สัญญาณดี!สินเชื่อขยับ เอสเอ็มอี-บ้าน-ส่วนบุคคลฟื้น ค้าปลีกยังแย่กำลังซื้อชะลอ
ชี้เทรนด์“เอสเอ็มอีไซซ์เล็ก-ส่วนบุคคล-บ้าน” ความต้องการสินเชื่อขยับรับโค้งท้ายต่อเนื่องถึงปีหน้า โดยเฉพาะตลาดรีไฟแนนซ์ เหตุแบงก์ไม่มั่นใจผู้กู้รายใหม่ ค่ายทหารไทยจับตาหนี้กลุ่มค้าปลีกจ่อเน่า หวั่นลามเป็นเอ็นพีแอลสะท้อนเศรษฐกิจภูมิภาคยังซบเซา
นายลือชัย ชัยปริญญา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ผู้บริหารสายงาน สายงานธุรกิจรายย่อย และเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า แนวโน้มความต้องการสินเชื่อไตรมาส 4 ของปีนี้ และปี 2561 เริ่มฟื้นตัว มีการขยายตัว 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดเล็ก ซึ่งเป็นผลจากนโยบายภาครัฐโดยผ่านบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) 3-4 มาตรการทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยมีช่องทางหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยตํ่า
[caption id="attachment_238095" align="aligncenter" width="503"]
ลือชัย ชัยปริญญา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ผู้บริหารสายงาน สายงานธุรกิจรายย่อย และเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)[/caption]
2.กลุ่มสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีแนวโน้มขยับเพิ่มสูงขึ้นจากที่ผ่านมา โดยแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นพอสมควรตามเทศกาลปลายปีและปีใหม่แม้จะมีมาตรการกำกับดูแลจากทางการ และ 3.สินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ที่จะเริ่มเห็นผู้ประกอบการทุกค่ายทยอยออกโปรโมชันเพื่อปิดยอดขายปลายปี ขณะที่ธนาคารทุกแห่งย่อมมีส่วนร่วมและความต้องการของผู้บริโภคเองในช่วงปลายปีซึ่งน่าจะต่อเนื่องไปถึงต้นปีหน้า
นอกจากนี้หัวเมืองใหญ่ และทำเลที่ทางการมีจุดโฟกัสด้านการลงทุนต่างๆรวมทั้งแนวรถไฟฟ้า และการค้าชายแดนยังเป็นจุดแข็งสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เช่น โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี มีความตื่นตัวด้านที่อยู่อาศัยทั้งทบทวนโครงการเก่าและโครงการลงทุนใหม่ โดยทั้งในฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง จะมีเจ้าของที่ดินที่เข้าไปถือครองแล้วมากกว่า 70% แนวโน้มจะเห็นอสังหาริมทรัพย์เปลี่ยนทั้งแนวดิ่งและศูนย์การค้า
“ปีหน้าสถานการณ์แข่งขันตลาดสินเชื่อยังรุนแรงเช่นเดิม เพราะแบงก์ดูคุณภาพลูกค้า เช่น รีไฟแนนซ์บ้านน่าจะยังมีอยู่เพราะแบงก์ไม่มั่นใจรายใหม่ โดยเฉพาะรายเก่าที่ประวัติผ่อนชำระดี จะมีหลายแห่งถูกรีไฟแนนซ์ ส่วนเอ็นพีแอลนั้นแนวโน้มของกรุงไทยเพิ่มในอัตราชะลอเชื่อว่าปีหน้าจะปรับลดมากกว่า เนื่องจากแบงก์จะมีกระบวนการช่วยลูกค้าทั้งปรับโครงสร้างหนี้ ขายทรัพย์หลักประกันและบ้างก็ดำเนินคดี และอีกปัจจัยคือลูกหนี้รายกลางหลายรายฟื้นตัวได้”
ภาพรวมสินเชื่อสุทธิหลังผ่าน 10 เดือนแรกของปีนี้จะมีอัตราเติบโตเพียง 1.86% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน จากสินเชื่อในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ที่ยังโตตํ่ากว่าคาด แต่ในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ โดยธนาคารกสิกรไทย คาดว่าอัตราการขยายตัวของสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ไทยจะขยายตัวเร่งขึ้นในทุกประเภทสินเชื่อ เป็นไปตามปัจจัยฤดูกาลและแผนการเบิกใช้สินเชื่อปกติ
อีกทั้งยังมีแรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐช่วงท้ายปี และความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยที่มีสัญญาณการเติบโตดีขึ้นกว่าที่คาดไว้ ทำให้เชื่อว่าสินเชื่อในปีนี้ยังขยายตัวตามเป้าที่ 4% โดยสินเชื่อภาคธุรกิจน่าจะกลับมาเบิกใช้วงเงินสูงขึ้นและสินเชื่อรายย่อยจะมีแรงขับเคลื่อนทั้งจากสินเชื่อเช่าซื้อ
[caption id="attachment_131241" align="aligncenter" width="503"]
นริศ สถาผลเดชา ผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (บมจ.) หรือ ทีเอ็มบี[/caption]
นายนริศ สถาผลเดชา ผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี กล่าวว่าตัวเลขไตรมาส 3 ปี 2560 ที่ผ่านมาจะเห็นว่า กลุ่มเอสเอ็มอีและรีเทลความต้องการสินเชื่อชะลอตัว โดยกลุ่มรีเทลทั้งสินเชื่อบ้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลยกเว้นเช่าซื้อ ขณะที่เอ็นพีแอลสินเชื่อบ้านขยับเป็น 3.3% จากปี 2557 อยู่ที่ 2.2%ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นทุกไตรมาสจึงต้องจับตาต่อเนื่อง
ส่วนเอสเอ็มอีนั้นที่ผ่านมาเอ็นพีแอล 50% อยู่ในกลุ่มเอสเอ็มอีโดยเฉพาะสินเชื่อที่กล่าวถึงเป็นพิเศษ(SM)ในกลุ่มค้าปลีกค้าส่งไตรมาส 3 อยู่ที่ 3.3% จึงมีแนวโน้มเพิ่มต่อจากที่เป็นเอ็นพีแอลแล้วที่ระดับ 5.5% ซึ่งภาคการค้าดังกล่าวสะท้อนเศรษฐกิจภูมิภาคยังซบเซา
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,319 วันที่ 3 - 6 ธันวาคม พ.ศ. 2560
นายลือชัย ชัยปริญญา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ผู้บริหารสายงาน สายงานธุรกิจรายย่อย และเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า แนวโน้มความต้องการสินเชื่อไตรมาส 4 ของปีนี้ และปี 2561 เริ่มฟื้นตัว มีการขยายตัว 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดเล็ก ซึ่งเป็นผลจากนโยบายภาครัฐโดยผ่านบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) 3-4 มาตรการทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยมีช่องทางหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยตํ่า
[caption id="attachment_238095" align="aligncenter" width="503"]
2.กลุ่มสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีแนวโน้มขยับเพิ่มสูงขึ้นจากที่ผ่านมา โดยแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นพอสมควรตามเทศกาลปลายปีและปีใหม่แม้จะมีมาตรการกำกับดูแลจากทางการ และ 3.สินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ที่จะเริ่มเห็นผู้ประกอบการทุกค่ายทยอยออกโปรโมชันเพื่อปิดยอดขายปลายปี ขณะที่ธนาคารทุกแห่งย่อมมีส่วนร่วมและความต้องการของผู้บริโภคเองในช่วงปลายปีซึ่งน่าจะต่อเนื่องไปถึงต้นปีหน้า
นอกจากนี้หัวเมืองใหญ่ และทำเลที่ทางการมีจุดโฟกัสด้านการลงทุนต่างๆรวมทั้งแนวรถไฟฟ้า และการค้าชายแดนยังเป็นจุดแข็งสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เช่น โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี มีความตื่นตัวด้านที่อยู่อาศัยทั้งทบทวนโครงการเก่าและโครงการลงทุนใหม่ โดยทั้งในฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง จะมีเจ้าของที่ดินที่เข้าไปถือครองแล้วมากกว่า 70% แนวโน้มจะเห็นอสังหาริมทรัพย์เปลี่ยนทั้งแนวดิ่งและศูนย์การค้า
“ปีหน้าสถานการณ์แข่งขันตลาดสินเชื่อยังรุนแรงเช่นเดิม เพราะแบงก์ดูคุณภาพลูกค้า เช่น รีไฟแนนซ์บ้านน่าจะยังมีอยู่เพราะแบงก์ไม่มั่นใจรายใหม่ โดยเฉพาะรายเก่าที่ประวัติผ่อนชำระดี จะมีหลายแห่งถูกรีไฟแนนซ์ ส่วนเอ็นพีแอลนั้นแนวโน้มของกรุงไทยเพิ่มในอัตราชะลอเชื่อว่าปีหน้าจะปรับลดมากกว่า เนื่องจากแบงก์จะมีกระบวนการช่วยลูกค้าทั้งปรับโครงสร้างหนี้ ขายทรัพย์หลักประกันและบ้างก็ดำเนินคดี และอีกปัจจัยคือลูกหนี้รายกลางหลายรายฟื้นตัวได้”
ภาพรวมสินเชื่อสุทธิหลังผ่าน 10 เดือนแรกของปีนี้จะมีอัตราเติบโตเพียง 1.86% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน จากสินเชื่อในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ที่ยังโตตํ่ากว่าคาด แต่ในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ โดยธนาคารกสิกรไทย คาดว่าอัตราการขยายตัวของสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ไทยจะขยายตัวเร่งขึ้นในทุกประเภทสินเชื่อ เป็นไปตามปัจจัยฤดูกาลและแผนการเบิกใช้สินเชื่อปกติ
อีกทั้งยังมีแรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐช่วงท้ายปี และความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยที่มีสัญญาณการเติบโตดีขึ้นกว่าที่คาดไว้ ทำให้เชื่อว่าสินเชื่อในปีนี้ยังขยายตัวตามเป้าที่ 4% โดยสินเชื่อภาคธุรกิจน่าจะกลับมาเบิกใช้วงเงินสูงขึ้นและสินเชื่อรายย่อยจะมีแรงขับเคลื่อนทั้งจากสินเชื่อเช่าซื้อ
[caption id="attachment_131241" align="aligncenter" width="503"]
นายนริศ สถาผลเดชา ผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี กล่าวว่าตัวเลขไตรมาส 3 ปี 2560 ที่ผ่านมาจะเห็นว่า กลุ่มเอสเอ็มอีและรีเทลความต้องการสินเชื่อชะลอตัว โดยกลุ่มรีเทลทั้งสินเชื่อบ้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลยกเว้นเช่าซื้อ ขณะที่เอ็นพีแอลสินเชื่อบ้านขยับเป็น 3.3% จากปี 2557 อยู่ที่ 2.2%ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นทุกไตรมาสจึงต้องจับตาต่อเนื่อง
ส่วนเอสเอ็มอีนั้นที่ผ่านมาเอ็นพีแอล 50% อยู่ในกลุ่มเอสเอ็มอีโดยเฉพาะสินเชื่อที่กล่าวถึงเป็นพิเศษ(SM)ในกลุ่มค้าปลีกค้าส่งไตรมาส 3 อยู่ที่ 3.3% จึงมีแนวโน้มเพิ่มต่อจากที่เป็นเอ็นพีแอลแล้วที่ระดับ 5.5% ซึ่งภาคการค้าดังกล่าวสะท้อนเศรษฐกิจภูมิภาคยังซบเซา
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,319 วันที่ 3 - 6 ธันวาคม พ.ศ. 2560
