MBK ทุ่มพันล้าน ลุยโรงแรมใหม่

25 พ.ย. 2560 | 09:29 น.
“เอ็มบีเค” รุกลงทุนโรงแรมรับท่องเที่ยวโตทุ่ม 1 พันล้าน ลุยเปิด 2 โรงแรมใหม่ทินิดี ปทุมธานี-บุกเบิกโฮสเทลและยกระดับดุสิตธานี กระบี่ ผุดพูลวิลล่า 40 หลัง ปั้นแบรนด์ฟิตเนส สปา ต่อยอดธุรกิจอาหาร

นางสาวอาทร วนาสันตกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็มบีเค โฮเต็ล แอนด์ ทัวร์ริซึ่ม จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในขณะนี้เอ็มบีเค มีแผนขยายการลงทุนสร้างโรงแรมใหม่และขยายห้องพักโซนใหม่ในไทย ใน 3 พื้นที่บนที่ดินที่มีอยู่แล้ว มูลค่าการลงทุนราว 1 พันล้านบาท รวมไปถึงขยายการลงทุนธุรกิจเกี่ยวเนื่องรองรับการขยายตัวการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง หลังจากมีโรงแรมเปิดให้บริการอยู่แล้ว 5 แห่ง ซึ่งพบว่ามีรายได้เติบโตไม่ตํ่ากว่า 8 %

[caption id="attachment_234464" align="aligncenter" width="503"] อาทร วนาสันตกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็มบีเค โฮเต็ล แอนด์ ทัวร์ริซึ่ม จำกัด อาทร วนาสันตกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็มบีเค โฮเต็ล แอนด์ ทัวร์ริซึ่ม จำกัด[/caption]

“การลงทุนสร้างโรงแรมใหม่ จึงมั่นใจว่าจะช่วยขยายฐานการสร้างรายได้ในกลุ่มธุรกิจโรงแรม ซึ่งเป็น 1 ใน 8 กลุ่มธุรกิจของเอ็มบีเค กรุ๊ป ได้เพิ่มขึ้น จากปีนี้ที่คาดว่ากลุ่มธุรกิจโรงแรม จะมีรายได้อยู่ที่ราว 1,300 ล้านบาท”

ทั้งนี้การลงทุนใน 3 โรงแรมที่จะเกิดขึ้น ได้แก่ ทินิดี โฮเต็ล แอท บางกอก กอล์ฟ ที่จ. ปทุมธานี ลงลงทุน 150 ล้านบาท การปรับปรุงบางกอก กอล์ฟ สปา รีสอร์ทเดิม คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า มีห้องพัก 128 ห้อง เป็นโรงแรมในสนามกอล์ฟ ซึ่งมีจุดเด่นตรงที่มีคลับ เฮาส์อยู่ติดกับโรงแรม ทำให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เหมือนระดับ 5 ดาว เช่น ฟิตเนส เซ็นเตอร์ สนามเทนนิส สระว่ายนํ้า

นางสาวอาทร ยังกล่าวอีกว่า มีแผนจะนำที่ดิน 50 ไร่ บนหาดต้นไทร จ.กระบี่ ซึ่งเป็นหาดส่วนตัว มาพัฒนาที่พักเริ่มในพื้นที่ 30 ไร่ ลงทุนราว 30 ล้านบาท คาดว่าจะใช้แบรนด์ทินีดี โดยจะสร้างเป็นบังกะโลจำนวน 15 หลัง และห้องพักแบบโฮสเทล จำนวน 30 เตียง ซึ่งรูปแบบธุรกิจใหม่เน้นเจาะกลุ่มวัยรุ่น หรือนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัย แบ่งห้องออกเป็น 8 เตียง หรือบางห้องจะมี 4 เตียง มีพื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงกลางปีหน้า เพื่อทดลองตลาด

