เครื่องใช้ไฟฟ้าแข่งดุ‘แอลจี-พานา-ซัมซุง’ ชิงตลาด5.2หมื่นล้าน

27 ม.ค. 2561 | 04:25 น.
ปัจจัยบวกดันตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ากว่า 5.2 หมื่นล้านแข่งดุ จับตา 3 ยักษ์ปูพรมยึดตลาดไทย “แอลจี” ทุ่มกว่า 300 ล้านบาทเจาะหนักฐานลูกค้า “พานาโซนิค” เปิดแผนศตวรรษที่ 2 แตกไลน์รุกรถยนต์ไฟฟ้า ฟาก “ซัมซุง” จัดเต็มทั้งตลาดตู้เย็น แอร์ เครื่องซักผ้า ยึดบัลลังก์แชมป์ต่อเนื่องปีที่ 10 หวังสร้างยอดโต 3 เท่า

แม้ปีที่ผ่านมาตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าเมืองไทยจะติดลบ 10% แต่ด้วยปัจจัยบวกทั้งสภาพเศรษฐกิจ กำลังซื้อ ในปีนี้ที่หลายฝ่ายต่างมองว่าน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีในการผลักดันให้ตลาดดีดตัวกลับมาเติบโตได้อีกครั้งที่ราว 10% จึงไม่แปลกที่ได้เห็นหลายแบรนด์ยักษ์ใหญ่จากทั้งญี่ปุ่น และเกาหลี ไม่ว่าจะเป็น แอลจี พานาโซนิค และซัมซุง เริ่มโหมโรงอัดแคมเปญ เปิดรุ่นใหม่ เพื่อชิงเค้กก้อนใหญ่ในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ามูลค่ากว่า 5.2 หมื่นล้านบาท

นายนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นโยบายของแอลจีนับจากนี้จะมุ่งพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตพร้อมตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายให้ดียิ่งขึ้น ล่าสุดได้เปิดตัวเครื่องปรับอากาศแอลจีซีรีส์ใหม่รุ่น IL, IDC, IK, IQ และ IV ออกมารุกตลาดในปีนี้ โดยมีจุดเด่นที่ดูอัล อินเวอร์เตอร์ ที่ประหยัดพลังงานได้มากขึ้นถึง 70% และให้ความเย็นเร็วขึ้นถึง 40% ยังมาพร้อม SmartThinQTM (ยกเว้นรุ่น IQ และ IV) ฟีเจอร์เฉพาะของแอลจีที่ช่วยให้ควบคุมการทำงาน นอกเหนือจากแค่การเปิด-ปิด ได้ทุกที่ ทุกเวลา แม้จะอยู่นอกบ้าน และยังสามารถช่วยวิเคราะห์ปัญหาในการใช้งานเบื้องต้น ประหยัดเวลาซ่อมได้เร็วขึ้น ผ่านโปรแกรม Smart Diagnosis และรับประกันแผงคอยล์ร้อน-เย็นนานถึง 3 ปี รวมถึงรับประกันคอมเพรสเซอร์ยาวนาน 10 ปี

ขณะที่แผนการรุกตลาดในปีนี้ได้เตรียมงบประมาณทางการตลาดกว่า 300 ล้านบาท (เฉพาะเครื่องปรับอากาศ) ในการสร้างสรรค์กิจกรรมทางการตลาดให้ครอบคลุมทุกช่องทาง ควบคู่กับการโปรโมชันกระตุ้นยอดขายทั้งผ่อนนาน และของแถม โดยมั่นใจว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ 30% หรือประมาณ 2 แสนยูนิตในปีนี้

