“เอ็มจี” ปักธงรบตลาดไทย ชูเป็นฐานใหญ่ผลิตรถพวงมาลัยขวาด้วยโรงงานใหม่มูลค่าลงทุน 1 หมื่นล้านบาท พร้อมผลักดันรถพลังไฟฟ้า “อีวี” เร่งศึกษาและเตรียมเจรจารัฐบาลขอสิทธิ์พิเศษเพิ่มเติม คาดปีหน้าได้ข้อสรุป ยืนยัน เอ็มพีวี และปิกอัพมาแน่
“เอ็มจี”แบรนด์รถยนต์สัญชาติอังกฤษเจ้าของจีน ปักธงลุยตลาดไทยอย่างเข้มข้น ปัจจุบันมีรถขาย 5 รุ่น ไล่ตั้งแต่ เอ็มจี6 เอ็มจี3 เอ็มจี5 รวมถึงเอสยูวี จีเอส และน้องใหม่ แซดเอส
โดยเอ็มจี ตั้งเป้าหมายว่า ยอดขายต้องเติบโต 100% ทุกปี ซึ่งปี 2559 ประสบความสำเร็จตามแผนด้วยยอดขาย 8,319 คัน ดังนั้นในปีนี้ยังถือเป็นความท้าทายที่ต้องทำได้ถึง 1.6 หมื่นคัน
โมเดลที่สร้างยอดขายให้ เอ็มจีอย่างเป็นกอบเป็นกำคือรุ่น “เอ็มจี3” ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ราคาเข้าถึงได้ง่าย และเอสยูวีรุ่นใหม่ “แซดเอส”ที่ล่าสุดได้การตอบรับดีในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2017 หรือปัจจุบันมียอดจองทั่วประเทศกว่า 3,000 คัน (เริ่มส่งมอบเดือนธันวาคม)
“เอ็มจีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นเท่าตัวทุกปี เฉพาะ 11 เดือนของปี 2560 เรามียอดขายมากกว่า 1 หมื่นคัน และเราตั้งเป้าหมายจะเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งตลอดระยะเวลาที่เราดำเนินธุรกิจก้าวสู่ปีที่ 4 เราได้วางรากฐานการเติบโตในด้านธุรกิจยานยนต์นี้ไว้ในทุกๆ ด้าน และถูกขับเคลื่อนไปด้วยความมุ่งมั่นของผู้บริหาร พนักงาน และผู้จัดจำหน่ายรถยนต์เอ็มจีทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อนำเสนอมาตรฐานการให้บริการที่ดีแก่ลูกค้าชาวไทย” นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว และว่า
ด้วยยอดขายที่เติบโตต่อเนื่อง และยุทธศาสตร์ที่ต้องการใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถพวงมาลัยขวาส่งออกไปยังตลาดทั่วโลก ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้มีการเปิดโรงงานแห่งที่ 2 ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาท บนพื้นที่กว่า 437.5 ไร่ ภายในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์น ซีบอร์ด แห่งที่ 2 จังหวัดชลบุรี ซึ่งโรงงานแห่งใหม่นี้มีกำลังการผลิตสูงสุดกว่า 1 แสนคัน
“โรงงานแห่งใหม่ได้เริ่มผลิตเพื่อป้อนตลาดในประเทศไทย และจะเริ่มส่งออกไปต่างประเทศในครึ่งหลังของปี 2561 ซึ่งการลงทุนดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของบริษัทแม่ในการขยายตลาดต่างประเทศ และไทยเป็นประเทศที่สำคัญ ซึ่งเราได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์ 4 ประการ ประกอบไปด้วยอินเตอร์เน็ต คาร์,รถพลังงานทางเลือก ,คาร์ แชริ่ง และ รถขับเคลื่อนเองอัตโนมัติ ซึ่งทั้งหมดนี้ได้เริ่มเดินหน้าแล้ว ดังจะเห็นจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ เอ็มจี แซดเอส และในอนาคตบริษัทมีความสนใจที่จะประกอบรถปิกอัพ และเอ็มพีวี เพื่อป้อนสู่ตลาดประเทศไทยอีกด้วย” นายสือ กั๋ว หย่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ ซีพี จำกัด กล่าว
ด้านนายธนากร เสรีบุรี รองประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ และ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจยานยนต์ และอุตสาหกรรมเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า เอ็มจีมีความสนใจทำรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เพราะปัจจุบันในประเทศจีนมีการค้นคว้าวิจัยทั้งรถยนต์ไฟฟ้า, แบตเตอรี่และแพ็กแบตเตอรี่ อยู่แล้ว และในไทยตอนนี้ได้นำรถยนต์ไฟฟ้ามาทดลองวิ่งซึ่งหากมีการสนับสนุนจากภาครัฐบริษัทคาดว่าภายในปีหน้าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย
เอ็มจียังมีความสนใจในการผลิตและประกอบรถปิกอัพ และรถเอ็มพีวี แต่ทั้งนี้ยังต้องใช้เวลาศึกษาอย่างละเอียด เพราะจะต้องใช้เงินลงทุนอีกหลายพันล้าน โดยเอ็มจีคาดว่าจะได้ข้อสรุปของรถปิกอัพในปี 2562
“เรามีการนำรถยนต์โรวี่ อาร์เอ็กซ์ 5 ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้ามาทดลองวิ่งได้ 3-4 เดือนแล้ว และคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการทดสอบแบตเตอรี่ เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ดังนั้นต้องดูว่าแบตเตอรี่ว่าจะทนทานหรือรองรับกับสภาพแวดล้อมในไทยได้มากน้อยแค่ไหน หลังจากได้ผลการทดสอบ เราจะมีการเข้าไปพูดคุยกับรัฐบาล –หน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะมีการซับซิไดส์ อาทิ ลดภาษี หรือ จะมีการชดเชยในส่วนไหนอย่างไรบ้าง ซึ่งเราเองก็ศึกษาทั้งเงื่อนไขของทางบีโอไอ รวมไปถึงอีอีซี ด้วย” นายธนากรกล่าวและว่า
นอกจากยุทธศาสตร์ที่ได้ประกาศออกมาแล้วในแง่ของการสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับลูกค้าของเอ็มจี ปัจจุบันเอ็มจีมีโชว์รูมและศูนย์บริการในปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 87 แห่ง อีกทั้งยังมีศูนย์MG Driving Experience Centre ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 3 หมื่นตารางเมตร ถนนศรีนครินทร์ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับสมรรถนะ การขับขี่ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
เอ็มจียังมีการจำหน่ายรถยนต์มือ 2 ภายใต้ชื่อ “แอพพรูฟ เซอร์ติฟายด์ ยูส คาร์ บาย เอ็มจี” และมีการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ด้วยบริการหลังการขาย อาทิ แพสชัน เซอร์วิส การรับประกัน 4 ปี หรือ 1.2 แสนกิโลเมตร , รถบริการตรวจเช็ก ระยะเคลื่อนที่ บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน และ Call Center 1267
อนึ่งแบรนด์ เอ็มจี ในประเทศไทย บริหารงานโดยบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ที่เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท เซี่ยงไฮ้ ออโต้โมทีฟ อินดัสทรี คอร์ปอเรชั่นฯ หรือ SAIC ผู้ผลิตรถยนต์ประเทศจีน กับ ซีพี ในสัดส่วน 51:49 และได้มีการตั้งบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) ฯเพื่อดูแลด้านการขาย การตลาด บริการหลังการขาย และการจัดจำหน่าย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,323 วันที่ 17 - 20 ธันวาคม พ.ศ. 2560