บจ.กำไรเฉียดล้านล้าน ราคานํ้ามันดันกลุ่มพลังงานผลงานดี

11 มี.ค. 2561 | 05:14 น.
บจ.มีผลการดำเนินงานปี 2560 กำไรสุทธิ 9.9 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.90% จากปีก่อน ผลจากการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย(GDP) และราคานํ้ามันโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น หมวดพลังงานและสาธารณูปโภคมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใน SET จำนวน 566 บริษัท หรือคิดเป็น 97.75% จากทั้งหมด 579 บริษัท (รวมกองทุนอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือ NC และบริษัทที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด หรือ NPG)

[caption id="attachment_266232" align="aligncenter" width="374"] เกศรา มัญชุศรี เกศรา มัญชุศรี[/caption]

บจ.นำส่งผลการดำเนินงานงวดปี 2560 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 บจ. มีผลประกอบการสูงขึ้นทั้งยอดขายและกำไรสุทธิ โดยมียอดขายรวม 11.01 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาคิดเป็น 9.72% และมีกำไรสุทธิรวม 9.82 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.05% ซึ่งเป็นผลจากการดำเนินงานในหมวดพลังงานและสาธารณูปโภคที่ได้รับผลดีจากราคานํ้ามันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่กำไรสุทธิของหมวดธนาคารปรับตัวลดลงเล็กน้อยเนื่องมาจากการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น ด้านผลการดำเนินงานของ บจ. ใน mai กำไรสุทธิ 4.97 พันล้านบาท ทำให้ในงวดปี 2560 กำไรสุทธิรวมของ บจ. SET และ mai ทั้งสิ้น 9.9 แสนล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2560 จากภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ บจ. มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นทั้งด้านยอดขายและกำไร โดย บจ. มีกำไรสุทธิ 2.51 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.26% จากไตรมาส 4/2559 และเพิ่มขึ้น 20.47% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2560 ขณะที่ยอดขายไตรมาส 4/2560 อยู่ที่ 2.9 ล้านล้านบาท

ความสามารถด้านการทำกำไรของ บจ. อ่อนตัวเล็กน้อย โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น 23.96% ลดลงจาก 24.71% ในปี 2559 และมีอัตรากำไรสุทธิ 8.92% ลดลงเล็กน้อยจาก 8.98% ขณะที่โครงสร้างเงินทุนของ บจ. ยังคงแข็งแกร่ง โดยอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) ณ สิ้นปี 2560 อยู่ที่ 1.14 เท่า ลดลงจาก 1.24 เท่า ในช่วงสิ้นปี 2559

แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์ “ในปี 2560 นอกจาก บจ. ในหมวดพลังงานและสาธารณูปโภคที่มีผลประกอบการดีขึ้นแล้ว เศรษฐกิจไทยที่เติบโตอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง โดยทั้งปี 2560 คาดว่าจะขยายตัวที่ 4.0% จากการส่งออกสินค้าและบริการ ขณะที่รายได้จากภาคการท่องเที่ยวเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลบวกต่อการดำเนินธุรกิจของ บจ. ให้มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ หมวดธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ หมวดพาณิชย์ หมวดการท่องเที่ยวและสันทนาการ และหมวดขนส่งและโลจิสติกส์ มีการเติบโตทั้งด้านยอดขายและกำไรสุทธิ รวมถึงมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นจากปี 2559”

“ผลการดำเนินงานของ บจ. ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในปี 2560 บจ. mai มีกำไรสุทธิ 4.97 พันล้านบาท ลดลง 13.54% เมื่อเทียบกับปี 2559 ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 24.80% เป็น 23.20%” นางเกศรากล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,346 วันที่ 8 - 10 มีนาคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว