บาทแข็ง-ค่าแรงพุ่ง ส่งออกโต 5.5% เสี่ยง

สรท.ชั่งนํ้าหนักปัจจัยบวก-ลบส่งออกไทยปี 61 สูสี ลุ้นยังโตได้ 5.5% บาทแข็ง-จ่อปรับค่าแรงปัจจัยเสี่ยง ขณะเศรษฐกิจโลก-ราคาโภคภัณฑ์ขาขึ้นปัจจัยบวก

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า จากที่ สรท.ได้คาดการณ์การส่งออกของไทยในปี 2561 จะขยายตัวได้ที่ 5.5% หรือมีมูลค่ากว่า 2.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ บนสมมุติฐานค่าเงินบาทเฉลี่ยไม่ตํ่ากว่า 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยคาด

การณ์ดังกล่าว มีปัจจัยบวกที่เกี่ยวข้องที่สำคัญได้แก่ การขยายตัวทางเศรษฐกิจและการค้าโลก, การเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ในตลาดศักยภาพ เช่น เอเชียใต้ ตลาดรัสเซียและเครือรัฐเอกราช(CIS) และแอฟริกาใต้, การปรับตัวของผู้ประกอบการไทยในการผลิตสินค้าไทยไปสู่ Digitalization ตามความต้องการของตลาดโลกหรือตามเทรนด์ 4.0 โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์

นอกจากนี้มีปัจจัยบวกจากการปรับเพิ่มของราคานํ้ามันในตลาดโลกที่จะส่งผลต่อทิศทางของสินค้าโภคภัณฑ์ที่จะปรับราคาขึ้นในทิศทางเดียวกัน, การประกาศปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคบางส่วนของจีน (เช่น อาหาร ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ยา เคมีภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เสื้อผ้า รองเท้า และอื่นๆ จาก 17.3% เหลือ 7.7% (เป็น ต้น) ขณะที่สหภาพยุโรป(อียู) มีมติฟื้นสัมพันธ์กับไทยคาดจะช่วยให้ไทยสามารถขยายสัดส่วนการส่งออกไปตลาดอียูจาก 9% เป็น 10% ได้ในปีนี้

ด้านปัจจัยลบที่สำคัญอันดับ 1 คือค่าเงินบาทที่ผันผวนในทิศทางที่แข็งค่ามาตลอดทั้งปี 2560 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงปีนี้, การเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์เพื่อดึงเงินทุนกลับประเทศจะมีผลต่อการส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ และสถาน การณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองระหว่างประเทศ เช่นคาบสมุทรเกาหลีที่ต้องติดตามใกล้ชิด

“นอกจากนี้ต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการมีแนวโน้มสูงขึ้น จากการเตรียมปรับขึ้นค่าแรงขั้นตํ่า ซึ่งผู้ส่งออกต้องหาวิธีปรับเพิ่มผลิตภาพขึ้นมาให้ได้ และผลจากการลดภาษีสินค้าภายใต้เอฟทีเออาเซียน-จีนที่บังคับใช้เต็มรูปแบบตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2561 จะทำให้สินค้าจีนไหลเข้าไทยและ CLMV ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของไทยมากขึ้น”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,332 วันที่ 18 - 20 มกราคม พ.ศ. 2561