MP36-3334-A ทั้งนี้ประเมินว่าภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศในช่วงหน้าร้อนปีนี้จะมีการเติบโตคึกคักมากกว่าปีที่ผ่านมาที่ตลาดติดลบ 10% โดยคาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตที่ 5-10% (ช่วงเดือนมี.ค.-พ.ค.) ซึ่งปัจจัยบวกมาจากสภาพเศรษฐกิจกำลังซื้อที่ฟื้นตัวกลับมา ทำให้ผู้ประกอบการแต่ละแบรนด์ต่างเร่งจัดกิจกรรมการตลาดกระตุ้นยอดขายอีกครั้ง ขณะที่สภาพอากาศที่น่าจะกลับมาร้อนยาวนานกว่าปีที่ผ่านมาก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกที่ส่งผลให้ตลาดกลับมาเติบโตได้ในปีนี้

“ยอดขายของเครื่องปรับอากาศที่มาจากหน้าร้อนมีสัดส่วนสูงถึง 50% จากสัดส่วนยอดขายตลอดทั้งปี ซึ่งแม้ปีที่ผ่านมาสภาพอากาศจะร้อนจัดแต่ว่าร้อนเพียงไม่กี่วันและฝนเริ่มตกตั้งแต่เดือนเมษายน ทำให้ตลาดเครื่องปรับอากาศไม่คึกคักเท่าที่ควร ขณะที่เรื่องของนวัตกรรมอินเวอร์เตอร์ถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่มาแรง ดังนั้นบริษัทจะเน้นสื่อสารความเป็นเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์ทุกรุ่นออกมารุกตลาดตั้งแต่ระดับแมสไปจนถึงพรีเมียม”

ด้านนายฮิโรยูกิ คิทาโนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พานาโซนิค เอ.พี.เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แผนงานในปีนี้จะเน้นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องผ่านสินค้าหลัก คือ เครื่องปรับอากาศที่มีระบบอินเวอร์เตอร์มากขึ้น โดยปีนี้ได้เปิดตัวเครื่องปรับอากาศใหม่รวมกว่า 28 รุ่น ล่าสุดเปิดตัวเครื่องปรับอากาศ Sky Series และAero Series มาพร้อมเทคโนโลยีนาโนอี ภายใต้คอนเซ็ปต์ Quality Air for Life อากาศบริสุทธิ์ ออกมารุกตลาดเมืองไทยโดยเฉพาะในตลาดพรีเมียมอีกด้วย

บาร์ไลน์ฐาน “มั่นใจว่าจากการเปิดตัวเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทางแบรนด์สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้พร้อมทั้งขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ โดยคาดการณ์ว่าจะมียอดขายเครื่องปรับอากาศได้ไม่ตํ่ากว่า 3 แสนเครื่อง หรือเติบโตขึ้น 20% มาจากรุ่นอินเวอร์เตอร์ 40% และนอนอินเวอร์เตอร์ 60% พร้อมมีส่วนแบ่งในตลาดแอร์รวมที่ 23% จาก 20% ในปีที่ผ่านมา”

สำหรับแผนงานของทางบริษัทนับจากนี้ภายหลังจากที่พานาโซนิคก้าวสู่ปีที่ 100 ในการดำเนินธุรกิจทั่วโลกนั้นจะให้ความสำคัญกับการรุกเข้าไปขยายตลาดในกลุ่มสินค้าพรีเมียมในเอเชียมากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายมุ่งสู่การเป็น Top Premium Brand in Asia ภายในปี2020 โดยในส่วนของประเทศไทยนั้นจะมีการนำเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุเข้ามาให้บริการมากยิ่งขึ้น ขณะที่ในช่วงหน้าร้อนที่จะถึงนี้บริษัทได้เตรียมเปิดตัวแคมเปญใหญ่ (ก.พ.-เม.ย.) Cooling Up Summer แจกรางวัลใหญ่รถยนต์โตโยต้า คัมรี่ พร้อมทั้งจัดคาราวานโรดโชว์ กิจกรรมทางการตลาดออนไลน์ ออกมาส่งเสริมการขายอีกด้วย

