เปิดใจบิ๊ก EA ‘สมโภชน์ อาหุนัย’ ยืนยันไม่ไปไหนแน่

23 มี.ค. 2561 | 07:45 น.
ท่ามกลางกระแสการเทขายหุ้นของผู้บริหาร บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่ “สมโภชน์ อาหุนัย” ประธานกรรมการบริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) กลับสวนกระแสที่ต้องเข้าซื้อหุ้น EA เป็นครั้งแรก นับจากเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2556 ก่อนจะย้ายมาซื้อขายใน SET เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2560

“ตั้งแต่เข้าตลาดมา ผมไม่เคยขายแม้สักหุ้นเดียว เคยซื้อหุ้นครั้งหนึ่ง ที่ซื้อต่อจากน้องสาว เพราะต้องการใช้เงิน แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมกับคุณอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เข้าซื้อหุ้น ซึ่งใช้เงินไปหลายร้อยล้านบาท เพื่อแสดงให้เห็นว่า จะไม่ทิ้งบริษัทไปไหน”

[caption id="attachment_270573" align="aligncenter" width="335"] สมโภชน์ อาหุนัย สมโภชน์ อาหุนัย[/caption]

เป็นการแสดงท่าทีออกมา หลังจากที่หุ้น EA ถูกเทขายออกมาจำนวนมากตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม ทำให้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บริษัทได้ปิดสมุดทะเบียนเพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้นแล้ว พบว่า กลุ่มผู้ที่ขายหุ้นออกมามากเป็นพิเศษคือ กองทุนหุ้นระยะยาวของ บลจ. 2 แห่ง โดยแห่งที่ 1 ขายออกมากว่า 32 ล้านหุ้น และแห่งที่ 2 ขายออกมาอีกกว่า 9.7 ล้านหุ้น และยังพบว่า มีกลุ่มบุคคล 2 ราย ปรากฏในรายชื่อผู้ถือหุ้น 20 ล้านหุ้น ได้เทขายหุ้นออกมาด้วย เมื่อราคาหุ้นลงอย่างต่อเนื่อง จึงเกิดการขายชอร์ตเซลอีกจำนวนรวมกว่า 48.9 ล้านหุ้น

“รวมๆแล้ว หุ้นน่าจะถูกเทขายออกเกือบ 100 ล้านหุ้น มูลค่าหลายพันล้านบาท เกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกัน พร้อมกับข่าวลือ เริ่มตั้งแต่บริษัทไปลงทุนในธุรกิจที่มีความเสี่ยงเต็มไปหมด แบตเตอรี่ที่ลงทุนมหาศาลแล้วจะเวิร์กหรือไม่ รถยนต์ไฟฟ้าที่เราทำจะโอเคไหม เราจะเพิ่มทุนบ้าง หรือผมขายหุ้นออกมา จะทิ้งกิจการหนีไปต่างประเทศ ไซฟ่อนเงิน โครงการล้ม ผู้ถือหุ้นทะเลาะกัน หรือเจ้าของตัวจริงขาย ผมเป็นแค่นอมินี หรือมีกระทั่งผมถูกยิง ต้องเปลี่ยนซีอีโอ ภรรยาผมขาย จนผมไม่แน่ใจต้องกลับไปถามภรรยาที่บ้านว่า ขายจริงหรือไม่ ซึ่งผมไม่ทราบเจตนาของคนทำได้ แต่เมื่อหุ้นลงมากๆ ก็เกิดการตื่นตระหนก ทำให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่โดนผลกระทบไปด้วย”

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01-3-1 แผนการลงทุนปี 2561-2562 ที่คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 2.6 หมื่นล้านบาท บริษัทมีสภาพคล่องเพียงพอ ไม่คิดจะเพิ่มทุนแน่ มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเข้ามาในปีนี้ 8 พันล้านบาท และปีหน้าคาดว่าไม่ตํ่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งหลักๆ มาจากรายได้การขายไฟฟ้า จึงเพียงพอสำหรับการใช้จ่ายลงทุน ด้านการกู้ยืมระยะยาวจะมีเพียงบางส่วนเท่านั้น และคาดว่าก้อนใหญ่จะเป็นต้นปีหน้า ซึ่งปีนี้งบประมาณส่วนใหญ่เกือบ 1.8 หมื่นล้านบาท จะลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานลม จ.ชัยภูมิ ขนาดกำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์ ซึ่งได้รับเครดิตจากซัพพลายเออร์ให้ชำระเงินส่วนใหญ่กว่า 1 หมื่นล้านบาท ในเดือนมีนาคม จึงไม่กระทบกับแผนการจัดการด้านการเงินแต่อย่างใด

“ผมไม่ได้อยากดัง แต่อยากทำอะไรที่เป็นประโยชน์ กว่าผมจะมายืนบนจุดนี้ กว่าผมจะมีความรู้อย่างนี้ มันก็ยากนะ แล้วอยู่ดีๆให้มันหายไป โดยที่เรายังไม่ได้คืนอะไรกับสังคม ผมว่ามันไม่ใช่” คือคำยืนยันจากปากของสมโภชน์ หลังจากตกอยู่ในข่าวลือการทิ้งบริษัทที่สร้างมากับมือ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,350 วันที่ 22 - 24 มีนาคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว