Brilliant Year, Awesome Life ชีวิตที่ใช่สร้างได้ด้วยตัวคุณ
จะดีกว่าไหม? ถ้าคุณรู้ว่าเป้าหมายในชีวิ ตของตนเองคืออะไร และคุณสามารถวางแผนชีวิตเพื่อไปให้ถึงจุดๆ นั้นได้ พร้อมกับสามารถเข้ าใจตนเองและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นได้อย่างยอดเยี่ยม
จามร จีระแพทย์ บอสใหญ่คลื่นวิทยุ MET 107 สถานีวิทยุในเครือ อสมท จึงชวนผู้ฟังมาเปลี่ยนแปลงตัวเองให้สมปรารถนาตามที่ใจต้ องการ กับกิจกรรมสุดฮิพ "Brilliant Year, Awesome Life - ชีวิตที่ใช่ สร้างได้ในปีเดียว โดย หนูดี - วนิษา เรซ ผู้เชี่ยวชาญด้านอัจฉริยภาพ และ ขุนเขา - สินธุเสน เขจรบุตร นักจิตวิทยาพัฒนาสมอง ที่มาร่วมแนะนำเทคนิคการพัฒนาศั กยภาพจากภายในทั้งด้านการงาน การเงิน การตั้งเป้าหมายชีวิต พร้อมบอกเคล็ดลับการสื่อสารอย่ างมีศิลปะ การฟังอย่างลึกซึ้ง การพูดคุยโน้มน้าวด้วยหลักจิตวิ ทยา และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกั บคนรอบข้าง ให้คุณเป็นคนใหม่ที่ยอดเยี่ยมขึ ้นในทุกๆ ด้าน ด้วยวิธีง่ายๆ เพียงสูดลมหายใจลึกๆ แล้วเริ่มต้นทำได้เลย
เข้าใจตนเอง
หาสิ่งที่กลัว สิ่งที่ชอบ สิ่งที่เก่ง และสิ่งที่จะมีคนจ่ายเงินให้ เราทำ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราต้องรู้ว่าแท้จริงแล้วสิ่งไหนที่ ไม่ใช่ตัวเรามากที่สุด ก่อนจะค้นพบว่าสิ่งไหนที่ใช่ สำหรับตัวเรา มนุษย์ทุกคนมีสิ่งที่อยากเป็นกับสิ่งที่เป็นจริงๆ ซึ่งหากช่องว่างระหว่าง 2 สิ่งนั้นไม่ต่างกันมากเกินไป คนๆ นั้นจะสามารถมีความสุขกับสิ่งที ่ตนเองเป็นได้ แต่อย่าเอาตนเองไปปรียบเทียบกับคนอื่น เพราะคนที่เป็นทุกข์คือตัวเราเอง
ชีวิตจะเริ่มต้น เมื่อหมดข้ออ้าง
ลบคำว่า “ถ้า” ออกไปจากชีวิตด้วยการสร้างวินัยให้ตนเอง ปรับนิสัยที่ทำให้ชีวิตคุณย่ำอยู่กับที่เช่น การนอนดึก ติดโซเชียลมีเดีย การไม่กล้าตัดสินใจ เป็นต้น หากคุณอยากทำอะไร ให้วางแผนเลยว่าต้องใช้เวลากับมันกี่ชั่วโมงต่อวัน ใช้เงินเท่าไหร่ ต้องการความช่วยเหลือจากภายนอกหรือไม่ เช่น ความช่วยเหลือจากคนในครอบครัว เป็นต้น และที่สำคัญต้องหมั่นเติมความตั้งใจ กำลังใจจากภายในด้วย
เพิ่มพูนความฉลาด
อัจฉริยภาพของมนุษย์มี 8 ด้านได้แก่ ความฉลาดด้านภาษาและการสื่อสาร, ความฉลาดด้านตรรกะและคณิตศาสตร์ , ความฉลาดด้านธรรมชาติ, ความฉลาดด้านมิติสัมพันธ์ การจินตภาพ, ความฉลาดด้านร่างกายและการเคลื่ อนไหว, ความฉลาดด้านดนตรีและจังหวะ, ความฉลาดด้านการเข้าใจผู้อื่น และความฉลาดด้านการเข้าใจตนเอง โดยคุณต้องเลือกด้านที่ไม่เก่ งที่สุดมาพัฒนาตนเอง เชื่อเถอะว่าหากคุณแบ่งเงินเพี ยง 3% จากรายได้เพื่อมาพัฒนาตนเองจะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ออมก่อนใช้
แบ่งเงินของคุณเป็นส่วนๆ ดังนี้ เงินออม, ลงทุน, การศึกษา, สุขภาพ, ประกันชีวิต, ท่องเที่ยว, หนี้สิน,ภาษี, เกษียณ และทำบุญ โดยกลุ่มตัวอย่างจากนักศึกษาที่ เรียนจบและรับปริญญาในมหาวิทยาลัย Yale ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 1952 พบว่ามีเพียง 3% ที่เขียนเป้าหมายทางการเงินไว้ ในแบบสอบถามของมหาวิทยาลัย และอีก 97% ไม่เขียน หลังจากติดตามผล 20 ปีหลังจากนั้นพบว่ารายได้ ของคนจำนวน 3% รวมกันมีมากกว่ารายได้ของคนอีก 97% รวมกันทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าถ้าเราตั้งเป้าหมายไว้และมีความพยายามจะทำให้ เราไปถึงจุดที่เราต้องการได้
ฟังอย่างเข้าถึง
การฟังมี 3 ระดับคือ
ฟังให้เข้าหู แค่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดอะไร
ฟังให้เข้าใจ แค่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกอะไร
ฟังให้เข้าถึง คือรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร
การฟังอย่างเข้าถึงคือการฟังแบบไม่ตัดสิน ฟังสิ่งที่เขาเป็นจริงๆ ไม่ใช่ฟังแค่สิ่งที่เขาพูด และมี Eye Contactเพื่อเป็นการสร้างสะพานเชื่ อมใจถึงใจ รู้จักการเคารพในความคิดของผู้ อื่น เมื่อเขารู้สึกถึงได้ว่าเราเปิ ดใจจะรู้สึกมีความรักให้เราซึ่ งจะทำให้เรามีอิทธิพลต่อความคิดของผู้อื่น
ใส่ความเป็นมนุษย์ลงไป เมื่อพูดกับใครสักคน
การพูดกับคนๆ นึงด้วยจุดอ่อนของตนเองจะทำให้ เขาสนิทใจกับเรามากขึ้น เพราะรูโหว่ในจิตใจของเราทำให้ เราสามารถเชื่อมใจกับคนอื่นได้ เปรียบเสมือนโซ่ที่แข็งแรงร้อยต่อกันได้ด้วยรูเกี่ยว เช่นหากอาจารย์เปิดคลาสด้วยการบอกว่าตนเองเป็นคนที่เรียนไม่เก่ง นักเรียนก็จะสนใจฟังสิ่งที่ อาจารย์กำลังจะสอน เพราะอยากรู้ว่าคนที่เรียนไม่ เก่งมาเป็นอาจารย์ได้อย่างไร เป็นต้น และควรใช้วิธีการพูดให้ เหมาะสมกับคนและสถานการณ์ โดยมีผลวิจัยออกมาว่า เราจะชอบคนที่คุยด้วย 55% เพราะภาษากาย 38% เพราะน้ำเสียง และ 7% เพราะคำพูด คีย์เวิร์ดคือ “อย่าพูดให้เปลี่ยน แต่ต้องทำให้เห็น”
เรียกได้ว่าข้อคิดที่กูรูชั้นเซียนทั้ง 2 ท่านได้มอบให้กับทุกคนล้วนกระตุ ้นให้เกิดการพัฒนาตนเองอย่างรอบด้าน ซึ่งหากสามารถนำกลับไปประยุกต์ ใช้กับตนเองอย่างเหมาะสมแล้ว การันตีเลยว่า คุณจะมี Brilliant Year, Awesome Life แน่นอน คลื่นวิทยุ MET 107 ยังมีกิจกรรมดีๆ อีกเพียบ ติดตามได้ ทุกช่วงดีเจ หรือคลิก www.met107.fm
เข้าใจตนเอง
หาสิ่งที่กลัว สิ่งที่ชอบ สิ่งที่เก่ง และสิ่งที่จะมีคนจ่ายเงินให้ เราทำ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราต้องรู้ว่าแท้จริงแล้วสิ่งไหนที่ ไม่ใช่ตัวเรามากที่สุด ก่อนจะค้นพบว่าสิ่งไหนที่ใช่ สำหรับตัวเรา มนุษย์ทุกคนมีสิ่งที่อยากเป็นกับสิ่งที่เป็นจริงๆ ซึ่งหากช่องว่างระหว่าง 2 สิ่งนั้นไม่ต่างกันมากเกินไป คนๆ นั้นจะสามารถมีความสุขกับสิ่งที ่ตนเองเป็นได้ แต่อย่าเอาตนเองไปปรียบเทียบกับคนอื่น เพราะคนที่เป็นทุกข์คือตัวเราเอง
ชีวิตจะเริ่มต้น เมื่อหมดข้ออ้าง
ลบคำว่า “ถ้า” ออกไปจากชีวิตด้วยการสร้างวินัยให้ตนเอง ปรับนิสัยที่ทำให้ชีวิตคุณย่ำอยู่กับที่เช่น การนอนดึก ติดโซเชียลมีเดีย การไม่กล้าตัดสินใจ เป็นต้น หากคุณอยากทำอะไร ให้วางแผนเลยว่าต้องใช้เวลากับมันกี่ชั่วโมงต่อวัน ใช้เงินเท่าไหร่ ต้องการความช่วยเหลือจากภายนอกหรือไม่ เช่น ความช่วยเหลือจากคนในครอบครัว เป็นต้น และที่สำคัญต้องหมั่นเติมความตั้งใจ กำลังใจจากภายในด้วย
เพิ่มพูนความฉลาด
อัจฉริยภาพของมนุษย์มี 8 ด้านได้แก่ ความฉลาดด้านภาษาและการสื่อสาร, ความฉลาดด้านตรรกะและคณิตศาสตร์ , ความฉลาดด้านธรรมชาติ, ความฉลาดด้านมิติสัมพันธ์ การจินตภาพ, ความฉลาดด้านร่างกายและการเคลื่ อนไหว, ความฉลาดด้านดนตรีและจังหวะ, ความฉลาดด้านการเข้าใจผู้อื่น และความฉลาดด้านการเข้าใจตนเอง โดยคุณต้องเลือกด้านที่ไม่เก่ งที่สุดมาพัฒนาตนเอง เชื่อเถอะว่าหากคุณแบ่งเงินเพี ยง 3% จากรายได้เพื่อมาพัฒนาตนเองจะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ออมก่อนใช้
แบ่งเงินของคุณเป็นส่วนๆ ดังนี้ เงินออม, ลงทุน, การศึกษา, สุขภาพ, ประกันชีวิต, ท่องเที่ยว, หนี้สิน,ภาษี, เกษียณ และทำบุญ โดยกลุ่มตัวอย่างจากนักศึกษาที่ เรียนจบและรับปริญญาในมหาวิทยาลัย Yale ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 1952 พบว่ามีเพียง 3% ที่เขียนเป้าหมายทางการเงินไว้ ในแบบสอบถามของมหาวิทยาลัย และอีก 97% ไม่เขียน หลังจากติดตามผล 20 ปีหลังจากนั้นพบว่ารายได้ ของคนจำนวน 3% รวมกันมีมากกว่ารายได้ของคนอีก 97% รวมกันทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าถ้าเราตั้งเป้าหมายไว้และมีความพยายามจะทำให้ เราไปถึงจุดที่เราต้องการได้
ฟังอย่างเข้าถึง
การฟังมี 3 ระดับคือ
ฟังให้เข้าหู แค่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดอะไร
ฟังให้เข้าใจ แค่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกอะไร
ฟังให้เข้าถึง คือรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร
การฟังอย่างเข้าถึงคือการฟังแบบไม่ตัดสิน ฟังสิ่งที่เขาเป็นจริงๆ ไม่ใช่ฟังแค่สิ่งที่เขาพูด และมี Eye Contactเพื่อเป็นการสร้างสะพานเชื่ อมใจถึงใจ รู้จักการเคารพในความคิดของผู้ อื่น เมื่อเขารู้สึกถึงได้ว่าเราเปิ ดใจจะรู้สึกมีความรักให้เราซึ่ งจะทำให้เรามีอิทธิพลต่อความคิดของผู้อื่น
ใส่ความเป็นมนุษย์ลงไป เมื่อพูดกับใครสักคน
การพูดกับคนๆ นึงด้วยจุดอ่อนของตนเองจะทำให้ เขาสนิทใจกับเรามากขึ้น เพราะรูโหว่ในจิตใจของเราทำให้ เราสามารถเชื่อมใจกับคนอื่นได้ เปรียบเสมือนโซ่ที่แข็งแรงร้อยต่อกันได้ด้วยรูเกี่ยว เช่นหากอาจารย์เปิดคลาสด้วยการบอกว่าตนเองเป็นคนที่เรียนไม่เก่ง นักเรียนก็จะสนใจฟังสิ่งที่ อาจารย์กำลังจะสอน เพราะอยากรู้ว่าคนที่เรียนไม่ เก่งมาเป็นอาจารย์ได้อย่างไร เป็นต้น และควรใช้วิธีการพูดให้ เหมาะสมกับคนและสถานการณ์ โดยมีผลวิจัยออกมาว่า เราจะชอบคนที่คุยด้วย 55% เพราะภาษากาย 38% เพราะน้ำเสียง และ 7% เพราะคำพูด คีย์เวิร์ดคือ “อย่าพูดให้เปลี่ยน แต่ต้องทำให้เห็น”
เรียกได้ว่าข้อคิดที่กูรูชั้นเซียนทั้ง 2 ท่านได้มอบให้กับทุกคนล้วนกระตุ ้นให้เกิดการพัฒนาตนเองอย่างรอบด้าน ซึ่งหากสามารถนำกลับไปประยุกต์ ใช้กับตนเองอย่างเหมาะสมแล้ว การันตีเลยว่า คุณจะมี Brilliant Year, Awesome Life แน่นอน คลื่นวิทยุ MET 107 ยังมีกิจกรรมดีๆ อีกเพียบ ติดตามได้ ทุกช่วงดีเจ หรือคลิก www.met107.fm