“มองว่าสภาพอากาศไม่มีผลต่อการซื้อ เช่นเดียวกับภาพรวมกำลังซื้อปีนี้ที่มองว่าในหน้าร้อนจะดีขึ้นหรือทำให้ตลาดเครื่องปรับอากาศโตได้ 10% จากปีก่อนติดลบ 10% นอกจากนี้ยังมั่นใจว่า ตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านจะเติบโต จากสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้น”

อย่างไรก็ตามบริษัทมั่นใจว่าจบปีงบประมาณ 2561 (1 เม.ย. 61-31 มี.ค. 62) จะมีรายได้กลับมาโต 15% หรือมีรายได้รวมไม่ตํ่ากว่า 1.45 หมื่นล้านบาท มาจากเครื่องปรับอากาศ 44% ตู้เย็น 19% เครื่องซักผ้า 16% อื่นๆ 21% จากปีงบประมาณ 2560 ที่คาดการณ์ว่าจะปิดรายได้ที่ 1.26 หมื่นล้านบาท มาจากเครื่องปรับอากาศ 42% ตู้เย็น 19% เครื่องซักผ้า 15% และอื่นๆ 24%

ขณะที่นางสาวเสาวณีย์ สิราริยกุล ผู้อำนวยการธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า แผนงานรุกตลาดในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของบริษัทปีนี้ จะให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจภายใต้ 3 ยุทธศาสตร์หลักได้แก่ 1.การพัฒนาสินค้าพรีเมียมนวัตกรรมใหม่รุกตลาด ยํ้าแชมป์ผู้นำ 9 ปีซ้อน 2.ดำเนินธุรกิจ และพร้อมลงทุนร่วมกับคู่ค้าตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้าสมัยใหม่ และ 3. ความเป็น one samsung เน้นสร้างแบรนด์เอ็นเกจเมนต์ไปยังลูกค้า

728x90-03-3-503x62-3-503x62 โดยล่าสุดได้เปิดตัวสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน 36 รุ่นใหม่ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ 17 รุ่น,ตู้เย็น 6-7 รุ่น และเครื่องซักผ้า 12 รุ่น ออกมารุกตลาดในปีนี้ โดยเน้นขยายฐานลูกค้าระดับบน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มองหาดีไซน์ที่สวยทันสมัย ซึ่งตรงกับสินค้าของบริษัท นอกจากนี้ยังได้เตรียมรุกเข้าไปในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย และแบบหุ่นยนต์ เตาอบไมโครเวฟแบบมัลติฟังก์ชัน เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพทางการเติบโตสูงอีกด้วย

“แม้บริษัทจะเน้นขยายฐานลูกค้าในกลุ่มพรีเมียมแต่ขณะเดียวกันก็ยังไม่ทิ้งตลาดในกลุ่มแมส ยังคงดำเนินแผนงานในการรุกตลาดคู่ค้ารีเทลทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนให้บริษัทเติบโตตามเป้าหมาย ซึ่งปีนี้ได้เพิ่มงบการตลาด 10% จากปีที่ผ่านมาเพื่อรุกตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอย่างครบวงจร อีกทั้งยังเตรียมจัด 2 แคมเปญใหญ่ ออกมารุกตลาด ได้แก่ แคมเปญโปรโมชันเครื่องใช้ไฟฟ้าต้อนรับซัมเมอร์ และแคมเปญ 8 Wonder ในช่วงปลายปีอีกด้วย”

อย่างไรก็ตามสำหรับภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านปัจจุบันมีมูลค่า 5.2 หมื่นล้านบาท โดยมั่นใจว่าปีนี้ภาพรวมตลาดจะเติบโตเพิ่มขึ้น 4% จากปีที่ผ่านมา โดยซัมซุงวางเป้าหมายเติบโตจากปีที่ผ่านมา 3 เท่าตัว จากปัจจุบันที่มียอดขายมาจากสินค้าเครื่องซักผ้า 35% ตู้เย็น 30% เครื่องปรับอากาศ 25% และอื่นๆ 10%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,334 วันที่ 25 - 27 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-11-503x62