‘เอ็มจี’อ้อนรัฐหนุนรถอีวี แง้มแผนปี62ผลิตปิกอัพ-เอ็มพีวี เปิดโรงงานหมื่นล้าน

19 ธ.ค. 2560 | 06:32 น.
“เอ็มจี” ปักธงรบตลาดไทย ชูเป็นฐานใหญ่ผลิตรถพวงมาลัยขวาด้วยโรงงานใหม่มูลค่าลงทุน 1 หมื่นล้านบาท พร้อมผลักดันรถพลังไฟฟ้า “อีวี” เร่งศึกษาและเตรียมเจรจารัฐบาลขอสิทธิ์พิเศษเพิ่มเติม คาดปีหน้าได้ข้อสรุป ยืนยัน เอ็มพีวี และปิกอัพมาแน่

“เอ็มจี”แบรนด์รถยนต์สัญชาติอังกฤษเจ้าของจีน ปักธงลุยตลาดไทยอย่างเข้มข้น ปัจจุบันมีรถขาย 5 รุ่น ไล่ตั้งแต่ เอ็มจี6 เอ็มจี3 เอ็มจี5 รวมถึงเอสยูวี จีเอส และน้องใหม่ แซดเอส

โดยเอ็มจี ตั้งเป้าหมายว่า ยอดขายต้องเติบโต 100% ทุกปี ซึ่งปี 2559 ประสบความสำเร็จตามแผนด้วยยอดขาย 8,319 คัน ดังนั้นในปีนี้ยังถือเป็นความท้าทายที่ต้องทำได้ถึง 1.6 หมื่นคัน

โมเดลที่สร้างยอดขายให้ เอ็มจีอย่างเป็นกอบเป็นกำคือรุ่น “เอ็มจี3” ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ราคาเข้าถึงได้ง่าย และเอสยูวีรุ่นใหม่ “แซดเอส”ที่ล่าสุดได้การตอบรับดีในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2017 หรือปัจจุบันมียอดจองทั่วประเทศกว่า 3,000 คัน (เริ่มส่งมอบเดือนธันวาคม)

mp32-3323-a “เอ็มจีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นเท่าตัวทุกปี เฉพาะ 11 เดือนของปี 2560 เรามียอดขายมากกว่า 1 หมื่นคัน และเราตั้งเป้าหมายจะเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งตลอดระยะเวลาที่เราดำเนินธุรกิจก้าวสู่ปีที่ 4 เราได้วางรากฐานการเติบโตในด้านธุรกิจยานยนต์นี้ไว้ในทุกๆ ด้าน และถูกขับเคลื่อนไปด้วยความมุ่งมั่นของผู้บริหาร พนักงาน และผู้จัดจำหน่ายรถยนต์เอ็มจีทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อนำเสนอมาตรฐานการให้บริการที่ดีแก่ลูกค้าชาวไทย” นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว และว่า

ด้วยยอดขายที่เติบโตต่อเนื่อง และยุทธศาสตร์ที่ต้องการใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถพวงมาลัยขวาส่งออกไปยังตลาดทั่วโลก ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้มีการเปิดโรงงานแห่งที่ 2 ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาท บนพื้นที่กว่า 437.5 ไร่ ภายในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์น ซีบอร์ด แห่งที่ 2 จังหวัดชลบุรี ซึ่งโรงงานแห่งใหม่นี้มีกำลังการผลิตสูงสุดกว่า 1 แสนคัน

“โรงงานแห่งใหม่ได้เริ่มผลิตเพื่อป้อนตลาดในประเทศไทย และจะเริ่มส่งออกไปต่างประเทศในครึ่งหลังของปี 2561 ซึ่งการลงทุนดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของบริษัทแม่ในการขยายตลาดต่างประเทศ และไทยเป็นประเทศที่สำคัญ ซึ่งเราได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์ 4 ประการ ประกอบไปด้วยอินเตอร์เน็ต คาร์,รถพลังงานทางเลือก ,คาร์ แชริ่ง และ รถขับเคลื่อนเองอัตโนมัติ ซึ่งทั้งหมดนี้ได้เริ่มเดินหน้าแล้ว ดังจะเห็นจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ เอ็มจี แซดเอส และในอนาคตบริษัทมีความสนใจที่จะประกอบรถปิกอัพ และเอ็มพีวี เพื่อป้อนสู่ตลาดประเทศไทยอีกด้วย” นายสือ กั๋ว หย่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ ซีพี จำกัด กล่าว

แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์-2 ด้านนายธนากร เสรีบุรี รองประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ และ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจยานยนต์ และอุตสาหกรรมเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า เอ็มจีมีความสนใจทำรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เพราะปัจจุบันในประเทศจีนมีการค้นคว้าวิจัยทั้งรถยนต์ไฟฟ้า, แบตเตอรี่และแพ็กแบตเตอรี่ อยู่แล้ว และในไทยตอนนี้ได้นำรถยนต์ไฟฟ้ามาทดลองวิ่งซึ่งหากมีการสนับสนุนจากภาครัฐบริษัทคาดว่าภายในปีหน้าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย

เอ็มจียังมีความสนใจในการผลิตและประกอบรถปิกอัพ และรถเอ็มพีวี แต่ทั้งนี้ยังต้องใช้เวลาศึกษาอย่างละเอียด เพราะจะต้องใช้เงินลงทุนอีกหลายพันล้าน โดยเอ็มจีคาดว่าจะได้ข้อสรุปของรถปิกอัพในปี 2562

“เรามีการนำรถยนต์โรวี่ อาร์เอ็กซ์ 5 ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้ามาทดลองวิ่งได้ 3-4 เดือนแล้ว และคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการทดสอบแบตเตอรี่ เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ดังนั้นต้องดูว่าแบตเตอรี่ว่าจะทนทานหรือรองรับกับสภาพแวดล้อมในไทยได้มากน้อยแค่ไหน หลังจากได้ผลการทดสอบ เราจะมีการเข้าไปพูดคุยกับรัฐบาล –หน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะมีการซับซิไดส์ อาทิ ลดภาษี หรือ จะมีการชดเชยในส่วนไหนอย่างไรบ้าง ซึ่งเราเองก็ศึกษาทั้งเงื่อนไขของทางบีโอไอ รวมไปถึงอีอีซี ด้วย” นายธนากรกล่าวและว่า

นอกจากยุทธศาสตร์ที่ได้ประกาศออกมาแล้วในแง่ของการสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับลูกค้าของเอ็มจี ปัจจุบันเอ็มจีมีโชว์รูมและศูนย์บริการในปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 87 แห่ง อีกทั้งยังมีศูนย์MG Driving Experience Centre ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 3 หมื่นตารางเมตร ถนนศรีนครินทร์ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับสมรรถนะ การขับขี่ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

เอ็มจียังมีการจำหน่ายรถยนต์มือ 2 ภายใต้ชื่อ “แอพพรูฟ เซอร์ติฟายด์ ยูส คาร์ บาย เอ็มจี” และมีการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ด้วยบริการหลังการขาย อาทิ แพสชัน เซอร์วิส การรับประกัน 4 ปี หรือ 1.2 แสนกิโลเมตร , รถบริการตรวจเช็ก ระยะเคลื่อนที่ บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน และ Call Center 1267

อนึ่งแบรนด์ เอ็มจี ในประเทศไทย บริหารงานโดยบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ที่เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท เซี่ยงไฮ้ ออโต้โมทีฟ อินดัสทรี คอร์ปอเรชั่นฯ หรือ SAIC ผู้ผลิตรถยนต์ประเทศจีน กับ ซีพี ในสัดส่วน 51:49 และได้มีการตั้งบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) ฯเพื่อดูแลด้านการขาย การตลาด บริการหลังการขาย และการจัดจำหน่าย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,323 วันที่ 17 - 20 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9