เปิดแนวคิดคนรุ่นใหม่สู่จุดเริ่มต้นทำดี ภารกิจที่ท้าทาย...กลุ่มบริษัทดีที

24 มี.ค. 2561 | 00:40 น.
เมื่อ 25 ปีที่แล้วกลุ่มบริษัทดีที ได้ถูกก่อตั้งขึ้นด้วยเป้าหมายของ “ทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทดีที และบริษัท ดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่ต้องการสร้างธุรกิจที่เป็นแหล่งเงินทุน ของการดูแลสังคมอย่างยั่งยืน โดยแบ่งรายได้ 2% มาบริหารจัดการกิจการของ มูลนิธิ พุทธรักษา ที่จัดตั้งเมื่อปี 2545 โดยประกาศเป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศลลำดับที่ 691 ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2552 ของประกาศกระทรวงการคลัง โดย ล่าสุด ได้ “ดร.วิทย์ สุนทรนันท์” มาทำหน้าที่บริหาร ในฐานะผู้อำนวยการบริหาร สายงานแผนกลยุทธ์องค์กรเพื่อสังคม บริษัท ดีทีจีโอฯ และรองประธาน มูลนิธิพุทธรักษา

MP28-3350-3A “ดร.วิทย์” เล่าว่า ด้วยวิสัยทัศน์ของซีอีโอ ต้องการทำให้มูลนิธิพุทธรักษาขยายงานด้านการกุศลให้มีความลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นทั้งในและต่างประเทศ โดยยึดแนวทาง 3 ด้าน คือ การศึกษา สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม โดยทำงานควบคู่ไปกับมูลนิธิ DT Family ที่จัดตั้งขึ้นในปี 2558 เพื่อดูแลงานด้านสังคมในต่างประเทศ

แนวทางการทำงานของมูลนิธิพุทธรักษาคือ การหาแนวร่วมให้มากที่สุด ในการผลักดันหรือประสานงานกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์และเข้าถึงกับสังคมให้มากที่สุด ด้วยความเชื่อว่า การทำสิ่งดีๆ หากทำคนเดียว กำลังจะไม่เยอะเท่ากับการทำร่วมกันหลายๆ คน ที่จะทำให้เกิดอิมแพ็กต์ ในวงกว้างและทั่วถึงกว่า โดยไม่เน้นการบริจาค แต่นำเงินทุนที่มีอยู่มาโครงการหรือโปรเจ็กต์เพื่อส่งความช่วยเหลือต่อไปให้คนที่ขาดโอกาสจริงๆ ใน 2 ส่วน คือ โปรเจ็กต์เชิงลึกที่มูลนิธิทำขึ้นเอง เพื่อช่วยเหลือโดยตรงกับผู้ที่เดือดร้อน เช่น Art 4 Worth, Asian Variety และอีกส่วนคือ โปรเจ็กต์ที่เป็นการส่งต่อ เป็นการบริจาคผ่านมูลนิธิอื่นๆ หรือองค์กรอื่นๆ ที่มีแนวทางการทำงานใกล้เคียงกับมูลนิธิพุทธรักษา โดยส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือและสนับสนุนเด็กที่ด้อยโอกาส เพราะเด็กๆ เหล่านี้คือฐานที่สำคัญของสังคมในอนาคต
มูลนิธิพุทธรักษา ได้ให้ความช่วยเหลือมูลนิธิและหน่วยงานอื่นๆ เช่น โรงเรียนธรรมจารินวิทยามูลนิธิบ้านนกขมิ้น มูลนิธิอาสาพัฒนาเด็ก - ครูนํ้าเชียงราย มูลนิธิหมอเสม พริ้งพวงแก้ว มูลนิธิธัมคีรี โดยหลักๆ จะเน้นการช่วยเหลือเรื่องการศึกษา รวมไปถึงการช่วยเหลือปัจจัยพื้นฐาน อาทิ ค่านํ้า ค่าไฟ เงินเดือน เพื่อให้ผู้บริการมูลนิธิเหล่านี้ สามารถดำรงอยู่ได้ แล้วไปช่วยเหลือสังคมต่อไป

MP28-3350-2A “ดร.วิทย์” บอกว่า อีกสิ่งหนึ่งที่มูลนิธิพุทธรักษาต้องการผลักดันให้เกิดขึ้น คือ การปลูกฝัง หรือกระตุ้นเปิดแนวคิดให้คนรุ่นใหม่ และคนในสังคมทั้งหลาย ได้เกิดความคิดที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เช่น คนรุ่นใหม่ที่อยากออกมาทำธุรกิจ ได้มีมุมมองว่า สิ่งที่จะทำนั้น ทำแล้วช่วยเหลือสังคมอย่างไร สังคมได้อะไรบ้าง ไม่ได้มุ่งหวังแต่การสร้างรายได้ โดยไม่คำนึงถึงส่วนได้ส่วนเสียของสังคมก่อน โดยมูลนิธิฯ มีแผนที่จะจัดโครงการร่วมกับพาร์ตเนอร์ เชิญชวนเด็กรุ่นใหม่ที่อยากเป็นผู้ประกอบการ มาเรียนรู้จากประสบการณ์ของกลุ่มบริษัทดีที แล้วเชิญพวกเขามาเป็นแนวร่วม ซึ่งจะมีการต่อยอดให้เกิดอิมแพ็กต์ดีๆ ต่อสังคมในอนาคต

[caption id="attachment_269862" align="aligncenter" width="503"] เลี้ยงอาหารบ้านพักคนชรา เลี้ยงอาหารบ้านพักคนชรา[/caption]

“ธุรกิจของเรามีทั้ง อสังหาริมทรัพย์ เทรดดิ้ง การออกแบบ ธุรกิจที่ดำเนินการเหล่านี้ ต้องยึดมั่นในความดี มีพื้นฐานที่ดี และต้องเก่งด้วย เพราะทำธุรกิจต้องเติบโตและมีรายได้ แล้วค่อยเอาเงินที่ได้มาแบ่งปันเพื่อสังคม เราจะเป็นองค์กรสากลเพื่อสังคมแบบอมตะ สร้างสิ่งดีๆ เพื่อสังคมแบบยั่งยืน”

[caption id="attachment_269870" align="aligncenter" width="503"] ดร.วิทย์ สุนทรนันท์ ดร.วิทย์ สุนทรนันท์[/caption]

อีกส่วนของการทำดี เราอยากให้คนกลับไปคิดที่จุดเริ่มต้นก่อน เขาควรมีหลักคิดอย่างไร จึงจะทำให้สังคมเติบโตไปได้อย่างยั่งยืน คนที่มาทำตรงนี้ได้ ต้องมีใจที่ใกล้เคียงกัน (like minded) คือ ใจปรารถนาดี ต้องมีความมุ่งมั่น และรับฟังความคิดเห็นคนอื่น โดยมูลนิธิ จะทำหน้าที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนกลับมาคิดจากจุดเริ่มต้นของการทำความดี เพื่อให้สังคมได้รับประโยชน์จริงๆ และยั่งยืน

MP28-3350-4A “มูลนิธิ ของเรา ไม่ใช่ทำเพื่อซีเอสอาร์ หรือซีเอสวี สิ่งที่เราต้องทำ มันเป็นหน้าที่ ธุรกิจต่างหากที่ต้องหาทางเติบโต เพื่อเอาเงินมาให้เรา เราเน้นสร้างอนาคตสังคม ไม่ได้ออกแบบการทำงาน มาเพื่อให้ส่งผลกลับมาที่เรา”...นั่นคือปณิธานของผู้บริหารมูลนิธิพุทธรักษา ที่ต้องการส่งมอบสิ่งดีๆ ให้กับสังคม ทำให้สังคมได้ประโยชน์สูงสุด

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,350 วันที่ 22 - 24 มีนาคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว