หนังสือพิมพ์เมียนมาไทม์ส รายงานว่ากระทรวงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและป่าไม้ของเมียนมาได้ประกาศ วิธีการวิเคราะห์และทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) สำหรับโครงการลงทุนในประเทศ พร้อมกับออกแนวปล่อยก๊าซใหม่
ระเบียบวิธีการประเมินและทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) ใหม่ที่ประกาศในวันที่ 14 มกราคมที่กรุงเนปิดอว์ ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมียนมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เป็นระเบียบที่จัดทำขึ้นโดยได้รับความช่วยเหลือจากธนาคารพัฒนาเอเชียและมีพื้นฐานจากแนวทางของ บริษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (ไอเอฟซี) โดยมีการปรับให้เหมาะกับประเทศเมียนมาโดยเฉพาะ
รัฐบาลออกประกาศกฎ EIA ใหม่ พร้อม ๆ กับการออกประกาศแนวปล่อยก๊าซใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎ EIA ใหม่ซึ่งจะต้องมีการประเมินผลกระทบต่ออากาศด้วย
เมียนมาไทม์ส ระบุว่านอกจากแนวทางจากนานาชาติแล้วที่ใช้ในการทำระเบียบใหม่นี้แล้ว รัฐบาลเมียนมายังได้นำแบบอย่างจากประเทศเพื่อนบ้านมาปรับใช้ด้วยเพื่อให้เหมาะกับประเทศมากที่สุด
Mrs. Thet Then Zin รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและป่าไม้กล่าวว่า กฎ EIA ใหม่ จะช่วยให้ผู้เกี่ยวข้องมองเห็นผลกระทบของโครงการลงทุนต่างๆ ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยมีเป้าให้กระทบน้อยที่สุด โดยการบังคับใช้ EIA จะเหมือนกับที่มีการบังคับใช้กันอยู่ในประเทศสมาชิกอาเซียน
รัฐมนตรีช่วยกระทรวงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและป่าไม้ ให้สัมภาษณ์เมียนมาไทม์ส ว่า “โครงการที่จะลงทุนในเมียนมาจำเป็นต้อง มีการสร้างความสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การควบคุมมลภาวะทางน้ำ อากาศและดินเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำในระดับต้นๆ”
Mr. Hla Maung Thein ผู้ช่วยกรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมพูดว่าการบังคับใช้กฎ EIA ใหม่จะทำให้การบริหารสิ่งแวดล้อมของประเทศทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยกฎใหม่นี้จะเน้นทางด้านความโปร่งใสของโครงการ การยอมรับจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโดยใช้ต้นทุนน้อยที่สุด
ภายใต้กฎ EIA ใหม่นักลงทุนจะต้องเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงการต่อสาธารณะแบบเรียลไทม์ โดยมีกฎให้ผู้ลงทุนต้องติดตามความก้าวหน้าของโครงการและรายงานให้แก่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องหากนักลงทุนฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎใหม่ในเรื่องการเผยแพร่ข้อมูลจะโดนลงโทษปรับคิดเป็นเงินดอลลาร์ตั้งแต่ 1,000-5,000 ดอลลาร์ (36,000-180,000 บาท) โดยจ่ายเป็นเงินจ๊าตในมูลค่าเดียวกันกับดอลลาร์
นางวิคกี้ บาวแมน ผู้อำนวยการศูนย์การทำธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบแห่งเมียนมา ประกาศแสดงความยินดีต่อการออกกฎ EIA ของเมียนมาโดยเขียนตอบเมียนมาไทม์ส ผ่านอี-เมล์ว่า “กฎใหม่ช่วยแก้ปัญหาของการทำงานภายใต้ความไม่ชัดเจน ของบริษัทเอกชนในช่วงที่ผ่านมา 1-2 ปีก่อน เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความชัดเจนว่าบริษัทจะต้องปรึกษาใครหรือเปิดเผยอะไร รวมทั้งประเด็นและผลกระทบทางด้านใดบ้างที่จะต้องทำการประเมิน”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,124 วันที่ 21 - 23 มกราคม พ.ศ. 2559