ตลาดช็อก‘SCB-KBANK’กําไรวูบ

23 ม.ค. 2561 | 11:47 น.
กูรูชี้เศรษฐกิจฟื้น ดอกเบี้ยช่วงขาขึ้น หนุนสินเชื่อแบงก์แตะ 4% เงินฝากโต 3-3.5% ขณะที่กลุ่มธนาคารเน้นคุมรายจ่าย เฟ้นลูกค้าดิจิตอล จับตาค่ายนำร่องปล่อยกู้พีทูทีมีโอกาสชนะสูง ตลาดช็อก “SCB-KBANK”กำไรวูบ ผลพวงมาตรฐาน IFRS9

ธนาคารพาณิชย์ 8 แห่งได้รายงานผลกำไรสิ้นปี 2560 พบว่า ลดลง 3.09% มูลค่า 4,833 ล้านบาท มาอยู่ที่ 1.51 แสนล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี 1.56 แสนล้านบาท ขณะ 2 แบงก์ “กสิกรไทย-ไทยพาณิชย์”ผลประกอบการวูบช็อกตลาด สาเหตุทั้ง 2 แบงก์ ฉวยจังหวะกันสำรองหนี้สูญเพิ่มความระมัดระวังและผลพวงทางบัญชีที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2562 แม้ว่าส่วนใหญ่ผลการดำเนินงานยังคงมีกำไร

ขณะที่ซีไอเอ็มบีไทยโหนกำไรเพิ่ม 161% โดยมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดำเนินงานและการลดลงของสำรองหนี้ สงสัยจะสูญฯ ตามมาด้วยทิสโก้กำไรเพิ่ม 21.65% ส่วนใหญ่มาจากรายได้ค่าธรรมเนียมบริการและรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มรวมกับการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยจากธุรกิจสินเชื่อที่รับโอนจากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด(ไทย) โดยพอร์ตสินเชื่อรายย่อยเพิ่มเป็นสัดส่วน 60.7%จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 59.2%

MP24-3333-2A นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า แนวโน้มปีนี้ธุรกิจธนาคารยังมีปัจจัยสนับสนุนเชิงบวกทั้งเศรษฐกิจที่ขยายตัว และทิศทางดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อความต้องการสินเชื่อในระบบเติบโตได้ 3-4% แต่การระดมเงินยังน่าจะเติบโต 3-3.5% จากอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับตํ่า และยังส่งผลต่อการย้ายฐานเงินฝากไปมันนี่มาร์เก็ตด้วย ส่วนสินเชื่อนั้นน่าจะเห็นการลงทุนเพิ่มของภาคธุรกิจส่งออกในไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาภาคส่งออกเติบโตได้ดี

ส่วนแนวโน้มทั้งปี กลุ่มธนาคารยังเน้นควบคุมค่าใช้จ่ายให้ดีขึ้น และแต่ละธนาคารจะพยายามเสาะหาลูกค้าดิจิตอลมากขึ้นแต่ยังคงอำนวยสินเชื่อฐานลูกค้าเดิม ด้านแนวโน้มส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ค่อนข้างมีปัญหาเนื่องจากธนาคารในระบบแข่งขันทำตลาดเกิดการแย่งชิงปล่อยสินเชื่อบิ๊กเนมและสินเชื่อคุณภาพดี ส่งผลเกิดการต่อรองสูงลาดทำให้ทั้งปีมีโอกาสที่ NIM จะไม่ถึงอัตรา 3%

“สิ่งที่ต้องจับตาปีนี้ ถ้าแบงก์ไหนเริ่มปล่อยสินเชื่อพีทูพีก่อน จะมีโอกาสชนะสูง เพราะพีทูพีนั้นแบงก์จะทำหน้าที่เป็นเอาต์เลตหรือเป็นตัวกลางจะแก้ปัญหาเรื่องต้นทุนและแบงก์ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยง และหากสามารถต่อรองอัตราดอกเบี้ยได้ตํ่ายิ่งจะผลักดันดีมานด์ได้ดี เพราะหากเทียบสินเชื่อส่วนบุคคลปัจจุบันคิดดอกเบี้ยอัตราบวก 10% สินเชื่อเช่าซื้อกู้ระยะเวลา 5 ปีคิดดอกเบี้ย 5-6% และสินเชื่อบ้านอายุสัญญากู้ 3 ปีคิดดอกเบี้ย 3.5%”

ad-hoon นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทยฯกล่าวว่า แม้ผลกำไรกลุ่มธนาคารพาณิชย์ทยอยออกมาสะท้อนกำไรของธนาคารขนาดใหญ่ที่ปรับลด โดยเฉพาะตลาดช็อก เมื่อไทยพาณิชย์กับกสิกรไทยกำไรปรับลดลงค่อนข้างมาก แต่ภาพรวมยังคงมีกำไรจากการดำเนินงาน ที่สำคัญไทยพาณิชย์มีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น และการตั้งสำรองรองรับคาดการณ์ความสูญเสียที่อาจจะเกิดจากมาตรฐานบัญชี IFRS9 มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นจากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ทั้งจากการเติบโตของสินเชื่อ รายได้ค่าธรรมเนียม กำไรธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ แม้ว่ารายได้จากการรับประกันภัยจะปรับลดลง ขณะที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเล็กน้อย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,333 วันที่ 21 - 24 มกราคม พ.ศ. 2561
e-book-1-503x62