‘คิงเพาเวอร์’ ติดบ่วง! สื่อนอกตีข่าวศาลปราบโกงรับฟ้อง - ทอท. ทำรัฐสูญ 1.4 หมื่นล้าน

16 พ.ย. 2560 | 04:56 น.
1107

สื่อนอกตีข่าวฉาว! ศาลปราบโกงรับคดี “ชาญชัย” ฟ้อง ทอท. อุ้ม “คิงเพาเวอร์” ปมจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าสัญญา ทำรัฐสูญ 1.4 หมื่นล้าน ร้องลงโทษผู้กระทำผิดและริบเงินคืนแผ่นดิน นัดตรวจพยานหลักฐาน 12 ก.พ. 61 คาดไต่สวนนัดแรก มี.ค.

สำนักข่าวต่างประเทศ อย่าง รอยเตอร์ และเดอะ การ์เดี้ยน ของอังกฤษ ได้รายงานข่าวการรับฟ้องของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2560 กรณีมีคำสั่งรับฟ้องคดีที่ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการ ด้านกลไกการปราบปรามการทุจริต คณะกรรมาธิการวิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องผู้บริหารของ บริษัท ท่าอากาศยาน จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และกลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ฯ ซึ่งมี นายวิชัย ศรีวัฒนประภา และครอบครัว เป็นเจ้าของ โดยกล่าวหาว่า คิงเพาเวอร์จ่ายเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่รัฐไม่ครบ 14,000 ล้านบาท ภายใต้สัญญาสัมปทานที่ได้รับจาก ทอท. ในปี 2549 โดยจ่ายให้แก่รัฐเพียง 3% ของรายได้ จากที่ควรจะจ่าย 15%

รอยเตอร์ ระบุว่า ได้ติดต่อขอความเห็นจาก ‘คิงเพาเวอร์ และ ทอท.’ ภายหลังจากที่ศาลมีคำสั่งรับฟ้องเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถติดต่อทั้ง 2 ฝ่ายได้ ขณะที่ เดอะ การ์เดี้ยน นำเสนอถ้อยแถลงของ นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทและรองประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ หลังรับทราบการตัดสินใจของศาล ว่า บริษัททำธุรกิจด้วยมาตรฐานสูงสุดและด้วยจริยธรรม ภูมิใจในภาพลักษณ์และชื่อเสียงด้านความซื่อสัตย์สุจริต ดังนั้น จะต่อสู้อย่างถึงที่สุด


King_Power

สื่อต่างประเทศ ยังระบุว่า ‘คิงเพาเวอร์’ ก่อตั้งโดย นายวิชัย นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการก่อสร้างตัวในปี 2532 ต่อมาในปี 2549 ธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีของกลุ่มมีการเติบโตอย่างมาก เมื่อได้รับสัมปทานผูกขาดการเปิดร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงที่ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ แม้กระทั่งเมื่อเกิดการปฏิวัติโค่นอำนาจรัฐบาลทักษิณแล้ว ธุรกิจของ ‘คิงเพาเวอร์’ ก็ยังคงรุดหน้าด้วยดี หลังจากนั้น นายวิชัยได้ซื้อ ‘เลสเตอร์ ซิตี้’ ในเดือน ส.ค. 2553 ทั้งนี้ อาณาจักรธุรกิจของครอบครัวศรีวัฒนประภายังรวมถึง ‘สโมสรฟุตบอลเอาด์ เฮเวเลย์ เลอเวิน (OHL) ในเบลเยียม’ ยังมีหุ้นใหญ่สายการบินเอเชีย เอวิเอชั่น ผู้ให้บริการสายการบินโลว์คอสต์ ‘ไทยแอร์เอเชีย’

กรณีนายวิชัยถือหุ้นใหญ่ ‘เลสเตอร์ ซิตี้’ ต้องจับตามอง เนื่องจากต้องทำตามหลักเกณฑ์ Fit and Proper Person Test ตรวจสอบเงินทุนที่จะมาเทกโอเวอร์ หรือ ซื้อหุ้นเกิน 30% ได้ระบุว่า นายทุนต้องไม่เกี่ยวข้องในคดีฉ้อโกง ดังนั้น การที่ศาลอาญาคดีทุจริตรับฟ้องจะทำให้นายวิชัยพ้นสภาพเจ้าของหรือไม่

| คาดไต่สวนนัดแรก มี.ค. 61 |
ศาลคดีทุจริตรับฟ้องคดีของนายชาญชัย ที่ใช้สิทธิในฐานะผู้ถือหุ้น ฟ้อง ทอท. ยื่นฟ้อง นายประสงค์ พูนธเนศ ประธานบอร์ด ทอท. กับพวกรวม 18 คน ในข้อหาหรือฐานความผิดเป็นพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นกรรมการหรือผู้บริหาร ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต จนเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย หรือทำให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์จากการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว โดยได้กระทำโดยทุจริต เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัท กระทำการหรือไม่กระทำการ เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อตนเองหรือผู้อื่น เป็นการเสียหายแก่บริษัท ไว้พิจารณาไต่สวนมูลฟ้อง


แบนเนอร์วิทยุฐานเศรษฐกิจ

ศาลเห็นว่า คดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตฯ ตามมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559 และนัดคู่ความให้มาศาล เพื่อรวบรวมพยานเอกสาาร หลักฐาน บัญชีพยานบุคคล วันที่ 16 ม.ค. 2561 เวลา 09.00 น. และนัดตรวจสอบพยานหลักฐาน วันที่ 12 ก.พ. 2561 เวลา 09.00 น.

“คาดว่า ศาลฯ จะนัดไต่สวนนัดแรกได้ภายในเดือน มี.ค. ปีหน้า” แหล่งข่าว ระบุ


TP01-3314-C

สำหรับคดีนี้ นายชาญชัยยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา กรณีมีการตรวจสอบร่วมกันกระทำผิดข้อสัญญาที่ก่อหรือเอื้อประโยชน์ให้เอกชนได้รับผลประโยชน์เกินกว่าที่สัญญาระบุไว้ จากการที่สัญญาระหว่าง ทอท. กับ กลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ฯ ให้เก็บรายได้เข้ารัฐ 15% จากยอดการขายสินค้าหรือบริการที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่คณะกรรมการอนุมัติให้เก็บเพียง 3% ก่อให้เกิดความเสียหายกับรัฐมูลค่ากว่า 14,290 ล้านบาท จึงขอให้ศาลฯ ลงโทษผู้กระทำความผิด และริบเงินเป็นของแผ่นดิน

| เผย 18 ราย ถูกฟ้องร้อง |
ส่วนจำเลยในคดีนี้ มีทั้งสิ้น 18 ราย แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็น คณะกรรมการ ทอท. ประกอบด้วย 1.นายประสงค์ พูนธเนศ 2.นายนิรันดร์ ธีรนาทสิน 3.น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ 4.นายราฆพ ศรีศุภอรรถ 5.นายนันทศักดิ์ พูลสุข 6.น.ต.ประจักษ์ สัจจโสภณ 7.พล.อ.ท.จอม รุ่งสว่าง 8.นายวราห์ ทองประสิทธุ์ 9.พล.อ.ท.ประกิต ศกุณสิงห์ 10.นายมานิต นิธิประทีป 11.นายธานินท์ ผะเอม 12.นายธวัชชัย อรัญญิก 13.นางระวีวรรณ เนตระคเวสนะ และ 14.นายนิตินัย ศิริสมรรถการ

กลุ่มบริษัทเอกชน ประกอบด้วย 1.บริษัท คิงเพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด 2.บริษัท คิงเพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 3.บริษัท คิงเพาเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และ 4.นายสมบัตร เดชาพาณิชกุล ตัวการร่วมกระทำความผิด


kpipk_pics_01_01

เมื่อส่องบัญชีพยานโจทก์ของนายชาญชัยที่เคยยื่นต่อศาล ได้ระบุจำนวนพยานเอกสารไว้ 50 ฉบับ และพยานบุคคล 33 ปาก ในนี้มีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยู่ในลำดับที่ 2 ตามด้วย นายอุดม เฟื่องฟุ้ง อดีตประธานศาลฎีกา, พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป สปท. และนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน อยู่ในลำดับที่ 5


หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,314 วันที่ 16-18 พ.ย. 2560 หน้า 01-02

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว