หนี้ 56 ไฟแนนซ์ ส่อสูญ 5 แสนล้าน

11 ม.ค. 2561 | 06:14 น.
กรมบังคับคดีเผย 56 ไฟแนนซ์ที่ถูกปิดจากพิษต้มยำกุ้งปี 2540 ทยอยคืนหนี้แค่ 8.9 หมื่นล้านบาทหรือ 14% ที่เหลืออีกกว่า 5 แสนล้านบาทส่อสูญ ขณะทรัพย์สินอยู่ระหว่างดำเนินการทั้ง “อสังหาฯ-หุ้นกรรมสิทธิ์สถาบันการเงินและสิทธิเรียกร้อง”เหลือเพียงเล็กน้อย ประกาศให้บุคคลนำหลักฐานรับคืนหลักทรัพย์ภายในวันที่ 5 มีนาคม-ก่อนส่งมอบกองทุนฟื้นฟูขายนำเงินแบ่งจ่ายอีกทอด

นับตั้งแต่ทางการสั่งปิด 56 สถาบันการเงินที่ล้มละลายจากวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 พร้อมทิ้งภาระหนี้ให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินตามสะสางกว่า 1.4 ล้านล้านบาท แต่จากการติดตามการสืบทรัพย์ นำทรัพย์สินของ 56 ไฟแนนซ์เพื่อนำไปชำระเจ้าหนี้ ผ่านไปเกือบ 20 ปี กลับมีความคืบหน้าไม่มาก

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงความคืบหน้าการติดตามหนี้สินของสถาบันการเงิน 56 ไฟแนนซ์ ว่าผลการจ่ายเงินให้บรรดาเจ้าหนี้ทุกรายในคดีสถาบันการเงินทั้ง 56 แห่ง นับตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2546 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2561 สามารถจ่ายเงินคืนเจ้าหนี้ทั้งหมดรวม 89,127 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรา 14.16% คงเหลืออีก 540,163 ล้านบาท จากหนี้ทั้งหมดที่ศาลให้เจ้าหนี้ได้รับชำระ 629,291 ล้านบาท

[caption id="attachment_248986" align="aligncenter" width="291"] รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี[/caption]

ทั้งนี้ในวงเงินดังกล่าวเป็นของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ในฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่ได้รับชำระหนี้แล้วเป็นเงิน 80,482 ล้านบาท คิดเป็นอัตรา 13.40% ของยอดหนี้ที่ศาลมีคำสั่งให้ได้รับชำระ ณ วันที่ 19 มิถุนายน 2560 จำนวน 600,818 ล้านบาท คงเหลืออีกกว่า 520,336 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรา 86.60%
“หนี้ส่วนที่เหลือนั้นกรมบังคับคดี ยังต้องรวบรวมทรัพย์ในคดีล้มละลายให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เว้นแต่ทางกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินผู้เป็นโจทก์จะมีข้อมูลแจ้งเข้ามาเพิ่ม ซึ่งช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเราประสานการทำงานใกล้ชิดและผลงานที่คืบหน้าเป็นการทำงานเชิงรุกร่วมกัน”

สำหรับทรัพย์สินที่อยู่ระหว่างดำเนินการตามคดีล้มละลายสถาบันการเงินประกอบด้วย 1.อสังหาริมทรัพย์ กรรมสิทธิ์สถาบันการเงินค้างมาทั้งสิ้น 171 แปลง ราคาประเมินรวม 456 ล้านบาทเศษซึ่งนับตั้งแต่ปี 2557-2560 ได้มีการขายทอดตลาดไปได้แล้วจำนวน 154 แปลง ราคาประเมิน 408 ล้านบาท จึงคงเหลืออยู่ 17 แปลงราคาประเมินรวม 48 ล้านบาท คิดเป็นอัตรา 10.66%

MP24-3330-A 2.หุ้นกรรมสิทธิ์สถาบันการเงิน 527 รายการ 426 ล้านหุ้นเศษ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ (จพท.)ดำเนินการเสร็จโดยการขายและงดดำเนินการรวม 427 รายการ 390 ล้านหุ้นเศษ จึงคงเหลือรวม 100 รายการ 35 ล้านหุ้น และ 3.สิทธิเรียกร้องปัจจุบันที่ยังอยู่ระหว่างติดตามและการบังคับคดีอีกประมาณ 1.9%

“ถ้าดูจากทรัพย์สินที่เหลืออยู่ กับสัดส่วนของหนี้สินที่ยังคงค้างอยู่ ก็ดูจะริบหรี่ เว้นแต่ว่ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯจะส่งข้อมูลเข้ามาเพิ่มเติม และนำสืบทรัพย์เพิ่ม”

นอกจากนี้ยังมีหุ้นของลูกค้าไม่มีภาระหนี้แต่ไม่ทราบชื่อลูกค้าผู้เป็นเจ้าของหลักทรัพย์ เนื่องจากไม่ปรากฏรายชื่อผู้เป็นเจ้าของหุ้นในรายงานการชำระบัญชีที่ผู้ชำระบัญชีได้รายงานต่อจพท.และไม่สามารถตรวจสอบหาผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งที่ประชุมเจ้าหนี้มีมติให้ประกาศหาเจ้าของเพื่อนำหลักฐานมาขอรับคืนหุ้นใน 32 สถาบันการเงินจำนวนทั้งสิ้น 479 รายการกว่า 21 ล้านหุ้น ราคาประมาณ 78 ล้านบาทเศษ (ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560)

บุคคลที่ถือครองหุ้นดังกล่าวสามารถนำหลักฐานมาแสดงเพื่อขอรับหุ้นภายในกำหนดวันที่ 5 มีนาคม 2561 หากครบกำหนดเวลาแล้วไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของจพท.จะมอบให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้นำไปขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และนำส่งเงินที่ได้จากการขายต่อจพท. เพื่อจะนำไปแบ่งให้แก่บรรดาเจ้าหนี้ต่อไป

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,330 วันที่ 11 - 13 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9