ชาวบ้านทุ่งพระ จ.ชัยภูมิร้องศูนย์ดำรงธรรม คัดค้านขอใช้ประโยชน์พื้นที่ทำเหมืองแร่หินก่อสร้าง ของบริษัท พารุ่งฯ หลังคณะกรรมการตรวจสอบไฟเขียว ส่งให้กรมป่าไม้พิจารณา ชี้ส่งผลกระทบสิ่งแวดล้อม ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรมยันขั้นตอนให้ประทานบัตรทำเหมืองยังอีกนาน
[caption id="attachment_108700" align="aligncenter" width="400"]
สุรพล ชามาตย์[/caption]
นายสุรพล ชามาตย์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ”ว่า กรณีที่บริษัท พารุ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ยื่นขอประทานบัตร ในการทำเหมืองแร่อุตสาหกรรมชนิดหินปูน เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง ในท้องที่ตำบลทุ่งพระ อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ เนื้อที่กว่า 660 ไร่ ซึ่งได้มีกลุ่มชาวบ้านออกมาคัดค้านการทำเหมืองแร่นั้น ขณะนี้การดำเนินงานดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงานตามข้อกำหนดทางกฎหมายในการทำเหมืองแร่ ที่จะต้องจัดทำรายงานศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) ซึ่งขณะนี้ยังไม่เสร็จ
รวมทั้ง การขอใช้ประโยชน์ในพื้นที่จะต้องได้รับการอนุมัติจากกรมป่าไม้ ซึ่งขณะนี้ทราบว่าอยู่ในขั้นตอนพิจารณาอยู่ โดยมองว่ากว่าจะมาถึงขั้นตอนการอนุมัติใบประทานบัตรจากกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่(กพร.) ยังคงต้องใช้เวลาอีกนาน เพราะกรมป่าไม้ และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) คงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากมีผู้คัดค้านเกิดขึ้น
ขณะที่ตัวแทนชาวบ้านรายหนึ่ง กล่าวว่า เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กลุ่มชาวบ้านได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านผลการตรวจสอบการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ทำเหมืองแร่ ของคณะกรรมการพิจารณาเรื่องราวขออนุญาตเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติของบริษัท พารุ่งฯ โดยมีปลัดจังหวัดชัยภูมิประธาน และมีมติออกมาเห็นควรอนุญาต เพื่อส่งให้กรมป่าไม้พิจารณาโดยอ้างเป็นป่าเสื่อมโทรม ขัดกับสภาพป่าไม้ที่เป็นจริง เนื่องจากกำลังจะเป็นพื้นที่ที่จะผนวกกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าผาผึ้งเพิ่มเติม
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,315 วันที่ 19 - 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560