รัสเซียขยายมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับตุรกีไปสู่ธุรกิจก่อสร้างและท่องเที่ยว เพิ่มเติมจากมาตรการที่ประกาศออกมาในเดือนพฤศจิกายนหลังเครื่องบินรบของตุรกียิงเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซีย
เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่า รัสเซียประกาศมาตรการล่าสุดห้ามผู้ประกอบธุรกิจก่อสร้างของตุรกีทำสัญญาโครงการใหม่ในรัสเซียตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นไป ขณะที่การก่อสร้างที่ดำเนินไปแล้ว อาทิ โครงการก่อสร้างสนามแข่งขันฟุตบอลเพื่อรองรับการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2561 ตลอดจนการก่อสร้างอาคารสูงอื่นๆ สามารถดำเนินการต่อไปได้
ทั้งนี้ มาตรการคว่ำบาตรล่าสุดห้ามไม่ให้บริษัทที่มีเจ้าของหรือมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศตุรกีทำกิจกรรมใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านสถาปัตยกรรม วิศวกรรม ตลอดจนทดสอบทางเทคนิคกับสิ่งก่อสร้าง นอกจากนี้ มาตรการคว่ำบาตรยังห้ามไม่ให้ชาวตุรกีหรือบริษัทจากตุรกีเข้ามาดำเนินการธุรกิจตัวแทนท่องเที่ยวในรัสเซีย
ก่อนหน้านี้ รัสเซียได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อตุรกีด้วยการยกเลิกโครงการด้านพลังงาน และห้ามนำเข้าผักและผลไม้จากตุรกี หลังจากเครื่องบินรบของตุรกียิงเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียในเดือนพฤศจิกายน
รัสเซียถือเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของตุรกีรองจากเยอรมนี ด้วยมูลค่าการส่งออกประมาณ 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2557 หรือคิดเป็น 4% ของการส่งออกทั้งหมดของประเทศ ขณะเดียวกันตุรกีนำเข้าสินค้าจากรัสเซียมากที่สุดในปี 2557 คิดเป็นมูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 10% ของสินค้านำเข้าทั้งหมด จากการประเมินของเรอเนซองส์ แคปิตอล
เออร์ฮาน อาสลาโนกลู นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมาร์มาราของตุรกี กล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจตุรกีในระยะสั้น แต่ตุรกีจะสามารถฟื้นตัวกลับคืนมาได้ในระยะกลาง โดยอาสลาโนกลูประเมินว่าธุรกิจตุรกีจะสูญเสียรายได้อย่างน้อย 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ตุรกีนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย โดยในปี 2557 ตุรกีเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับ 2 ด้วยจำนวนชาวรัสเซียเดินทางไปท่องเที่ยวประมาณ 3.3 ล้านคน อาสลาโนกลูกล่าวว่า ตุรกีเสี่ยงที่จะสูญเสียรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี และสูญเสียรายได้จากโครงการก่อสร้างอีก 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี
ด้านกระทรวงเกษตรของตุรกีประเมินว่า การห้ามนำเข้าผักและผลไม้ของรัสเซียจะทำให้ตุรกีสูญเสียรายได้ประมาณ 764 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ "ช่วงแรกผู้ประกอบการในธุรกิจดังกล่าวเกิดความตื่นตระหนกแต่หลังจากนั้นสามารถฟื้นตัวได้" มูฮิตติน บาราน รองประธานสมาคมตลาดผักและผลไม้ของตุรกีกล่าว และเสริมว่า ตุกรีผลิตผักและผลไม้ 45-50 ล้านตันต่อปี แต่ส่งออกเพียงประมาณ 5-6% ของจำนวนดังกล่าว "ความขัดแย้งกับรัสเซียอาจกระทบผู้ผลิตผลไม้เปรี้ยวเป็นพิเศษ แต่รัฐบาลได้ให้สัญญาว่าจะช่วยเหลือด้วยการให้เงินอุดหนุน" นายบารานกล่าว
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า รัสเซียจะไม่ออกมาตรการใดๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของรัสเซียไปยังตุรกี โดยตุรกีพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียถึง 55% ของปริมาณที่ใช้ทั้งหมดในแต่ละปี
"ถ้ารัสเซียหยุดหรือชะลอการจ่ายก๊าซธรรมชาติ จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจตุรกีแน่นอน แต่ผมไม่คาดหมายว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนั้น" อาสลาโนกลูกล่าว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,120 วันที่ 7 - 9 มกราคม พ.ศ. 2559