‘แอร์’สาดศึกซัมเมอร์ แบรนด์ดังเร่งเกมบุกดันตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าโต 2 แสนล้าน
จับกระแสตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า 2 แสนล้านบาทไตรมาส 1 แบรนด์ดังพาเหรดกระตุ้นตลาด ยก “แอร์” ฮีโร่ ดันยอดขายเติบโต “แอลจี-แคเรียร์-ไดกิ้น” เปิดเกมบุก จัดเต็มทั้งนวัตกรรม โปรโมชันลด แลก แจก แถม ชิงตลาดที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์
ตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าเมืองไทยกว่า 2 แสนล้านบาท ติดลบ 10% โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ ที่นอกจากจะประสบกับปัญหาด้านเศรษฐกิจแล้ว ยังมีเรื่องของสภาพอากาศที่ส่งผลต่อการขายค่อนข้างมาก แต่ทว่าด้วยปัจจัยบวกทั้งสภาพเศรษฐกิจ กำลังซื้อ รวมไปถึงสภาพอากาศที่คาดการณ์ว่าจะร้อนจัดและร้อนนานในปีนี้ที่เป็นสัญญาณที่ดีในการผลักดันให้ตลาดดีดตัวกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง โดยเฉพาะตลาดเครื่องปรับอากาศที่น่าจะมีการเติบโตสูงถึง 20% จึงไม่แปลกที่ได้เห็นหลายแบรนด์จะเปิดศึกชิงยอดขายช่วงซัมเมอร์นี้
[caption id="attachment_32358" align="aligncenter" width="333"]
นายนิพนธ์ วงศ์แสงอรุณศรี
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด[/caption]
นายนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า “แอลจี” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กลุ่มสินค้ายอดนิยมในช่วงไตรมาส 1 นี้ ประกอบไปด้วย 2 กลุ่มสินค้า ได้แก่ กลุ่มเครื่องซักผ้าที่มักจะได้รับความนิยมในช่วงเดือน มกราคม-กุมภาพันธ์ โดยพบว่ามีการเติบโต 10% อีกกลุ่มได้แก่ กลุ่มเครื่องปรับอากาศและตู้เย็น ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหน้าร้อน
“ปัจจัยที่ผลักดันให้เครื่องใช้ไฟฟ้าในตลาดเติบโตคงหนีไม่พ้นเรื่องสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อ แต่ในส่วนของกลุ่มสินค้าทำความเย็นจะมีเรื่องของสภาพอากาศเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งในปีนี้คงยังไม่สามารถประเมินการเติบโตได้ แต่หากสภาพอากาศปีนี้มีการร้อนนาน และร้อนจัดเชื่อว่าตลาดเครื่องปรับอากาศเติบโตได้ถึง 20%”
ขณะที่แอลจีได้เปิดตัวสินค้าใหม่ทั้งเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และเครื่องซักผ้าออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเตรียมจัดแคมเปญรับหน้าร้อนนี้ เบื้องต้นอยู่ระหว่างจัดเตรียมแผนงาน โดยอาจจะมีโปรโมชันลด แลก แจก แถม และผ่อน 0% นาน 24 เดือน อย่างไรก็ตามตั้งเป้าการเติบโตสำหรับเครื่องปรับอากาศช่วงหน้าร้อนนี้ไว้ที่ 20% เครื่องซักผ้า 10% และตู้เย็นกว่า 50% เนื่องจากสัดส่วนยอดขายตู้เย็นของบริษัทยังมีฐานที่เล็กอยู่จึงสามารถทำได้อีก มากโดยจะเพิ่มไลน์อัพตู้เย็นเป็น 10 ขนาด จากอดีตที่มี 5 ขนาดในการรุกตลาดเท่านั้น
[caption id="attachment_229942" align="aligncenter" width="335"]
สินเมธ อิ่มเอม ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย บริษัท แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด[/caption]
ด้านนายสินเมธ อิ่มเอม ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย บริษัท แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ “แคเรียร์” จากสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าตลาดเครื่องปรับอากาศปีที่ผ่านมาไม่เติบโตเท่าที่ควร เนื่องจากอากาศร้อนเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ คือกลางเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน เท่านั้น จากบางปีที่ร้อนยาวจนถึง มิถุนายนทำให้ผู้บริโภคไม่สนใจซื้อเครื่องปรับอากาศในช่วงหน้าขายเท่าที่ควร ขณะที่ปีนี้มองว่าจากสภาพอากาศที่หลายฝ่ายคาดว่าจะร้อนจัดและร้อนนาน ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว โครงการอสัง- หาริมทรัพย์ขนาดใหญ่เริ่มทยอยติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่ออำนวยความสะดวก สบาย โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศทำให้มองว่าในไตรมาส 1 นี้กลุ่มสินค้าเครื่องปรับอากาศถือเป็นกลุ่มสินค้าที่มาแรงที่สุด
“ซีกโลกใต้อย่างออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ มีอากาศที่ร้อนกว่าปีก่อนมาก ซึ่งจากสภาพการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้ประเทศไทยได้รับอานิสงส์เรื่องอากาศที่ร้อนจัดและร้อนนานตามไปด้วย ดังนั้นจึงเชื่อว่าปีนี้ตลาดเครื่องปรับอากาศช่วงซัมเมอร์จะมีการแข่งขันรุนแรงเป็นพิเศษ”
สำหรับแผนงานของแคเรียร์นั้นเริ่มทยอยเข้าไปทำตลาดในกลุ่มลูกค้าโครงการทั้งภาครัฐ 30% และเอกชน 70% เนื่อง จากการเติบโตของภาคอสังหา ริมทรัพย์ โดยมีการเติบโตตั้งแต่ต้นปีจากยอดขายโปรเจ็กต์เพิ่มขึ้น 20% ขณะ ที่ภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศช่วงหน้าร้อนคาดว่าน่าจะเติบโตที่ 15% และภาพรวมตลาดทั้งปีเติบโต 10% โดยในส่วนของแคเรียร์จะเติบโต 20%
เพื่อต้อนรับช่วงหน้าร้อนที่จะมาถึง “ไดกิ้น” เครื่องปรับอากาศสำหรับที่พักอาศัย อาทิ เครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง รุ่น Super Smart, เครื่องปรับอากาศติดผนัง รุ่น Sabai Inverter เป็นแอร์ไลน์อัพใหม่ที่ประหยัดพลังงานด้วยระบบอินเวอร์เตอร์ในราคาประหยัด, เครื่องปรับอากาศแบบติดเพดาน ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทยกับการใช้สารทำความเย็น R32 ใน Sky Air Inverter เต็มรูปแบบ, เครื่องปรับอากาศแบบแขวนใต้ฝ้า Non-inverter ประหยัดไฟเบอร์ 5 เต็มไลน์อัพ เน้นประหยัดพลังงาน และให้ความเย็นเร็วเต็มบีทียู เพื่อมุ่งขยายฐานตลาดไปสู่กลุ่มงานราชการให้มากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีเครื่องฟอกอากาศที่มาพร้อมกันถึง 3 แบบ 3 รุ่นใหม่ ที่สามารถฟอกอากาศได้ทั้งภายในและภายนอกเครื่อง ครอบคลุมทุกขนาดห้อง ตั้งแต่ 20-41 ตร.ม. ที่จะมาเติมเต็มความต้องการด้านระบบปรับอากาศ และฟอกอากาศอย่างครบครัน
โดยนายสมพร จันกรีนภาวงศ์ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ “ไดกิ้น” กล่าวว่า ปัจจัยบวกต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มการลงทุนขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงภาคอุตสาหกรรมและโครงการอสังหาริมทรัพย์ยังคงเติบโตได้ดีโดยเฉพาะตลาดทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวที่เติบโตขึ้นมาก จึงมองว่าจะเกิดผลดีต่อตลาดเครื่องปรับอากาศโดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนนี้ที่ถือเป็นช่วงไฮซีซัน
