ตลาดหุ้นไทยเช้านี้อ่อนตัวลง ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค
นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้อ่อนตัวลง ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคเช้านี้ที่เปิดปรับตัวลดลง จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความผันผวนทางการเมืองในสหรัฐ ขณะที่ความผันผวนของหุ้นในกลุ่มพลังงานน่าจะลดลง หลังจากที่ตลาดซึมซับประเด็นการขึ้นเครื่องหมาย XD ของหุ้น PTT ,คำพิพากษาคดีหงสา ของ BANPU ,แรงขายของหุ้นในกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าที่มีออกมามากเมื่อวานนี้ ทำให้ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุนตลาดในช่วงนี้
อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามการพิจารณาร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้งภายในประเทศที่รัฐบาลกำหนดให้มีขึ้นภายในเดือน ก.พ.62 โดยมองแนวรับบริเวณ 1,792-1,787 และแนวต้านที่ 1,810-1,815 จุด
สำหรับหุ้น BANPU หลังคำพิพากษาศาลฎีกากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ BANPU ชดใช้ค่าเสียหาย 1.5 พันล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี นับตั้งแต่วันฟ้องเมื่อ ก.ค.50 ให้กลุ่มนายศิวะ งานทวี เหตุละเมิดการใช้ข้อมูลที่มีมูลค่าทางลิขสิทธิ์ที่เป็นความลับทางธุรกิจของกลุ่มงานทวี
ถือเป็นคำตัดสินที่เป็นผลดีต่อ BANPU เมื่อเทียบกับคำฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกลุ่มงานทวีกว่า 6 หมื่นล้านบาท และคำตัดสินของศาลชั้นต้นที่ตัดสินให้กลุ่มบ้านปูต้องชดใช้ความเสียหายถึงกว่า 3 หมื่นล้านบาท
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มีมุมมองเป็นบวกต่อคำตัดสินเนื่องจากมูลค่าความเสียหายไม่ได้มากอย่างที่ตลาดกังวลกัน อีกทั้งในระยะยาวจะเป็นบวก เนื่องจากเป็นการปลดล็อกควมมกังวลในคดีาจทำให้ราคาหุ้น BANPU กลับไปสนใจ โดยประเมินกำไรสุทธิหลังหักมูลค่าที่ต้องจ่ายปี 2561 ที่ 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท โต ขึ้น 2-8% จึงให้ราคาเหมาะสมตที่ 32 บาท แนะ นำ“ซื้อ”
บล.ฟินันเซียไซรัส ระบุเป็นข่าวบวกต่อ BANPU ที่ตลาดคาดไปแล้วว่าจะจ่าย 3 หมื่นกว่าล้าน หรือ 6 บาทต่อหุ้น จึงแนะนำให้ซื้อในราคาเป้าหมาย 26 บาท หรือจะเก็งกำไรงบก็ได้ เพราะราคาถ่านหินสูงขึ้น
บล.เอเซียพลัส ได้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2561 ลง ภายใต้สมมติฐานค่าชดใช้ที่ BANPU, BPP และ Banpu international จะร่วมรับผิดชอบในจำนวนเท่าๆกัน 1.5 พันล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% นับตั้งแต่วันที่ฟ้องร้องเดือน ก.ค. 2550 เป็นเวลา 10 ปี 9 เดือนคิดเป็นมูลค่าในส่วนของ BANPU ที่ราว 2.5 พันล้านบาท จะถูกบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายพิเศษครั้งเดียวภายในปี 61 เนื่องจากก่อนหน้านี้ BANPU ไม่ได้ตั้งสำรอง ส่งผลให้ประมาณการกำไรปี 2661 ลดลง 25.1% จากเดิมมาอยู่ที่ 7.4 พันล้านบาท จึงให้มูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 61 ของ BANPU อยู่ที่ 25.6 บาทต่อหุ้น ลดลงจากเดิม ที่ให้ราคา 26 บาท
อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามการพิจารณาร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้งภายในประเทศที่รัฐบาลกำหนดให้มีขึ้นภายในเดือน ก.พ.62 โดยมองแนวรับบริเวณ 1,792-1,787 และแนวต้านที่ 1,810-1,815 จุด
สำหรับหุ้น BANPU หลังคำพิพากษาศาลฎีกากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ BANPU ชดใช้ค่าเสียหาย 1.5 พันล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี นับตั้งแต่วันฟ้องเมื่อ ก.ค.50 ให้กลุ่มนายศิวะ งานทวี เหตุละเมิดการใช้ข้อมูลที่มีมูลค่าทางลิขสิทธิ์ที่เป็นความลับทางธุรกิจของกลุ่มงานทวี
ถือเป็นคำตัดสินที่เป็นผลดีต่อ BANPU เมื่อเทียบกับคำฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกลุ่มงานทวีกว่า 6 หมื่นล้านบาท และคำตัดสินของศาลชั้นต้นที่ตัดสินให้กลุ่มบ้านปูต้องชดใช้ความเสียหายถึงกว่า 3 หมื่นล้านบาท
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มีมุมมองเป็นบวกต่อคำตัดสินเนื่องจากมูลค่าความเสียหายไม่ได้มากอย่างที่ตลาดกังวลกัน อีกทั้งในระยะยาวจะเป็นบวก เนื่องจากเป็นการปลดล็อกควมมกังวลในคดีาจทำให้ราคาหุ้น BANPU กลับไปสนใจ โดยประเมินกำไรสุทธิหลังหักมูลค่าที่ต้องจ่ายปี 2561 ที่ 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท โต ขึ้น 2-8% จึงให้ราคาเหมาะสมตที่ 32 บาท แนะ นำ“ซื้อ”
บล.ฟินันเซียไซรัส ระบุเป็นข่าวบวกต่อ BANPU ที่ตลาดคาดไปแล้วว่าจะจ่าย 3 หมื่นกว่าล้าน หรือ 6 บาทต่อหุ้น จึงแนะนำให้ซื้อในราคาเป้าหมาย 26 บาท หรือจะเก็งกำไรงบก็ได้ เพราะราคาถ่านหินสูงขึ้น
บล.เอเซียพลัส ได้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2561 ลง ภายใต้สมมติฐานค่าชดใช้ที่ BANPU, BPP และ Banpu international จะร่วมรับผิดชอบในจำนวนเท่าๆกัน 1.5 พันล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% นับตั้งแต่วันที่ฟ้องร้องเดือน ก.ค. 2550 เป็นเวลา 10 ปี 9 เดือนคิดเป็นมูลค่าในส่วนของ BANPU ที่ราว 2.5 พันล้านบาท จะถูกบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายพิเศษครั้งเดียวภายในปี 61 เนื่องจากก่อนหน้านี้ BANPU ไม่ได้ตั้งสำรอง ส่งผลให้ประมาณการกำไรปี 2661 ลดลง 25.1% จากเดิมมาอยู่ที่ 7.4 พันล้านบาท จึงให้มูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 61 ของ BANPU อยู่ที่ 25.6 บาทต่อหุ้น ลดลงจากเดิม ที่ให้ราคา 26 บาท
