แห่ซื้อ 'กองทิสโก้ ยูเอส ไฟแนนเชียล' หากำไรดอกเบี้ยขึ้น
กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส ไฟแนนเชียลขายดี นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อไอพีโอจนเกือบเต็มมูลค่าโครงการ บลจ.ทิสโก้ประกาศเพิ่มทุนอีก 2,000 ล้านบาท เป็น 4,000 ล้านบาท รับดีมานด์ล้น เปิดโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เศรษฐกิจสหรัฐฯโตแกร่ง
[caption id="attachment_241974" align="aligncenter" width="377"]
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ[/caption]
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า หลังจากเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนกองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส ไฟแนนเชียล (TUSFIN-A) เป็นครั้งแรก (IPO) ไปเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ถึง 6 ธ.ค. 2560 ที่ผ่านมา พบว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม มียอดจองซื้อมากกว่า1,600 ล้านบาท ถือว่าใกล้เต็มมูลค่าโครงการเดิม 2,000 ล้านบาท บลจ. ทิสโก้จึงยื่นจดทะเบียนเพิ่มเงินลงทุน TUSFIN-A อีกเท่าตัว หรือเพิ่มอีก 2,000 ล้านบาท ทำให้ TUSFIN-A มีเงินทุนโครงการรวมทั้งสิ้น 4,000 ล้านบาท และจะเปิดให้ซื้อขายอีกครั้งในวันที่ 15 ธ.ค. 60 นี้ การเพิ่มเงินทุนดังกล่าวเพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถลงทุนเพิ่มเติม รับโอกาสการลงทุนที่ดีจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และกระจายพอร์ตการลงทุนไปยังหุ้นกลุ่มที่มี Upside รออยู่มาก
“กองทุน TUSFIN-A ลูกค้าให้การตอบรับดีมาก เปิด IPO เพียงแค่ 10 วัน ก็มีนักลงทุนสนใจจองซื้อเข้ามาเกือบเต็มมูลค่าโครงการ ทำให้เราต้องยื่นเรื่องขอเพิ่มทุนจดทะเบียนของกองทุน TUSFIN-A ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าเพิ่มเติมอีก 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้กองทุนดังกล่าวมีมูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท ” นายสาห์รัช กล่าว
สาเหตุที่ TUSFIN-A ได้รับความสนใจมากนั้น เนื่องจากปัจจุบันราคาหุ้นกลุ่มการเงินของสหรัฐฯ ยังคงปรับขึ้นน้อยกว่าดัชนี S&P500 เห็นได้จาก ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาดัชนี S&P500 ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 62% ในขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินยังติดลบถึง 11% อย่างไรก็ดี แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) จะเป็นปัจจัยหนุนต่อรายได้ดอกเบี้ยในภาคธนาคาร โดยเรามองว่าในปี 2561 Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยทั้งหมด 3 ครั้ง และในปี 2562 ยังมีแนวโน้มปรับขึ้นอีกตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยนักวิเคราะห์ประเมินว่าทุกๆ 1% ของอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับเพิ่มขึ้น จะหนุนผลการดำเนินงานของกลุ่มการเงินประมาณ 2.4%
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจากการผ่อนคลายกฏระเบียบต่างๆ ของภาคการเงิน ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้ผลประกอบการกลุ่มการเงินจะขยายตัวดี โดยปี 2560 คาดว่าผลประกอบการกลุ่มการเงินจะเติบโตที่ 9% และ เพิ่มเป็น 15% ในปี 2561 ถือว่าเพิ่มขึ้นมากกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะขยายจะตัวประมาณ 11%
กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส ไฟแนนเชียล มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลักเพียงกองทุนเดียว คือ กองทุน Financial Select Sector SPDR Fund กองทุนรวมอีทีเอฟที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก บริหารจัดการโดย SSGA Funds Management, Inc. ตั้งเป้าสร้างผลตอบแทนก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Financial Select Sector ซึ่งเป็นดัชนีที่รวมหลักทรัพย์ที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงินในดัชนี S&P500 โดยข้อมูลวันที่ 31 ต.ค. 2560 หลักทรัพย์ที่กองทุน Financial Select Sector SPDR Fund ถือครอง 5 อันดับแรก คือ Berkshire Hathaway Inc. Class B, JPMorgan Chase & Co., Bank of America Corporation, Wells Fargo & Company, Citigroup Inc ซึ่งแต่ละบริษัทล้วนแต่เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงและได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก
[caption id="attachment_241974" align="aligncenter" width="377"]
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า หลังจากเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนกองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส ไฟแนนเชียล (TUSFIN-A) เป็นครั้งแรก (IPO) ไปเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ถึง 6 ธ.ค. 2560 ที่ผ่านมา พบว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม มียอดจองซื้อมากกว่า1,600 ล้านบาท ถือว่าใกล้เต็มมูลค่าโครงการเดิม 2,000 ล้านบาท บลจ. ทิสโก้จึงยื่นจดทะเบียนเพิ่มเงินลงทุน TUSFIN-A อีกเท่าตัว หรือเพิ่มอีก 2,000 ล้านบาท ทำให้ TUSFIN-A มีเงินทุนโครงการรวมทั้งสิ้น 4,000 ล้านบาท และจะเปิดให้ซื้อขายอีกครั้งในวันที่ 15 ธ.ค. 60 นี้ การเพิ่มเงินทุนดังกล่าวเพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถลงทุนเพิ่มเติม รับโอกาสการลงทุนที่ดีจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และกระจายพอร์ตการลงทุนไปยังหุ้นกลุ่มที่มี Upside รออยู่มาก
“กองทุน TUSFIN-A ลูกค้าให้การตอบรับดีมาก เปิด IPO เพียงแค่ 10 วัน ก็มีนักลงทุนสนใจจองซื้อเข้ามาเกือบเต็มมูลค่าโครงการ ทำให้เราต้องยื่นเรื่องขอเพิ่มทุนจดทะเบียนของกองทุน TUSFIN-A ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าเพิ่มเติมอีก 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้กองทุนดังกล่าวมีมูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท ” นายสาห์รัช กล่าว
สาเหตุที่ TUSFIN-A ได้รับความสนใจมากนั้น เนื่องจากปัจจุบันราคาหุ้นกลุ่มการเงินของสหรัฐฯ ยังคงปรับขึ้นน้อยกว่าดัชนี S&P500 เห็นได้จาก ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาดัชนี S&P500 ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 62% ในขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินยังติดลบถึง 11% อย่างไรก็ดี แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) จะเป็นปัจจัยหนุนต่อรายได้ดอกเบี้ยในภาคธนาคาร โดยเรามองว่าในปี 2561 Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยทั้งหมด 3 ครั้ง และในปี 2562 ยังมีแนวโน้มปรับขึ้นอีกตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยนักวิเคราะห์ประเมินว่าทุกๆ 1% ของอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับเพิ่มขึ้น จะหนุนผลการดำเนินงานของกลุ่มการเงินประมาณ 2.4%
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจากการผ่อนคลายกฏระเบียบต่างๆ ของภาคการเงิน ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้ผลประกอบการกลุ่มการเงินจะขยายตัวดี โดยปี 2560 คาดว่าผลประกอบการกลุ่มการเงินจะเติบโตที่ 9% และ เพิ่มเป็น 15% ในปี 2561 ถือว่าเพิ่มขึ้นมากกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะขยายจะตัวประมาณ 11%
กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส ไฟแนนเชียล มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลักเพียงกองทุนเดียว คือ กองทุน Financial Select Sector SPDR Fund กองทุนรวมอีทีเอฟที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก บริหารจัดการโดย SSGA Funds Management, Inc. ตั้งเป้าสร้างผลตอบแทนก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Financial Select Sector ซึ่งเป็นดัชนีที่รวมหลักทรัพย์ที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงินในดัชนี S&P500 โดยข้อมูลวันที่ 31 ต.ค. 2560 หลักทรัพย์ที่กองทุน Financial Select Sector SPDR Fund ถือครอง 5 อันดับแรก คือ Berkshire Hathaway Inc. Class B, JPMorgan Chase & Co., Bank of America Corporation, Wells Fargo & Company, Citigroup Inc ซึ่งแต่ละบริษัทล้วนแต่เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงและได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก
