ครม.รับทราบลงทะเบียนตลาดประชารัฐ1.2แสนรายดีเดย์ 5 ธ.ค.เปิดตลาด6.5พันแห่งทั่วไทย
ครม.รับทราบผลลงทะเบียนตลาดประชารัฐ 1.2 แสนราย ดีเดย์ 5 ธ.ค. เปิดตลาดพร้อมกัน 6,500 แห่งทั่วไทย
(4 ธ.ค. 60)--นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการตลาดประชารัฐ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงสาธารณสุข ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีวิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีจังหวัด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด
ทั้งนี้ ได้มีการบูรณาการตลาดประชารัฐทั้ง 9 ประเภท ได้แก่ 1.ตลาดประชารัฐ Green Market 2.ตลาดประชารัฐคนไทยยิ้มได้ 3.ตลาดประชารัฐท้องถิ่นสุขใจ 4.ตลาดประชารัฐ กทม.คืนความสุข 5.ตลาดประชารัฐของดีจังหวัด 6.ตลาดประชารัฐ Modern Trade 7.ตลาดประชารัฐของดีวิถีชุมชน ธ.ก.ส. 8.ตลาดประชารัฐต้องชม และ 9.ตลาดประชารัฐ ตลาดวัฒนธรรมถนนสายวัฒนธรรม เพื่อพัฒนาพื้นที่ตลาดใหม่ ขยายพื้นที่ตลาดเดิม และ/หรือเพิ่มวันทำการ เพื่อให้ผู้ประกอบการรายใหม่ได้มีโอกาสค้าขายต่อไป เป็นการส่งเสริมให้เกษตรกร ผู้มีรายได้น้อย และผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อนจากการไม่มีสถานที่ค้าขายให้มีพื้นที่การค้าขาย
สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทยได้เปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการตลาดประชารัฐ ตั้งแต่วันที่ 10-30 พ.ย.60 พบว่ามีผู้มาลงทะเบียนทั้งสิ้น 120,276 ราย แบ่งเป็น ภาคเหนือ 21,997 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 47,175 ราย ภาคกลาง 24,639 ราย ภาคตะวันออก 7,932 ราย ภาคใต้ 14,156 ราย และภาคใต้ชายแดน 4,377 ราย
โดยตลาดที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ ตลาดประชารัฐคนไทยยิ้มได้ รองลงมา คือ ตลาดประชารัฐท้องถิ่นสุขใจ และตลาดประชารัฐของดีจังหวัด ส่วนประเภทสินค้าที่นำมาจำหน่าย 3 ลำดับแรก คือ 1.สินค้าเกษตร ทั้งสิ้นเกษตรทั่วไป เกษตรอินทรีย์ และผักผลไม้ปลอดภัย ขณะที่ประเภทของผู้ประกอบการ 3 ลำดับแรก คือ 1.พ่อค้า/แม่ค้า 2.เกษตรกร และ 3.ผู้มีรายได้น้อย โดยจังหวัดที่มาลงทะเบียนสูงสุด 5 อันดับแรก คือ 1.กรุงเทพฯ 8,361 ราย 2.ศรีสะเกษ 5,828 ราย 3.นครราชสีมา 5,814 ราย 4.บุรีรัมย์ 4,228 ราย และ 5.สกลนคร 3,934 ราย
นายณัฐพร กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการ ทางกระทรวงมหาดไทยได้กำหนดให้หน่วยงานเจ้าของตลาดให้ความรู้ความเข้าใจในกติกาของตลาด แก่ผู้ประกอบการก่อนเปิดตลาด โดย ธ.ก.ส. จะเป็นหน่วยงานหลักในการให้องค์ความรู้เกี่ยวกับกติกาของแต่ละตลาดให้กับผู้ประกอบการ รวมทั้งให้ความรู้เชิงกลยุทธ์ทางการตลาด ทั้งระบบบัญชี และเทคนิคการขาย
อย่างไรก็ดี กระทรวงมหาดไทยมีกำหนดจะเปิดตลาดประชารัฐพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 5 ธ.ค.60 และให้เปิดขายพร้อมผู้ประกอบการรายใหม่จากโครงการตลาดประชารัฐ 6,500 แห่งพร้อมกันทั่วประเทศ โดยส่วนกลางกำหนดเปิดตลาดประชารัฐ ภายใต้งาน "ตลาดประชารัฐ สร้างโอกาส สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างความสุข" ระหว่างวันที่ 5-7 ธ.ค.60 ณ บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) มีความประสงค์บูรณาการโครงการตลาดการเคหะประชารัฐกับตลาดประชารัฐ เป็นตลาดประชารัฐประเภทที่ 10 ซึ่งหากกระทรวงมหาดไทย ได้รับหนังสือขอความประสงค์ร่วมเข้าภาคีเครือข่ายดังกล่าว จะได้นำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
(4 ธ.ค. 60)--นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการตลาดประชารัฐ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงสาธารณสุข ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีวิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีจังหวัด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด
ทั้งนี้ ได้มีการบูรณาการตลาดประชารัฐทั้ง 9 ประเภท ได้แก่ 1.ตลาดประชารัฐ Green Market 2.ตลาดประชารัฐคนไทยยิ้มได้ 3.ตลาดประชารัฐท้องถิ่นสุขใจ 4.ตลาดประชารัฐ กทม.คืนความสุข 5.ตลาดประชารัฐของดีจังหวัด 6.ตลาดประชารัฐ Modern Trade 7.ตลาดประชารัฐของดีวิถีชุมชน ธ.ก.ส. 8.ตลาดประชารัฐต้องชม และ 9.ตลาดประชารัฐ ตลาดวัฒนธรรมถนนสายวัฒนธรรม เพื่อพัฒนาพื้นที่ตลาดใหม่ ขยายพื้นที่ตลาดเดิม และ/หรือเพิ่มวันทำการ เพื่อให้ผู้ประกอบการรายใหม่ได้มีโอกาสค้าขายต่อไป เป็นการส่งเสริมให้เกษตรกร ผู้มีรายได้น้อย และผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อนจากการไม่มีสถานที่ค้าขายให้มีพื้นที่การค้าขาย
สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทยได้เปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการตลาดประชารัฐ ตั้งแต่วันที่ 10-30 พ.ย.60 พบว่ามีผู้มาลงทะเบียนทั้งสิ้น 120,276 ราย แบ่งเป็น ภาคเหนือ 21,997 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 47,175 ราย ภาคกลาง 24,639 ราย ภาคตะวันออก 7,932 ราย ภาคใต้ 14,156 ราย และภาคใต้ชายแดน 4,377 ราย
โดยตลาดที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ ตลาดประชารัฐคนไทยยิ้มได้ รองลงมา คือ ตลาดประชารัฐท้องถิ่นสุขใจ และตลาดประชารัฐของดีจังหวัด ส่วนประเภทสินค้าที่นำมาจำหน่าย 3 ลำดับแรก คือ 1.สินค้าเกษตร ทั้งสิ้นเกษตรทั่วไป เกษตรอินทรีย์ และผักผลไม้ปลอดภัย ขณะที่ประเภทของผู้ประกอบการ 3 ลำดับแรก คือ 1.พ่อค้า/แม่ค้า 2.เกษตรกร และ 3.ผู้มีรายได้น้อย โดยจังหวัดที่มาลงทะเบียนสูงสุด 5 อันดับแรก คือ 1.กรุงเทพฯ 8,361 ราย 2.ศรีสะเกษ 5,828 ราย 3.นครราชสีมา 5,814 ราย 4.บุรีรัมย์ 4,228 ราย และ 5.สกลนคร 3,934 ราย
นายณัฐพร กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการ ทางกระทรวงมหาดไทยได้กำหนดให้หน่วยงานเจ้าของตลาดให้ความรู้ความเข้าใจในกติกาของตลาด แก่ผู้ประกอบการก่อนเปิดตลาด โดย ธ.ก.ส. จะเป็นหน่วยงานหลักในการให้องค์ความรู้เกี่ยวกับกติกาของแต่ละตลาดให้กับผู้ประกอบการ รวมทั้งให้ความรู้เชิงกลยุทธ์ทางการตลาด ทั้งระบบบัญชี และเทคนิคการขาย
อย่างไรก็ดี กระทรวงมหาดไทยมีกำหนดจะเปิดตลาดประชารัฐพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 5 ธ.ค.60 และให้เปิดขายพร้อมผู้ประกอบการรายใหม่จากโครงการตลาดประชารัฐ 6,500 แห่งพร้อมกันทั่วประเทศ โดยส่วนกลางกำหนดเปิดตลาดประชารัฐ ภายใต้งาน "ตลาดประชารัฐ สร้างโอกาส สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างความสุข" ระหว่างวันที่ 5-7 ธ.ค.60 ณ บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) มีความประสงค์บูรณาการโครงการตลาดการเคหะประชารัฐกับตลาดประชารัฐ เป็นตลาดประชารัฐประเภทที่ 10 ซึ่งหากกระทรวงมหาดไทย ได้รับหนังสือขอความประสงค์ร่วมเข้าภาคีเครือข่ายดังกล่าว จะได้นำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
