ตลาดหุ้นไทยเหวี่ยงลงแรงตามหุ้นนอก กังวลเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด

05 ก.พ. 2561 | 03:17 น.
ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (5 กุมภาพันธ์ ) คาดว่าจะปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้าราว 1.7-2% ตามตลาดสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาดิ่งลงมากกว่า 2% ภายหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (Bond yield)ได้พุ่งขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง โดยผลตอบแทนพันธบัตรฯ อายุ 10 ปี ขึ้นมาแตะ 3.074% สูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี นับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรฯ อายุ 10 ปี แตะระดับ 2.83% สูงสุดในรอบ 4 ปี

ทั้งนี้ เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯเดือนมกราคา เพิ่มขึ้นถึง 2 แสนตำแหน่งสูงกว่าที่ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานต่ำสุดในรอบ 17 ปี อยู่ที่ 4.1% และค่าแรงต่อชั่วโมง เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ หรือ 0.3% ทำให้กังวลว่าเงินเฟ้อจะสูง และคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าคาด และอาจขึ้นมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้ รวมทั้งยังทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พุ่งขึ้นด้วย

ad-hoon-1 ดัชนีตลาดหุ้นไทยเปิดเช้านี้ ( 5 ก.พ. ) โดยเมื่อเวลา10.08 น. ดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ 1,805.52 จุด ลบ 21.83 จุดหรือเปลี่ยนแปลง ลบ 1.19%

บริษัทหลักทรัพย์ ( บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย ) คาดการ SET ระหว่างวันนี้อาจเหวี่ยงลงแรงราว -1.3% ถึง -2.5% (แรงกดดันเสริมจาก Block Trade และ Margin) โดยแนะสำหรับผู้ที่มีพอร์ตการลงทุนในหุ้น 100% อาจจำเป็นต้องลดหุ้น เพื่อถือครองเงินสดบางส่วน เพื่อรอการซื้อกลับในจังหวะที่เกิด Pasic Sell
ระยะกลางไม่ควรหลุด 1815 : ดัชนีแกว่ง Sideway Down ในช่วงเช้า จากนั้นในช่วงบ่ายปรับตัวลงแรง แม้ระยะยาวดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบ Uptrend Channel แต่ระยะกลางมองว่าดัชนียังแกว่ง Sideway ในกรอบ 1815-1840 ซึ่ง 1815 ถือเป็นแนวรับกรอบ Uptrend ระยะยาวด้วย จึงมองว่าดัชนีไม่ควรหลุดแนวรับดังกล่าว เนื่องจากหากหลุดจะเสียโมเมนตัมการแกว่งขึ้นในกรอบ Uptrend

หากหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1800 กลยุทธ์การลงทุน 1) ลงทุนระยะสั้น หาก Rebound ถึงแนวต้าน แนะนำขาย, ลงทุนระยะกลาง หากหลุด 1815 ทยอยลดพอร์ตการลงทุน 2) ไม่มีหุ้น: Trading ในกรอบ 1815-1838 แนวรับ : 1820 1815 แนวต้าน : 1832, 1838 โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6-15