ขณะเดียวกันที่จังหวัดกระบี่ยังมีแผนลงทุนสร้างห้องพักแบบพูล วิลล่า ที่เรียกว่า “ดุสิตธานี วิลล่า” จำนวน 40 หลัง ลงทุนราว 800 ล้านบาท เฉลี่ยการลงทุนหลังละ 20 ล้านบาท บนพื้นที่ว่างเปล่าราว 20-25 ไร่ ในโรงแรมดุสิตธานี กระบี่ รองรับลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง และกลุ่มผู้สูงอายุ โดยจะขายห้องพักไม่ตํ่ากว่า 1 หมื่นบาทต่อคืน เริ่มก่อสร้างปีหน้า คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปี 2562 ซึ่งโครงการนี้ เอ็มบีเค อยู่ระหว่างพิจารณาว่าอาจนำบางหลังมาขายแบบ Lease Hold แล้วให้คนซื้อไปมาปล่อยเช่าให้เราต่อหรือจะทำโรงแรมของเราเองทุกหลัง

บาร์ไลน์ฐาน การพัฒนาโรงแรมของเอ็มบีเค จะมองถึงการพัฒนาที่จะสร้างจุดขายในแต่ละโรงแรม ให้ตอบสนองกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน และสอดคล้องกับรูปแบบการท่องเที่ยวในยุคปัจจุบัน เพื่อตอบสนองการให้บริการลูกค้าได้ทุกกลุ่ม เช่น ทินิดี โฮเต็ล แอท ระนอง นอกจากดึงจุดเด่นเรื่องนํ้าแร่ในโรงแรม มาเจาะกลุ่มการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และมองไปถึงการเชื่อมโยงการขายกับเมียนมา เช่นมาพักที่โรงแรม แล้วเดินทางไปดำนํ้าที่เกาะนาวโอพี หรือเที่ยวหัวใจมรกต ของเมียนมา ซึ่งกำลังเป็นแหล่งดำนํ้ายอดนิยมที่ยังคงความสวยงามมาก ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชอบดำนํ้าได้อีกตลาดหนึ่งด้วย

นางสาวอาทร ยังกล่าวต่อว่า นอกจากการขยายการลงทุนสร้างโรงแรมใหม่ ในอนาคตยังมองถึงการรับจ้างบริหารจัดการโรงแรมภายใต้แบรนด์ทินิดี ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เอ็มบีเค พัฒนาขึ้น รวมถึงการสร้างแบรนด์ใหม่ที่มองไว้ในระดับ 4 ดาว ทั้งยังมีแผนจะขยายการลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ได้แก่ ฟิตเนส, สปา, ร้านอาหารเกาหลี ซึ่งบริการเหล่านี้ที่ให้บริการอยู่ภายในโรงแรมต่างๆของเอ็มบีเค ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีและได้รับรางวัลต่างๆ มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ดิโอลิมปิค คลับ ฟิตเนส และห้องอาหารคองจู ของโรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส และลยานะสปา ที่ลยานะ รีสอร์ท แอนด์ สปา กระบี่ ทำให้มองว่าสามารถนำมาต่อยอดในการขยายสาขาออกไปบริการนอกโรงแรม หรือแม้แต่การรับจ้างบริหารในธุรกิจเกี่ยวเนื่องเหล่านี้

ส่วนการขยายธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศ ทางเอ็มบีเค ยังมองโอกาสทั้งในแง่ของการลงทุนและการรับบริหาร โดยมองว่าน่าจะเป็นทำเลในภูมิภาคเอเชีย ที่อาจจะเป็นญี่ปุ่น เมียนมา ไต้หวัน เวียดนาม รวมทั้งบริษัทยังได้ร่วมลงทุนกับทาง บริษัท เอ็มบีเค ฟู้ด เซอร์วิส จำกัด ในการสร้างครัวกลางขึ้นมา ที่จังหวัดปทุมธานี ที่จะเปิดในต้นปีหน้าในนามเอ็มบีเค ฟู้ด เซอร์วิส เพื่อส่งวัตถุดิบ อาทิ ผัก ผลไม้ ให้แก่ธุรกิจอาหารในเครือ ไม่ว่าจะเป็น ร้านสุกี้ ร้านอาหารญี่ปุ่น รวมถึงส่งวัตถุดิบป้อนแก่โรงแรมของบริษัทด้วย นอกจากนี้ยังมีการทำซอสต่างๆเช่น นํ้าผัดไทย รวมทั้งหมูแดง หมูกรอบ เป็ดย่าง ส่งด้วยซึ่งการตั้งครัวกลาง จะเป็นการควบคุมมาตรฐานในการประกอบอาหารและควบคุมต้นทุนได้ด้วย นางสาวอาทร กล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,316 วันที่ 23 - 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว