‘ปั้น คำ หอม’ขยายแฟรนไชส์ต่อยอดขนมไทยสู่แบรนด์ดังพรีเมียม

27 ก.พ. 2561 | 23:00 น.
ในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการในธุรกิจขนมไทยหลายรายต่างยกระดับตัวเองขึ้นมาเพื่อให้ขนมไทยชนิดต่างๆถูกรังสรรค์ออกมาให้ถูกตาถูกใจผู้บริโภคมากขึ้นทั้งความหวาน ความอร่อย และหน้าตาขนมที่มีกิมมิกต่างๆออกมาสวยงามชวนน่ารับประทานมากขึ้น

แบรนด์ “ปั้น คำ หอม” เป็นอีกหนึ่งในแบรนด์ขนมไทยที่ผ่านการยอมรับจากนักชิมที่นิยมของหวาน จากธุรกิจเล็กๆ ถูกยกระดับขึ้นมาสู่รายได้ 7 หลักเติบโตต่อเนื่อง วิรัช จันทร์บูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปั้น คำ หอม เทรดดิ้ง จำกัด และ บริษัทวีอาร์พี ฟู้ด แอนด์ เบเกอรี่ จำกัด เจ้าของแบรนด์ “ปั้น คำ หอม” แบรนด์ขนมไทย เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ธุรกิจขนมไทยและเบเกอรี่ที่ทำ จะดึงเอาเอกลักษณ์ขนมไทยมาพัฒนารูปแบบ รสชาติ จนสามารถเข้าถึงตลาดบนได้สำเร็จ เสิร์ฟความอร่อยแบบไทยๆ ให้เหมาะสมกับยุคสมัยที่ผู้บริโภคไม่นิยมรับประทานหวานมาก พร้อมแตกไลน์ เบเกอรี่ ขนมปัง คุกกี้ เสริมรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

TP13-3343-2A วิรัชกล่าวว่าการเข้ามาสานต่อในเจเนอเรชันที่2 ในธุรกิจขนมไทย จุดเริ่มต้นมาจากคุณพ่อคุณแม่ของภรรยาที่มีประสบการณ์ในการทำขนมไทยมากว่า 50 ปี ผลัดใบถึงรุ่นลูกสานต่อ ตนในฐานลูกเขยจึงนำประสบการณ์จากที่เคยทำงานธนาคารมากว่า 10 ปี ดูแลด้านสินเชื่อ ก่อนจะย้ายไปทำงานให้กับบริษัทเอกชนในตำแหน่งผู้บริหาร ด้วยประสบการณ์ด้านการบริหารธุรกิจมาก่อน ทำให้มองเห็นโอกาสและความสำเร็จในธุรกิจขนมไทยและเบเกอรี่ ขนมไทยโบราณที่เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ “ปั้น คำ หอม” จะเป็นตะโก้เผือก, ขนมชั้นใบเตย, กระยาสารทกะทิสด นอกนั้นเป็นข้าวต้มมัด, ข้าวเหนียวมูน, ขนมใส่ไส้, ขนมหม้อแกง เป็นต้น

สำหรับช่องทางการจำหน่ายจากที่ใส่กระจาดหาบขายตามหมู่บ้าน จนเป็นที่ยอมรับมากขึ้น ปัจจุบัน เปิดขายอยู่ที่ตลาดสดท่าม่วง จ.กาญจนบุรี จากร้านเบเกอรี่ 20 ชนิด และมีช่องทางจำหน่ายมากขึ้น ขายผ่านโซเชียล Line ID : @PANKHAMHOM, FACEBOOK : ปั้นคำหอมขนมไทยและเบเกอรี่ มีสินค้ากว่า 200 ชนิด รวมทั้งขนมปังกว่า 100 ชนิด, เค้กนมสดและเค้กอื่นๆ อีกกว่า 50 ชนิด จุดเด่นของขนมไทย เริ่มจากที่มีความหลากหลาย ใช้วัตถุดิบพรีเมียม ใช้เนยอย่างดีในปริมาณที่มากจนได้สัดส่วน รวมถึงรักษาคุณภาพให้เป็นเนื้อเค้กที่นุ่มละมุนลิ้น มีส่วนผสมของเนย นม ไข่ กลมกล่อมเข้มข้นจนเป็นที่ติดใจกลุ่มเป้าหมาย

[caption id="attachment_262334" align="aligncenter" width="503"]  วิรัช จันทร์บูรณ์ วิรัช จันทร์บูรณ์[/caption]

++เดินหน้า3ส่วนเพิ่มยอดขาย
ส่วนแผนธุรกิจปี 2561 มีเป้าหมาย 3 ส่วนหลัก ไล่ตั้งแต่ 1.ขยายแฟรนไชส์ที่มีอยู่แล้ว 10 สาขา และขยายสาขาของตัวเองที่มีอยู่แล้ว 12 สาขา รวมเป็น 22 สาขา โดยปีนี้จะเปิดสาขารวมเพิ่มขึ้นอีก 10 สาขา ทุกปีตั้งเป้าว่าจะเปิดสาขาแฟรนไชส์ในสัดส่วน 30% ของการเปิดสาขาทั้งหมด โดยปัจจุบันสาขาต่างๆ ใน 2 รูปแบบนั้น จะกระจายอยู่ในเขตกทม.และ กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม นนทบุรี เพชรบุรี ส่วนสาขาที่จะขยายมีทั้งอยู่ในจังหวัดเดิมและขยายไปในจังหวัดใหม่ๆที่ยังไม่เคยไปมาก ขึ้นประกอบด้วยฉะเชิงเทรา ชลบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร

2. ต่อยอดขนมไทยสู่แบรนด์ ดังระดับพรีเมียม คัดเลือกคนที่สนใจทำแฟรนไชส์จริงๆ และมีเวลาบริหารงานสาขา 3. รุกงานด้านการบริหารจัดการระบบงานภายในและงานด้านบุคลากรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์-5-503x69 ++สู่เบเกอรี่ คาเฟ่-โชว์ทำขนม
นอกจากนี้ยังมีแผนขยับธุรกิจไปสู่เบเกอรี่ คาเฟ่ โดยมีผลิตภัณฑ์ด้านเครื่องดื่ม และบิงซู (Bingsu) หรือนํ้าแข็งไสปั่นละเอียดราดด้วยท็อปปิ้งต่างๆ รวมถึงจัดรูปแบบร้าน โดยทำขนมสดๆ เช่น อบขนม ทำขนมมันคลุกมะพร้าว หรือทำบัวลอยให้เห็นวิธีทำและขั้นตอนการทำขนมชนิดต่างๆ โชว์ที่หน้าร้าน

วิรัช ยังกล่าวถึงแผนส่งออกในอนาคตว่า น่าจะเกิดขึ้นภายในปี 2562 หลังจากที่ผ่านการปรับปรุงการบริหารจัดการภายใน การพัฒนาบุคลากร โดยภายในปี 2561 จะขอ ISO 9000 ซึ่งเป็นมาตรฐานระบบการบริหารงานคุณภาพ เป็นมาตรฐานระบบการบริหารงานขององค์กร ซึ่งมุ่งเน้นด้านคุณภาพและขยายกำลังการผลิตให้มีมูลค่าขายเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ยอดขายเติบโตจาก 200 ล้านบาทในปี 2560 เพิ่มเป็น 350 ล้านบาทภายในปี 2561 โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นเกิดจากการขยายสาขาแฟรนไชส์และขยายสาขาของตัวเอง

สุดท้ายเขาบอกว่ากุญแจที่พาแบรนด์ “ปั้น คำ หอม” เดินสู่ความสำเร็จได้นั้น เกิดจากความมุ่งมั่นในสิ่งที่ชอบ และมีแรงขับเคลื่อนต่างๆ ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ รวมถึงมีความซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภคโดยผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ตอบสนองความต้องการของสินค้าที่หลากหลายได้ ที่สำคัญสินค้าต้องใหม่ และสะอาด

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,343 วันที่ 25 - 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว