บล.บัวหลวง ชี้ตลาดหุ้นยังคึกคัก คาดครึ่งปีแรกหุ้นไทยลุ้นแตะ 1,860 จุด

01 ก.พ. 2561 | 11:05 น.
บล.บัวหลวงคาดครึ่งปีแรกหุ้นไทยมีลุ้นแตะ 1,860 อาจมีปรับตัวลงบ้างแต่ไม่น่าหลุด 1,780 ปรับประมาณการณ์คาดค่าเงินบาท 32 บ./USD ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ 70 USD/บาร์เรล

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง มองว่าตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มที่เป็นขาขึ้น คาดว่าในครึ่งปีแรกดัชนีตลาดหลักทรัพย์มีโอกาสที่จะขึ้นไปถึงเป้าหมายที่บริษัทคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1,860 ค่า P/E 17 เท่า จากปัจจุบันดัชนีระดับ 1,830 มีค่า P/E 16.5 เท่า อาจจะมีการปรับตัวลงบ้างแต่ก็เชื่อว่าจะลงไปไม่ลึก อาจมีการทำกำไรลงมาบ้างสำหรับนักลงทุนระยะสั้น แต่ดัชนีไม่น่าจะลงไปต่ำกว่าระดับ 1,780 และ 1,760 สำหรับนักลงทุนระยะกลางสามารถถือหุ้นได้ไปจนถึงสิ้นปีนี้

ปัจจัยที่ผลักดันตลาดหุ้นในช่วงนี้คือสภาพคล่องในประเทศมีอยู่มากเพียงพอขับเคลื่อนให้ไปต่อได้ โดยไม่คาดหวังเงินลงทุนไหลเข้าจากต่างชาติ ดัชนีตลาดหุ้นเพิ่มขึ้นเพราะปัจจัยบวกหลายตัว เช่น กำไรของบริษัทจดทะเบียนที่เติบโตเพิ่มขึ้น การฟื้นตัวของการส่งออก และการท่องเที่ยว แต่ราคาหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้นยังกระจุกตัวในหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ใน SET50 ยังไม่ได้ขึ้นแบบกระจายไปทั้งตลาด หากแนวโน้มการใช้จ่ายภาครัฐ การบริโภคภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น ราคาสินค้าเกษตรดีขึ้น การขึ้นของราคาหุ้นจะกระจายไปในกลุ่มหุ้นบริษัทขนาดกลางและบริษัทขนาดเล็ก
บล.บัวหลวงคาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้คาดว่า GDP จะโต 3.9% ส่งออกจะขยายตัว 6%

728x90-03-3-503x62-3-503x62 สำหรับอัตราดอกเบี้ยน่าจะคงระดับไว้และคาดว่าในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะมีการปรับขึ้น ทั้งนี้ บล.บัวหลวง ได้ปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจบางตัวดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับเพิ่มเป็น 70 ดอลลาร์สหรัฐจากประมาณการเดิม 60-63 ดอลลาร์สหรัฐฯ, ค่าเงินบาทที่คาดว่าจะแข็งค่าขึ้น บล.บัวหลวงได้ปรับประมาณการอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯจาก 34 บ./USD เป็น 32 บ./USD จากการเกินดุลการค้าและอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำทำให้บาทแข็งค่าขึ้น จากต้นปีมาถึงปัจจุบันเงินบาทแข็งค่าขึ้น 3.6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ

บล.บัวหลวงมองว่า คาดว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะเริ่มทรงๆตัวเพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ดีขึ้น แต่ถ้าหากเงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่องจนถึงระดับ 30-31 บ./USD จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกอาจจะขยายตัวได้ไม่ถึง 6% หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท คือ กลุ่มผู้ส่งออก กลุ่มปิโตรเคมี กลุ่มพลังงาน กลุ่มชิพปิ้ง กลุ่มสายการบิน กลุ่มอิเล็กทรอนิคส์ สำหรับหุ้นที่ได้รับผลกระทบเชิงบวกจะเป็นกลุ่มผู้นำเข้า กระทบน้อยหรือไม่ได้รับผลกระทบจะเป็นหุ้นในประเทศกลุ่มพาณิชย์ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หุ้นเด่นที่น่าสนใจ MTLS, BEAUTY, RS, IVL, BANPU, SC, COM7 ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว