"กฤษฎา"ยึด3 ต.ดูแลเกษตรกร8 ธ.ค."สมคิด"นั่งหัวโต๊ะถกแผนแก้สินค้าเกษตรตกต่ำ
"กฤษฎา"มอบนโยบาย3 ต.ดูแลเกษตรกร 8 ธ.ค. สมคิด นั่งหัวโต๊ะถกแผนแก้สินค้าเกษตรตกต่ำ
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังมอบนโยบายให้ผู้บริหารระดับกระทรวงว่า ไม่มีนโยบายใหม่ นโยบายเก่า ใช้ นโยบาย 3 ต คือ "ต่อ เติม แต่ง" ในการบริหาร ต่อ คือ นโยบายเก่ารัฐมนตรีว่าการฯ ดำเนินการดีอยู่แล้ว ก็ต่อให้ขยายไป หรือถ้าโครงการนั้นดี แต่ต้องใส่บุคลากรเพิ่ม ใส่งบประมาณเพิ่ม ก็เติมเข้าไป แต่ถ้านโยบายเก่าไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้ จะต้องตกแต่งลดหรือเพิ่ม เพื่อให้การดำเนินงานไปได้ แต่ที่สำคัญเน้นปฏิบัติงานที่หน้างาน หากเปรียบบริษัท คนที่อยู่หน้าเคาท์เตอร์เป็นส่วนสำคัญที่จะให้บริการลูกค้า เฉกเช่นเดียวกับข้าราชการกระทรวงเกษตรฯที่อยู่ประจำอำเภอและจังหวัด จะปรับโครงสร้างให้ทำงานร่วมบูรณาการได้อย่างแท้จริง เช่นกระทรวงมีนโยบายลดพื้นที่การทำสวนยาง แล้วจะเปลี่ยนให้ไปปลูกพืชอะไร กรมพัฒนาที่ดินจะต้องบอกได้ว่าดินตรงนั้นมีธาตุ สารอาหารอะไรบ้าง จะปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ เพื่อให้เหมาะสม กรมชลประทานต้องจัดสรรน้ำไปถึง เป็นต้น
[caption id="attachment_238852" align="aligncenter" width="503"]
OLYMPUS DIGITAL CAMERA[/caption]
"เพื่อลดขั้นตอนในการปฏิบัติงาน ให้ใช้มือถือ และแอพลิเคชั่นไลน์ในการติดต่อ ประสานงานได้เลย ไม่ต้องมีพิธีรีตอง เอาเรื่องผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และเน้นการทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ ในส่วนเรื่องยางพารา ก็ยังย้ำนโยบายเดิม คือ 1.ไม่นำเอายางในสต็อก จำนวน 1 แสนตันมาขายจะเร่งรัดให้ส่วนราชการนำไปใช้ 2.นโยบายเรื่องปุ๋ย ที่ชาวบ้านร้องว่าปุ๋ยที่แจกไม่ตรงกับความต้องการ ก็ปรับเปลี่ยนให้ชาวบ้านซื้อปุ๋ยเอง 3. การประมูลซื้อยางแข่งกับพ่อค้าในตลาดกลาง ไม่ใช่ที่ทำให้ราคาขึ้น จึงให้การบ้าน การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ไปหามาตรการอื่นแทน"
นายกฤษฎา เผยต่ออีกว่า ส่วนเรื่องการร่วมทุนกับบริษัทผู้ประกอบการใหญ่ ในนามบริษัท ร่วมทุนยางพารา จำกัด นั้น ที่ไปซื้อยางแข่งกับพ่อค้าในตลาด ให้ไปประเมินผลงานในวันที่ 6-7 ธันวาคมนี้ ว่าตกลงทำได้จริงหรือไม่ ส่วนในวันที่ 8 ธันวาคมนี้ จะมีการประชุมร่วมระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยมี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกด้านเศรษฐกิจมาเป็นประธานในที่ประชุม เพื่อหารือถึงการแก้ปัญหาราคาสินค้าว่าต่อไปนี้หากภาครัฐไปแนะนำให้เกษตรกรปลูกอะไรแล้วก็ควรจะขายได้
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังมอบนโยบายให้ผู้บริหารระดับกระทรวงว่า ไม่มีนโยบายใหม่ นโยบายเก่า ใช้ นโยบาย 3 ต คือ "ต่อ เติม แต่ง" ในการบริหาร ต่อ คือ นโยบายเก่ารัฐมนตรีว่าการฯ ดำเนินการดีอยู่แล้ว ก็ต่อให้ขยายไป หรือถ้าโครงการนั้นดี แต่ต้องใส่บุคลากรเพิ่ม ใส่งบประมาณเพิ่ม ก็เติมเข้าไป แต่ถ้านโยบายเก่าไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้ จะต้องตกแต่งลดหรือเพิ่ม เพื่อให้การดำเนินงานไปได้ แต่ที่สำคัญเน้นปฏิบัติงานที่หน้างาน หากเปรียบบริษัท คนที่อยู่หน้าเคาท์เตอร์เป็นส่วนสำคัญที่จะให้บริการลูกค้า เฉกเช่นเดียวกับข้าราชการกระทรวงเกษตรฯที่อยู่ประจำอำเภอและจังหวัด จะปรับโครงสร้างให้ทำงานร่วมบูรณาการได้อย่างแท้จริง เช่นกระทรวงมีนโยบายลดพื้นที่การทำสวนยาง แล้วจะเปลี่ยนให้ไปปลูกพืชอะไร กรมพัฒนาที่ดินจะต้องบอกได้ว่าดินตรงนั้นมีธาตุ สารอาหารอะไรบ้าง จะปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ เพื่อให้เหมาะสม กรมชลประทานต้องจัดสรรน้ำไปถึง เป็นต้น
[caption id="attachment_238852" align="aligncenter" width="503"]
"เพื่อลดขั้นตอนในการปฏิบัติงาน ให้ใช้มือถือ และแอพลิเคชั่นไลน์ในการติดต่อ ประสานงานได้เลย ไม่ต้องมีพิธีรีตอง เอาเรื่องผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และเน้นการทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ ในส่วนเรื่องยางพารา ก็ยังย้ำนโยบายเดิม คือ 1.ไม่นำเอายางในสต็อก จำนวน 1 แสนตันมาขายจะเร่งรัดให้ส่วนราชการนำไปใช้ 2.นโยบายเรื่องปุ๋ย ที่ชาวบ้านร้องว่าปุ๋ยที่แจกไม่ตรงกับความต้องการ ก็ปรับเปลี่ยนให้ชาวบ้านซื้อปุ๋ยเอง 3. การประมูลซื้อยางแข่งกับพ่อค้าในตลาดกลาง ไม่ใช่ที่ทำให้ราคาขึ้น จึงให้การบ้าน การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ไปหามาตรการอื่นแทน"
นายกฤษฎา เผยต่ออีกว่า ส่วนเรื่องการร่วมทุนกับบริษัทผู้ประกอบการใหญ่ ในนามบริษัท ร่วมทุนยางพารา จำกัด นั้น ที่ไปซื้อยางแข่งกับพ่อค้าในตลาด ให้ไปประเมินผลงานในวันที่ 6-7 ธันวาคมนี้ ว่าตกลงทำได้จริงหรือไม่ ส่วนในวันที่ 8 ธันวาคมนี้ จะมีการประชุมร่วมระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยมี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกด้านเศรษฐกิจมาเป็นประธานในที่ประชุม เพื่อหารือถึงการแก้ปัญหาราคาสินค้าว่าต่อไปนี้หากภาครัฐไปแนะนำให้เกษตรกรปลูกอะไรแล้วก็ควรจะขายได้
