เตือนเงินทุนไหลเข้าระยะสั้น
อีไอซีฟันธงแบงก์ชาติตรึงดอกเบี้ย 1.5% ยาวจนสิ้นปีหน้า หวังเป็นอาวุธหลักหนุนเศรษฐกิจขยายตัว “ทิสโก้”เตือนเงินทุนไหลเข้าระยะสั้น
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2561 หลังผลประชุมล่าสุดเมื่อวันที่ 12 -13 ธันวาคม 2560 มีมติขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.25%-1.50% ทำให้คาดว่าดอกเบี้ยเฟดในปีหน้าจะอยู่ในช่วง 2.0-2.25%
นอกจากนี้เฟดมีมุมมองต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯดีขึ้นและยังคงเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อจะค่อยๆ ฟื้นตัว โดยเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจปีนี้จาก 2.4% เป็น 2.5% และจาก 2.1% เป็น2.5% ในปี 2561 ส่วนอัตราการว่างงานจะลดลงต่อเนื่องไปอยู่ที่ 3.9% จาก 4.1% ในปีนี้
จากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดทำให้ต้นทุนการระดมทุนของภาคเอกชนมีแนวโน้มทยอยเพิ่มขึ้น ขณะที่การลดขนาดงบดุล จะทำให้มีเงินทุนบางส่วนไหลกลับเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ กดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปีปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตามการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในระยะต่อไปจะไม่กระทบค่าเงินบาทมากนัก และคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ในปีหน้า เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจต่อไป
นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ กล่าวว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่มีแนว โน้มอ่อนค่าจะส่งผลบวกต่อหุ้นในตลาดเกิดใหม่โดยเฉพาะตลาดหุ้นไต้หวันและเกาหลีใต้ รวมไปถึงตลาดหุ้นไทย
อย่างไรก็ตามกระแสเงินทุนไหลเข้าเพียงแค่ระยะสั้น และมีแนวโน้มไหลออกในช่วงไตรมาส 2/2561 หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ยครั้งถัดไปในช่วงปลายเดือนมีนาคม ซึ่งทำให้นักลงทุนต้องลงทุนด้วยความระมัดระวังในช่วงปลายไตรมาส 1/2561
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,323 วันที่ 17 - 20 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2561 หลังผลประชุมล่าสุดเมื่อวันที่ 12 -13 ธันวาคม 2560 มีมติขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.25%-1.50% ทำให้คาดว่าดอกเบี้ยเฟดในปีหน้าจะอยู่ในช่วง 2.0-2.25%
นอกจากนี้เฟดมีมุมมองต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯดีขึ้นและยังคงเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อจะค่อยๆ ฟื้นตัว โดยเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจปีนี้จาก 2.4% เป็น 2.5% และจาก 2.1% เป็น2.5% ในปี 2561 ส่วนอัตราการว่างงานจะลดลงต่อเนื่องไปอยู่ที่ 3.9% จาก 4.1% ในปีนี้
อย่างไรก็ตามการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในระยะต่อไปจะไม่กระทบค่าเงินบาทมากนัก และคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ในปีหน้า เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจต่อไป
นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ กล่าวว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่มีแนว โน้มอ่อนค่าจะส่งผลบวกต่อหุ้นในตลาดเกิดใหม่โดยเฉพาะตลาดหุ้นไต้หวันและเกาหลีใต้ รวมไปถึงตลาดหุ้นไทย
อย่างไรก็ตามกระแสเงินทุนไหลเข้าเพียงแค่ระยะสั้น และมีแนวโน้มไหลออกในช่วงไตรมาส 2/2561 หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ยครั้งถัดไปในช่วงปลายเดือนมีนาคม ซึ่งทำให้นักลงทุนต้องลงทุนด้วยความระมัดระวังในช่วงปลายไตรมาส 1/2561
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,323 วันที่ 17 - 20 ธันวาคม พ.ศ. 2560
