น้ำอัดลม5หมื่นล้านระอุ ‘โค้ก-เป๊ปซี่-เอส’เทงบพันล้านชิงแชร์หน้าร้อน

08 มี.ค. 2561 | 06:10 น.
สงครามนํ้าอัดลม 5 หมื่นล้านระอุรับร้อน “โค้ก-เป๊ปซี่-เอส” สาดงบเกือบ 1,000 ล้านอัดแคมเปญชิงยอดขาย สร้างสีสันปลุกตลาดคึกคัก

เพราะช่วงหน้าร้อนหรือซัมเมอร์เป็นเวลาแห่งการกอบโกยยอดขายในตลาดเครื่องดื่มนํ้าอัดลม ระยะเวลาแค่ 3-4 เดือน แต่สามารถทำยอดขายได้ในสัดส่วน 40% ของยอดขายทั้งปี จึงไม่แปลกอะไรหากจะเห็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ต่างเทใจ อัดงบก้อนโต เพื่อฉุด ดึง รั้ง แย่งยอดขายให้มาอยู่กับตัว ในปีนี้ก็เช่นกัน ยิ่งสภาพอากาศที่คาดการณ์ว่าจะร้อนจัด และยาวนานกว่าทุกปี กลายเป็นโอกาสทองที่จะเพิ่มตัวเลขเม็ดเงินรายได้ที่มากขึ้น สงครามการตลาดซัมเมอร์ของ 3 ยักษ์อย่าง “โค้ก-เป๊ปซี่-เอส” จึงปะทุขึ้น

MP36-3345-A นางเจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัท ไทยดริ๊งค์ จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ทิศทางธุรกิจเครื่องดื่มนํ้า อัดลมในช่วงหน้าร้อนปีนี้ คาดว่าจะกลับมาเติบโตขึ้นอีกครั้ง โดยเป็นปัจจัยในเรื่องการทำตลาดของแบรนด์ต่างๆ รวมถึงการจัดโปรโมชันส่งเสริมการขาย และหากปีนี้อากาศร้อนก็จะช่วยผลักดันให้ภาพรวมตลาดเติบโตไม่ติดลบ จากปีที่ผ่านมาตลาดนํ้าอัดลมติดลบ 4% โดยมีมูลค่าตลาดประมาณ 5 หมื่นล้านบาท แม้ว่าไตรมาสสุดท้ายการเริ่มส่งสัญญาการฟื้นตัวดีขึ้น แต่ยังคงติดลบในอัตรา 1% และหากสถานการณ์ของปีนี้ไม่ดีด้วยปัจจัยต่างๆ อาจจะติดลบในอัตรา 2%

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในปีที่ผ่านมาตลาดจะติดลบ แต่แบรนด์เอส มีอัตราการเติบโตสวนทางกับภาพรวมตลาดที่เติบโตในอัตรา 2.8% เป็นผลจากการทำตลาด ทั้งการทำแคมเปญในช่วงหน้าร้อน และการใช้นวัตกรรมมาพัฒนาสินค้า ทำให้แบรนด์เอสมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 10.5% จากที่ผ่านมาอยู่ที่ 9.8% โดยแนวทางการทำตลาดในปีนี้ ได้เตรียมงบการตลาดไว้ประมาณ 500 ล้านบาท เฉพาะในช่วงฤดูร้อนได้ใช้งบประมาณ 250 ล้านบาท จัดแคมเปญ “เอส โคล่า ซ่าซี้ดสุดขั้ว ม่วนอีหลี กับ GOT7” การพัฒนานวัตกรรมสินค้า ภายใต้แบรนด์เอสเพลย์ ที่ออกรสชาติใหม่ในคอนเซ็ปต์บิงซูดื่มได้ หลังจากเปิดตัวเอสเพลย์ เมลอน บิงซู และ เอสเพลย์ แมงโก้ บิงซู ที่สามารถเติบโตถึง 70% และการจัดแคมเปญโปรโมรชัน เอสซ่าซี้ดเลือกได้

นอกจากนี้เพื่อผลักดันยอดขายในช่องทางเทรดิชันนัลเทรด บริษัทเตรียมออกเอส ขนาด 390 มล. ราคา 10 บาทออกวางจำหน่าย พร้อมจัดกิจกรรมเพิ่มปริมาณการซื้อให้มากขึ้นเพื่อรองรับการบริโภคที่สูงขึ้นในช่วงหน้าร้อน โดยมีทั้งกลยุทธ์ด้านราคา และใช้ irresistible Premium เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย การเพิ่มการกระจายสินค้าให้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสการทดลองดื่ม โดยเฉพาะเอสเพลย์ที่ค่อนข้างเติบโตดี การจัดเอ็กซ์คลูซีฟโปรโมชันในลูกค้าแต่ละราย การจัดรายการสะสมแต้ม และมีการจัดดิสเพลย์พิเศษ เน้นการจัดสินค้าที่สวยงามและโดดเด่นเพื่อสร้างสีสันและง่ายต่อการเลือกซื้อ โดยเพิ่มพื้นที่การสต๊อกสินค้าในร้านให้มากขึ้น การเพิ่มผลตอบแทนจากการจำหน่าย (sales incentive) เพื่อเป้าหมายเฉพาะช่วงหน้าร้อนนี้เท่านั้น และสร้างการรับรู้กิจกรรมทางการตลาดผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ ณ จุดขาย โดยขยายไปในพื้นที่ต่างจังหวัดให้มากขึ้น

แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์-2 ส่วนแคมเปญเอส ที่ออกมาสร้างสีสันให้วัยทีน กลุ่มเป้าหมายหลักได้กรี๊ดสุดๆ เห็นจะหนีไม่พ้น “เอส โคล่า ซ่าซี้ดสุดขั้ว ม่วนอีหลี กับ GOT7” ที่นำไอดอลเกาหลี GOT7 บอยแบนด์ฮอต มาเปลี่ยนลุค พร้อมกับจัดแคมเปญโปรโมชัน “เอส ซ่าซี้ดเลือกได้” กับการลุ้นชิงรางวัลที่ให้คุณเลือกได้ว่าต้องการอะไร จะเลือกฟินกับคอนเสิร์ต GOT7 World Tour ที่นิวยอร์ก หรือจะเลือกเป็นเจ้าของรถยนต์โตโยต้ายาริส จักรยานยนต์ยามาฮ่า หรือจะรับสมุดภาพสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ของ 7 หนุ่ม GOT7 รวมทั้งยังมีเอส ลิมิเต็ดเอดิชั่น 42 ลาย ของ GOT7 ในทุกๆ ขนาดบรรจุภัณฑ์ที่วางขายเฉพาะซัมเมอร์นี้ให้เลือกสะสม และอวดเพื่อนๆ กัน

ขณะที่กลุ่มเป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง ที่ทำหน้าที่ดูแลด้านการตลาดของเป๊ปซี่ ในเมืองไทย ก็ประกาศทุ่มงบการตลาด 300 ล้านบาท เปิดตัวโกลบัลแคมเปญในเมืองไทย พร้อมกับทั่วโลก เพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ และร่วมฉลองครบรอบ 120 ปี ในแคมเปญ “เป๊ปซี่ ซ่าทุกยุค ... ไม่มีเปลี่ยน” ถือเป็นสีสัน ที่แฟนคลับชาวไทย ได้ตื่นตาตื่นใจ

โดยนายสมชัย เกตุชัยโกศล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า แคมเปญนี้เปิดตัวในหน้าร้อนเมืองไทย และพร้อมกับ 55 ประเทศทั่วโลก โดยชู 4 กลยุทธ์ หรือ 4C ได้แก่ การสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร (Comprehensive Communication) โดยไฮไลต์จะเป็นภาพยนตร์โฆษณาชุดล่าสุด“This is the Pepsi” ที่รวมศิลปินแนวหน้าระดับโลกมาไว้ใน TVC ชุดนี้ รวมไปถึงสื่ออื่นๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ การนำเสนอแพ็กเกจจิ้งรุ่นพิเศษ (Commemorative Packaging) กับเป๊ปซี่ ลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่ร่วมย้อนวันวานกับ 4 ลวดลาย 4 ยุค ได้แก่ ยุค 1940, ยุค 1950, ยุค 1980 และยุค 2000 ทั้งแบบขวดพีอีทีและกระป๋อง, การร่วมมือกับแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำในประเทศ (Collaboration with Local Brand) นำเสนอคอลเลกชันพิเศษ PEPSI X GREYHOUND รองรับทุกไลฟ์สไตล์ และการสร้างประสบการณ์ร่วมกับผู้บริโภค (Connected Consumer Experience) กับ PEPSI GENERATIONS CLUB คลับสไตล์เรโทรในรูปแบบป๊อบ-อัพ

ด้านแบรนด์เบอร์ 1 อย่าง “โค้ก” ที่ปีนี้ฉีกแนวทางการทำตลาด โดยหันมาเน้นการสร้างกระแสด้านการท่องเที่ยวในเมืองไทย โดยหยิบเอาไลฟ์สไตล์คนไทยที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวมาเป็นกิมมิกในการทำตลาด กับแคมเปญ “ฮูลาฮูล่ากับโค้กหน้าร้อนนี้” ด้วยการเปิดตัวฉลากใหม่พิเศษบนกระป๋องและขวดโค้ก PET ที่นำชื่อและไอคอนสัญลักษณ์ของเมืองท่องเที่ยวมาตกแต่งจำนวน 24 ลาย พร้อมให้นักดื่มได้ลุ้นเที่ยวฟรี 60 ทริปสู่จุดหมายปลายทางในฝันในประเทศไทย 21 แห่ง กับโค้กรุ่นพิเศษฝาสีเหลืองด้วย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,345 วันที่ 4 - 7 มีนาคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว