‘พลังงาน-รับเหมา’ดาวรุ่ง ศก.ฟื้นนํ้ามัน-ลงทุนหนุน

25 ม.ค. 2561 | 11:12 น.
ส่องอุตสาหกรรมหุ้นเด่นปี 61 อานิสงส์เศรษฐกิจโลก-ราคานํ้ามัน ดันกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ กลุ่มพลังงาน “ปิโตรเคมี-โรงกลั่น” ปรับยกแผง, จับตาปีทองกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง-แบงก์ รับเด้งจากลงทุนภาครัฐ “เผดิมภพ” แนะลงทุนทันครึ่งปีแรก มองขาลงดัชนีหุ้นครึ่งหลัง

นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทให้นํ้าหนักหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ หรือคอมมอนิตี กลุ่มพลังงาน แนะนำลงทุนหุ้นบริษัท ปตท.ฯ (PTT) ทั้งกลุ่ม รวมถึง ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) บริษัทบ้านปูฯ (BANPU) บริษัท เอสพีซีจีฯ (SPCG) และบริษัท ไออาร์พีซี (IRPC)

ส่วนหุ้นที่ยังไปได้ดีจากการฟื้นตัวในประเทศ โมเมนตัม ยังเป็นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง แนะนำ บริษัท ช.การช่างฯ (CK) และ บริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่นฯ (STEC) ที่ได้อานิสงส์จากการลงทุนภาครัฐที่เริ่มเห็นได้ชัดเจน ตั้งแต่เดือนกันยายน โต 9.5% เพิ่มเป็น 15% และ 25% ในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน 2560 ตามลำดับ
นายอิสระ อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ถ้าเป็นนักลงทุนที่เกาะติดตลาดได้ตลอด แนะเก็บหุ้นกลุ่มคอมมอดิตี

728x90-03-3-503x62 ส่วนหุ้นกลุ่มพื้นฐานประเทศ รับเหมาก่อสร้าง หากไม่ใช่กูรูจริง ไม่แนะนำเพราะเป็นหุ้นสวิงขึ้น-ลงเร็ว ที่น่าสนใจคือกลุ่มแบงก์เหมาะลงทุนระยะยาว จากเศรษฐกิจฟื้นตัวเร็ว การใช้จ่ายในประเทศและยอดขายรถยนต์เพิ่ม

หุ้นกลุ่มแบงก์แนะนำ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เพราะมีพอร์ตสินเชื่อคอร์ปอเรต ขนาดใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) ที่ได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนของรัฐ และกลุ่มที่ได้อานิสงส์การลงทุนในอีอีซี (โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก) ซึ่งกำลังจับตาว่า พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อีอีซีจะออกเมื่อไร คาดไม่เกินไตรมาส 1 ปีนี้ ได้แก่ บริษัทอมตะ คอปอเรชั่นฯ (Amata) และบริษัทดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่นฯ (WHA) แม้หุ้นกลุ่มนิคมฯจะปรับขึ้นไปมาก แต่รอจังหวะเข้าซื้อได้

สอดคล้องกับนายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บมจ.หลักทรัพย์เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย ) มองเป็น 3 ธีมการลงทุน คือ ธีมจากเศรษฐกิจภายนอกที่เริ่มฟื้น ไฮไลต์กลุ่มนี้ได้แก่ PTT, PTTEP การปรับค่าเอฟทีจะส่งผลต่อราคา กล่าวคือทุก 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ จะบวกอัพไซด์หุ้น PTTEP 2 บาท และบริษัทอินโดรามา เวนเจอร์สฯ (IVL) ที่มีแนวโน้มเติบโตดี

ธีมที่ได้รับจากปัจจัยบวกเศรษฐกิจในประเทศ เป็นกลุ่มแบงก์ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเริ่มเห็นอัตราการเติบโตสินเชื่อ ขณะที่เอ็นพีแอล ไตรมาสที่ 4 หลายแห่งเริ่มพลิกกลับ อย่างไรก็ดีไตรมาส 1 แนะลงทุน กลุ่มหุ้นแบงก์เล็กก่อน อาทิ บริษัท ทิสโก้ ไฟแนนเชียลกรุ๊ปฯ ที่มีผลประกอบการโดดเด่น จากการเข้าซื้อพอร์ตสินเชื่อรายย่อยธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ส่วนปลายไตรมาส 1-2 แนะเป็นหุ้น BBL จากขนาดพอร์ตสินเชื่อคอร์ปอเรต ล่าสุดดีลธนาคารกรุงเทพ ผนึกกับเอไอเอ ขยายช่องทางทำแบงก์แอสชัวรันซ์ ที่จะรับรู้ทำกำไรเพิ่มปีนี้

บาร์ไลน์ฐาน “ช่วงต้นปีนี้ ควรจะเลือกในหุ้นที่มีปันผล พื้นฐานดี เพื่อเป็นการจำกัด downsize list เพราะดัชนีหุ้นวิ่งทะลุ 1,800 จุดแล้วมีโอกาสในการปรับฐานค่อนข้างแรง 4 หุ้นเด่นที่เข้าข่ายคือ TISSCO, IFS (ไอเอฟเอส แคปปิตอล), PTTGC (พีทีที โกลบอล เคมิคอล) และ LH”

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี จก. (มหาชน) กล่าวว่า อานิสงส์เศรษฐกิจโลก กลุ่มที่เป็นไฮไลต์ปีนี้ไม่พ้น พลังงานหรือถ่านหิน หรืออุตสาหกรรมปิโตรเคมีและถ้าไปดูราคาปิโตร เคมีในปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้ขึ้นแรง เนื่องจากราคานํ้ามันเพิ่งขึ้นแรงช่วงไตรมาส 3-4 ไปแล้ว และหากระดับราคานํ้ามันที่สวิงในกรอบ 50-60 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลนานแล้ว แต่หุ้นกลุ่มปิโตรเคมียังไม่ไป จึงยังมีแก๊ปในการวิ่งตามราคานํ้ามันขึ้น

บล.กรุงศรีฯมองตัว IVL, PTTEP และที่ล้อไปตามกับการเติบโตเศรษฐกิจที่คาดจะโตแตะ 4% แน่ คือกลุ่มแบงก์ BBL ที่พี/อี ยังตํ่ากว่ากลุ่ม และปันผลระดับ กว่า 3% ดีกว่ากลุ่ม และในครึ่งแรกปีนี้จะรับรู้รายได้ค่าฟี รายได้เติบโตขึ้น จากการเป็นพันธมิตรธุรกิจร่วมกับเอไอเอ

“ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น หุ้นที่มีอัตราโต เช่น ดอกเบี้ย หากเลือกเป็นรายตัว กลุ่มอสังหาฯ อาทิ ORI (บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้), หมวดยานยนต์ IHL (บมจ.อินเตอร์ไฮด์) ซึ่งมีการเปิดโรงงานใหม่ช่วงครึ่งแรกของปี ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มเป็น 2 เท่าตัว ส่งผลต่อการเติบโตของกำไร

[caption id="attachment_226530" align="aligncenter" width="334"] พิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ธนชาตฯ พิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ธนชาตฯ[/caption]

สุดท้ายนายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ รองกรรมการผู้จัดการ บล.ธนชาต จก.ให้มุมมองว่า หาก จะกระจายความเสี่ยง ต้องกระจายพอร์ต หุ้นในหมวดคอมมอดิตีที่ยังเป็นท็อปฮิต คือ BANPU, PTT คาดเร็วๆนี้นักวิเคราะห์จะปรับตัวเลขสมมติฐานราคานํ้ามันใหม่ จากปัจจุบันที่ยังอยู่ระดับตํ่า

ส่วนหมวดกลุ่มแบงก์ หุ้นแบงก์เล็ก แนะนำถือกลุ่มที่จ่ายปันผลดี อาทิ Tisco จ่ายปีละครั้ง หากถือเวลานี้ จะได้รับปันผลช่วงปลายเดือนเมษายน-พฤษภาคม คาดที่ 4.15 บาทต่อหุ้น หรือ 4.5% เทียบราคาปัจจุบันที่ 90 บาทต่อหุ้น, หุ้นกลุ่มไมโครไฟแนนซ์ แนะทยอยเก็บ เพราะเศรษฐกิจดี-ไม่ดี ก็ยังกินส่วนแบ่งเงินกู้นอกระบบได้อยู่ ส่วนหุ้นแบงก์ใหญ่ BBL เป็นอีกตัว แม้ประโยชน์จากกระแสเงินทุนของต่างชาติที่ได้จะไม่มาก เนื่องจากเพดานการถือครองต่างชาติ เอ็นวีดีอาร์เต็ม 35% แล้วก็ตาม

หุ้นในหมวดท่องเที่ยว ยังได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจโลก อาทิ จีน อินเดีย อาเซียน ที่มีการเดินทางเพิ่มขึ้นตลอด และเป็นการเพิ่มของคนชั้นกลาง การบูมของสายการบินต้นทุนตํ่า หมวดนี้ อาทิ AOT(บมจ.ท่าอากาศยานไทย), หุ้นกลุ่มโรงแรม สปา เฮลธ์แอนด์บิวตี้ อยู่ในข่ายได้ประโยชน์ ส่วนหุ้นในกลุ่มสายการบินยังไม่แนะนำ เพราะการแห่ขยายฝูงบิน ทำให้ไม่สามารถปรับราคาค่าโดยสารได้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,333 วันที่ 21 - 24 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9