ฟิลิปปินส์สนซื้อข้าวไทย 7 แสนตัน พาณิชย์ลุ้นประเดิมจีทูจีปี59 / เอกชนห่วงแล้งฉุดส่งออก

19 ม.ค. 2559 | 05:00 น.
พาณิชย์-ผู้ส่งออกข้าวได้ลุ้น ฟิลิปปินส์แย้มข่าวดีสนใจซื้อข้าวไทย 4-7 แสนตันก่อนเลือกตั้งใหญ่ ระบุแข่งกับข้าวเวียดนามสูสีแน่ คาดปลายเดือนนี้กรมการค้าต่างประเทศได้ข้อสรุปปริมาณความต้องการที่ชัดเจน และราคาที่จะเสนอ ขณะข้าวหอมมะลิแข่งเดือดข้าวหอมเขมรที่ราคาถูกกว่าครึ่ง ห่วงภัยแล้งฉุดผลผลิตวูบไม่มีข้าวใหม่ส่งออก ด้าน "อภิรดี"หวังประเดิมปี 59 ขายข้าวจีทูจีฟิลิปปินส์

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"หลังเดินทางร่วมคณะนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เยือนประเทศฟิลิปปินส์(13 ม.ค.59) ว่า ในการหารือกับผู้ช่วยประธานาธิบดีฟิลิปปินส์และองค์การอาหารแห่งชาติฟิลิปปินส์ (NFA) เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าข้าวกับฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นผู้นำเข้าข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี)และเป็นการขยายโอกาสทางการค้าข้าวในอนาคตของไทย ซึ่งหลังจากการพบปะและหารือทางรัฐบาลฟิลิปปินส์สนใจที่จะซื้อข้าวไทยในรูปแบบจีทูจี ปริมาณ 4-7 แสนตัน เป็นข้าวขาว 5% ซึ่งในปลายเดือนนี้กรมการค้าต่างประเทศน่าจะมีการประชุมเพื่อสรุปตัวเลขความต้องการที่ชัดเจนของฟิลิปปินส์และราคาที่จะเสนอ

"ไปฟิลิปปินส์ครั้งนี้ไปคุยเรื่องข้าวเพียงอย่างเดียว เพราะในอดีตไทยเองไม่เคยมีรัฐมนตรีคนไหนไปขอบคุณเขาที่เขาช่วยซื้อข้าวไทย ไปครั้งนี้เขาเองก็ดีใจที่เราไปและเพื่อเป็นการแสดงความมั่นใจว่าจะยังคงเป็นซับพลายเออร์ที่ดีระหว่างกันอยู่ ซึ่งไปครั้งนี้ก็ประสบความสำเร็จเพราะเขาสนใจในข้าวของเรา และต้องการก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2559 เพื่อนำไปใช้บริโภคภายใน เพราะหากช้าไปราคาอาจแพงกว่านี้"

นอกจากการซื้อข้าวแบบจีทูจีแล้ว รัฐบาลฟิลิปปินส์ยังได้ให้โควตาผู้นำเข้าข้าวของฟิลิปปินส์ที่สนใจจะนำเข้าข้าว ทำให้ในปีที่ผ่านมาทำให้ผู้ส่งออกข้าวของไทยได้รับอานิสงส์นี้ค่อนข้างมาก โดยขายได้ประมาณ 3 แสนตัน จากโควตานำเข้า 6 แสนตัน ส่วนโควตาของปีนี้ยังไม่ออกน่าจะประมาณกลางปี ขณะที่ความคืบหน้าการส่งมอบข้าวจีทูจีเดิมให้กับฟิลิปปินน์ 8 แสนตัน โดยให้เอกชนเป็นคนส่งมอบนั้น ได้มีการส่งมอบไปแล้วกว่า 70% โดยสัญญาส่งมอบจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคมนี้ ซึ่งกลางเดือนกุมภาพันธ์น่าจะส่งมอบได้หมด