“สิ่งที่หวัง คือยอดขาย ที่เติบโตขึ้นกว่า 10% ทำให้ไดกิ้น รักษาความเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดเครื่องปรับอากาศในประเทศด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 28%”
อย่างไรก็ตาม ยอดขายที่เติบโตต่อเนื่องสะท้อนให้เห็นว่าตลาดเครื่องปรับอากาศสำหรับที่พักอาศัยและเชิงพาณิชย์ในเมืองไทย ทำให้ตลาดเครื่องปรับอากาศยังคงเป็น “ฮีโร่” ที่จะขับ เคลื่อนให้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมืองไทยเติบโตในไตรมาส 1 นี้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,344 วันที่ 1 - 3 มีนาคม พ.ศ. 2561
ตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าเมืองไทยกว่า 2 แสนล้านบาท ติดลบ 10% โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ ที่นอกจากจะประสบกับปัญหาด้านเศรษฐกิจแล้ว ยังมีเรื่องของสภาพอากาศที่ส่งผลต่อการขายค่อนข้างมาก แต่ทว่าด้วยปัจจัยบวกทั้งสภาพเศรษฐกิจ กำลังซื้อ รวมไปถึงสภาพอากาศที่คาดการณ์ว่าจะร้อนจัดและร้อนนานในปีนี้ที่เป็นสัญญาณที่ดีในการผลักดันให้ตลาดดีดตัวกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง โดยเฉพาะตลาดเครื่องปรับอากาศที่น่าจะมีการเติบโตสูงถึง 20% จึงไม่แปลกที่ได้เห็นหลายแบรนด์จะเปิดศึกชิงยอดขายช่วงซัมเมอร์นี้
[caption id="attachment_32358" align="aligncenter" width="333"]
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด[/caption]
นายนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า “แอลจี” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กลุ่มสินค้ายอดนิยมในช่วงไตรมาส 1 นี้ ประกอบไปด้วย 2 กลุ่มสินค้า ได้แก่ กลุ่มเครื่องซักผ้าที่มักจะได้รับความนิยมในช่วงเดือน มกราคม-กุมภาพันธ์ โดยพบว่ามีการเติบโต 10% อีกกลุ่มได้แก่ กลุ่มเครื่องปรับอากาศและตู้เย็น ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหน้าร้อน
“ปัจจัยที่ผลักดันให้เครื่องใช้ไฟฟ้าในตลาดเติบโตคงหนีไม่พ้นเรื่องสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อ แต่ในส่วนของกลุ่มสินค้าทำความเย็นจะมีเรื่องของสภาพอากาศเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งในปีนี้คงยังไม่สามารถประเมินการเติบโตได้ แต่หากสภาพอากาศปีนี้มีการร้อนนาน และร้อนจัดเชื่อว่าตลาดเครื่องปรับอากาศเติบโตได้ถึง 20%”
ขณะที่แอลจีได้เปิดตัวสินค้าใหม่ทั้งเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และเครื่องซักผ้าออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเตรียมจัดแคมเปญรับหน้าร้อนนี้ เบื้องต้นอยู่ระหว่างจัดเตรียมแผนงาน โดยอาจจะมีโปรโมชันลด แลก แจก แถม และผ่อน 0% นาน 24 เดือน อย่างไรก็ตามตั้งเป้าการเติบโตสำหรับเครื่องปรับอากาศช่วงหน้าร้อนนี้ไว้ที่ 20% เครื่องซักผ้า 10% และตู้เย็นกว่า 50% เนื่องจากสัดส่วนยอดขายตู้เย็นของบริษัทยังมีฐานที่เล็กอยู่จึงสามารถทำได้อีก มากโดยจะเพิ่มไลน์อัพตู้เย็นเป็น 10 ขนาด จากอดีตที่มี 5 ขนาดในการรุกตลาดเท่านั้น
[caption id="attachment_229942" align="aligncenter" width="335"]
ด้านนายสินเมธ อิ่มเอม ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย บริษัท แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ “แคเรียร์” จากสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าตลาดเครื่องปรับอากาศปีที่ผ่านมาไม่เติบโตเท่าที่ควร เนื่องจากอากาศร้อนเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ คือกลางเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน เท่านั้น จากบางปีที่ร้อนยาวจนถึง มิถุนายนทำให้ผู้บริโภคไม่สนใจซื้อเครื่องปรับอากาศในช่วงหน้าขายเท่าที่ควร ขณะที่ปีนี้มองว่าจากสภาพอากาศที่หลายฝ่ายคาดว่าจะร้อนจัดและร้อนนาน ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว โครงการอสัง- หาริมทรัพย์ขนาดใหญ่เริ่มทยอยติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่ออำนวยความสะดวก สบาย โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศทำให้มองว่าในไตรมาส 1 นี้กลุ่มสินค้าเครื่องปรับอากาศถือเป็นกลุ่มสินค้าที่มาแรงที่สุด
“ซีกโลกใต้อย่างออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ มีอากาศที่ร้อนกว่าปีก่อนมาก ซึ่งจากสภาพการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้ประเทศไทยได้รับอานิสงส์เรื่องอากาศที่ร้อนจัดและร้อนนานตามไปด้วย ดังนั้นจึงเชื่อว่าปีนี้ตลาดเครื่องปรับอากาศช่วงซัมเมอร์จะมีการแข่งขันรุนแรงเป็นพิเศษ”
เพื่อต้อนรับช่วงหน้าร้อนที่จะมาถึง “ไดกิ้น” เครื่องปรับอากาศสำหรับที่พักอาศัย อาทิ เครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง รุ่น Super Smart, เครื่องปรับอากาศติดผนัง รุ่น Sabai Inverter เป็นแอร์ไลน์อัพใหม่ที่ประหยัดพลังงานด้วยระบบอินเวอร์เตอร์ในราคาประหยัด, เครื่องปรับอากาศแบบติดเพดาน ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทยกับการใช้สารทำความเย็น R32 ใน Sky Air Inverter เต็มรูปแบบ, เครื่องปรับอากาศแบบแขวนใต้ฝ้า Non-inverter ประหยัดไฟเบอร์ 5 เต็มไลน์อัพ เน้นประหยัดพลังงาน และให้ความเย็นเร็วเต็มบีทียู เพื่อมุ่งขยายฐานตลาดไปสู่กลุ่มงานราชการให้มากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีเครื่องฟอกอากาศที่มาพร้อมกันถึง 3 แบบ 3 รุ่นใหม่ ที่สามารถฟอกอากาศได้ทั้งภายในและภายนอกเครื่อง ครอบคลุมทุกขนาดห้อง ตั้งแต่ 20-41 ตร.ม. ที่จะมาเติมเต็มความต้องการด้านระบบปรับอากาศ และฟอกอากาศอย่างครบครัน
โดยนายสมพร จันกรีนภาวงศ์ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ “ไดกิ้น” กล่าวว่า ปัจจัยบวกต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มการลงทุนขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงภาคอุตสาหกรรมและโครงการอสังหาริมทรัพย์ยังคงเติบโตได้ดีโดยเฉพาะตลาดทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวที่เติบโตขึ้นมาก จึงมองว่าจะเกิดผลดีต่อตลาดเครื่องปรับอากาศโดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนนี้ที่ถือเป็นช่วงไฮซีซัน
“สิ่งที่หวัง คือยอดขาย ที่เติบโตขึ้นกว่า 10% ทำให้ไดกิ้น รักษาความเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดเครื่องปรับอากาศในประเทศด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 28%”
อย่างไรก็ตาม ยอดขายที่เติบโตต่อเนื่องสะท้อนให้เห็นว่าตลาดเครื่องปรับอากาศสำหรับที่พักอาศัยและเชิงพาณิชย์ในเมืองไทย ทำให้ตลาดเครื่องปรับอากาศยังคงเป็น “ฮีโร่” ที่จะขับ เคลื่อนให้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมืองไทยเติบโตในไตรมาส 1 นี้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,344 วันที่ 1 - 3 มีนาคม พ.ศ. 2561
