแปซิฟิก “Youth Co:Lab Summit 2018”

ทีมที่ได้รับการคัดเลือกจากทั่วทวีปเอเชียแปซิฟิก มีจำนวน 21 ทีมจาก 9 ประเทศ ได้แก่ ไทย ฟิลิปปินส์ มัลดีฟ เนปาล ศรีลังกา ภูฏาน วานูอาตู หมู่เกาะโซโลมอน และจีน กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นในวันที่ 26-28 มีนาคม 2561 ที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ อาคารสหประชาชาติ กรุงเทพฯ

โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP)  ได้เปิดตัวโครงการยูธ โคแล็บ (Youth Co: Lab) ขึ้นในปี 2560 โดยได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิซิตี้ โครงการนี้เป็นโครงการระดับภูมิภาค ที่ต้องการปลูกฝังความเป็นผู้นำให้แก่เยาวชน ในด้านการประกอบธุรกิจและพัฒนานวัตกรรม โดยโครงการยูธ โคแล็บ เป็นส่วนหนึ่งของซิตี้และโครงการเส้นทางสู่ความก้าวหน้า(Pathways to Progress) ของมูลนิธิซิตี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่เยาวชนในเมืองให้เจริญเติบโตตามเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดย UNDP และมูลนิธิซิตี้ ตั้งเป้าขยายโครงการฯ ให้เข้าถึง 16 ประเทศ ในปีหน้า

นายเฮาเหลียง ซู ผู้ช่วยเลขาธิการสหประชาชาติ ผู้ช่วยผู้บริหารและผู้อำนวยการ สำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิ ก โครงการ UNDP กล่าวว่า โมเดลการเสริมสร้างระบบนิเวศของโครงการยูธ โคแล็บ เป็นตัวผสานเยาวชน รัฐบาล และกลุ่มธุรกิจ ตลอดถึงศักยภาพของเครือข่ายสหประชาชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตั้งแต่การพัฒนาระบบจัดหาเงินทุนไปจนถึงการส่งเสริม การพัฒนาธุรกิจหรือแนวทางด้านกฎหมาย เพื่อให้เกิดธุรกิจทางสังคมที่เหมาะสมกับแต่ละประ เทศ

นางแบรนดี้ แมคเฮล ประธานมูลนิธิซิตี้ (Citi Foundation) และผู้บริหารสายงานความรับผิดชอบต่อสังคม ซิตี้ กล่าวว่า จุดมุ่งหมายของการประชุมครั้งนี้  คือการกระตุ้นเยาวชนในการเป็นผู้ประกอบการธุรกิจ โดยการช่วยให้เยาวชนตระหนักและร่วมกันหาทางออก ที่จะช่วยแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม การทำงานร่วมกันในโครงการยูธ โคแล็บ ระหว่างมูลนิธิซิตี้และ UNDP ในช่วงปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ หากต้องการบรรลุเป้าหมายด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนภายในปี 2573