นายชูเกียรติกล่าวอีกว่า ความต้องการข้าวจีทูจีของฟิลิปปินส์ข้างต้น ไทยคงต้องแข่งขันกับเวียดนามซึ่งสถานการณ์ราคาข้าวของทั้ง 2 ประเทศขณะนี้ถือว่าใกล้เคียงกัน โดยข้าวเวียดนาม(ข้าวขาว 5%)อยู่ที่ 360-365 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ลดลงมาจากเดิมอยู่ที่ 375 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ข้าวไทยราคาอยู่ที่ 370 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ส่วนราคาข้าวหอมมะลิไทยอยู่ที่ 820-850 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน สิ่งที่เอกชนเป็นห่วงคือข้าวดอกมะลิ หรือข้าว KDM ของกัมพูชาที่มีราคาถูกเพียงตันละ 540 ดอลลาร์สหรัฐฯ ลูกค้าส่วนหนึ่งจะหันไปซื้อข้าว KDM แม้จะรู้ว่าคุณภาพข้าวไม่ได้ดีเท่าข้าวหอมมะลิไทยก็ตาม แต่มีราคาถูกกว่า

"ราคาข้าวในประเทศปีนี้ในส่วนของข้าวสาร ขยับราคาขึ้นมาจากกิโลกรัมละ11.50 บาทมาเป็น 12 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับราคาที่ผู้ส่งออกรับได้ ส่วนราคาข้าวเปลือกเฉลี่ย 8 พันบาทต่อตัน สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือปัญหาภัยแล้งซึ่งน่าจะชัดเจนมากในปีนี้ เพราะครอปแรกของนาปรังกำลังออกมาก็ต้องดูว่าจะเสียหายเท่าไหร่ ซึ่งก็จะกระทบกับการส่งออก และราคาอาจจะปรับสูงขึ้นซึ่งจะทำให้ผู้ส่งออกแข่งขันยากขึ้น เพราะข้าวของเวียดนามเองก็เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิต ดังนั้นหากไทยไม่มีข้าวเพียงพอกับการส่งออกอาจทำให้การแข่งขันลำบากขึ้น นอกจากนี้เศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ดี ราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างต่อเนื่องส่งผลต่อกำลังซื้อของลูกค้าที่ลดลง แต่ไทยอาจจะได้อานิสงส์จากค่าบาทที่ยังแข็งค่าแต่ก็ยังคงตั้งเป้าส่งออกข้าวปีนี้ที่ 9 ล้านตัน เป็นข้าวใหม่ 7 ล้านตัน และข้าวเก่า 2 ล้านตัน"

[caption id="attachment_27041" align="aligncenter" width="500"] อภิรดี ตันตราภรณ์ อภิรดี ตันตราภรณ์[/caption]

ด้านนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าการเดินทางไปฟิลิปปินส์ในครั้งนี้เพื่อต้องการไปเปิดตัวสินค้าข้าวของไทยให้ผู้บริโภคฟิลิปปินส์ ได้รู้จักข้าวของไทย รวมทั้งเพื่อเปิดโอกาสในการทำตลาดข้าวไทยในฟิลิปปินส์อีกด้วย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้นำเข้าข้าวของไทย และในการประมูลข้าวของฟิลิปปินส์ในปี 2559 ไทยก็พร้อมจะเข้าร่วมประมูลและก็คาดหวังว่าจะประมูลข้าวของฟิลิปปินส์ได้ เพราะปกติไทยมีการส่งออกข้าวไปฟิลิปปินส์ โดยในปี 2558 ส่งออกได้ประมาณ 7 แสนตัน มูลค่าประมาณ 261 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยข้าวที่ส่งออกเป็นข้าวขาว ข้าวเหนียว เป็นส่วนใหญ่และมีข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้องบ้าง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,123 วันที่ 17 - 20 มกราคม พ.ศ. 2559