จากการประกวดผลงานความคิดสร้างสรรค์ สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม ภายในงาน Internet of Things 2017 ซึ่งหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจและสื่อในเครือสปริงนิวส์ กรุ๊ป ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดขึ้น ทีมจากสถาบัน RoboMind Learning Center เชียงใหม่ ผู้นำเสนอนวัตกรรม : Grow Bot เครื่องเพาะต้นกล้าอัตโนมัติ ได้รับรางวัลที่ 3 จากการตัดสิน
Grow Bot เป็นเครื่องเพาะต้นกล้า ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมนำระบบ IoT มาเชื่อมต่อ ช่วยจัดเก็บข้อมูล รวมถึงกระบวนการทำงาน เช่น ควบคุมเปิด-ปิดนํ้า แจ้งเตือนนํ้าหมด เป็นต้น และสามารถแสดงค่าผ่านมอนิเตอร์บนสมาร์ทโฟน โดยใช้การส่งข้อมูลไปที่ PointzNet IoT Platform
สำหรับโปรเจ็กต์ Grow Bot เป็นผลงานของน้องๆ จาก สถาบัน RoboMind Learning Center ศูนย์เรียนรู้ ที่จังหวัดเชียงใหม่ เด็กๆ ทั้ง 5 คน ได้แก่ 1.เด็กหญิง ชวิศา ไทรตระกูล 2. เด็กหญิง อริสา ไทรตระกูล 3. เด็กชาย ปัณณวิชญ์ ระมิงค์วงศ์ 4. เด็กชาย พศิน เกิดดี 5. เด็กชาย ภูมิใจ จุลเดชะ และครูที่ปรึกษา อภิรัตน์ เบญจวรรณ หรือครูเบน เด็กๆ จัดทำโปรเจ็กต์ภายใต้ Key Word : Best new boncare
“พวกเขาตั้งประเด็นคำถามขึ้นมา แล้วคิดหาทางแก้ไขปัญหานั้น โปรเจ็กต์นี้เกิดจากปัญหาที่ว่า คนเรามีเวลาจำกัด เพราะต้องเรียน ต้องทำงาน แต่อยากปลูกต้นไม้ ซึ่งต้องการการดูแล อุปกรณ์หรือเครื่องมือที่มีอยู่ในตลาด ส่วนใหญ่จะเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่ และมีราคาสูง Grow Bot จึงคิดและพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านั้น” ครูเบนอธิบาย
Grow Bot เป็นอุปกรณ์ช่วยปลูกผักสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลมาก ระบบการปลูกผักอัจฉริยะด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ โซลาร์เซลล์ช่วยเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ และถ่ายทอดสู่พาวเวอร์แบงก์ เพื่อส่งไปยัง Grow Bot โดยจะมีการเก็บรวบรวมข้อมูล และแสดงผลไปยังสมาร์ทโฟน แท็บเลตหรือคอมพิวเตอร์ มีการแสดงจำนวนครั้งที่ลดนํ้า ปริมาณนํ้าที่เพียงพอต่อการเพาะปลูกผ่าน ทางแท็บเลต หรือสมาร์ทโฟน หากปริมาณนํ้าที่เหลือน้อยเกินไป จะมีการแจ้งเตือนไปยังแท็บเลตเพื่อให้เราเติมนํ้า รวมถึงมีการวัดค่าแสงมีระบบช่วยวัดความชื้นในดินและอากาศ ที่เหมาะสมต่อการปลูกพืชได้อัตโนมัติ
“แค่ใส่ดิน ใส่เมล็ดพันธุ์ เข้าไป แล้วเครื่องมันก็จะปลูกให้เรา” ครูเบนอธิบายเพิ่มเติม “อนาคต เด็กๆ กำลังพัฒนาที่ใส่ปุ๋ย พร้อมมีการวัดอุณหภูมิสำหรับพืชเมืองหนาว และทำแพ็กเกจ มีแท็งก์นํ้าใหญ่ และแท็งก์นํ้าเล็ก เราทำเป็น IoT แสดงผลไปที่แพลต ฟอร์ม และโน้ตบุ๊ก ดูว่าลดนํ้าไปกี่รอบ เหลือนํ้าเท่าไรในแท็งก์ ให้เครื่องดูแลได้เลย กลางคืนก็จะเปิดไฟให้”
สำหรับ Grow Bot เครื่องนี้ ถือเป็น Prototype ที่จะนำมาพัฒนาต่อ โดยใช้งบลงทุนประมาณ 2,500 บาท ซึ่งขณะนี้มีเอกชนทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจ อนาคตจะมีการพัฒนาขึ้นเป็นอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน และวางจำหน่าย สำหรับคนที่อยากปลูกต้นไม้ รักธรรมชาติ แต่ไม่มีเวลาและไม่มีสถานที่มากนัก
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,318
วันที่ 30 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม พ.ศ. 2560