แผ่นดินไหว 7.3 ชายแดนอิหร่าน-อิรักคร่าชีวิตแล้วกว่า 400 ราย บาดเจ็บกว่า 7,000 ราย
สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ(USGS)รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.3 แมกนิจูดที่บริเวณชายแดนระหว่างอิหร่านและอิรัก เมื่อคืนนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือในช่วงเช้าตรู่วันนี้(13 พ.ย.60)ตามเวลาไทย โดยศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ที่บริเวณเทือกเขาซึ่งอยู่ห่างจากเมืองฮาลับจา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอิรักประมาณ 32 กิโลเมตร ที่ระดับความลึก 23.2 กิโลเมตร
ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยกว่า 350 รายในอิหร่าน และบาดเจ็บราว 6,000 ราย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 รายในอิรัก และบาดเจ็บมากกว่า 300 ราย
คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเริ่มเข้าสู่พื้นที่ประสบภัยที่อยู่ห่างไกลออกไป และคาดว่าผู้ที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่ในขณะนี้อาจพุ่งขึ้นมากกว่า 70,000 คน
ด้านความคืบหน้าสถานีโทรทัศน์ทางการอิหร่าน รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 421 คน บาดเจ็บกว่า 7,000 คน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นคาดว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อหน่วยกู้ภัยเข้าถึงพื้นที่ห่างไกลที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว
จังหวัดที่เสียหายหนักที่สุด คือ เคอร์มานชาห์ ห่างจากพรมแดนฝั่งตะวันตกด้านติดกับอิรักเพียง 15 กิโลเมตร มีผู้เสียชีวิตมากถึง 236 คน หลายหมู่บ้านเป็นบ้านดินจึงพังถล่ม นอกจากนี้ยังมีดินถล่มเป็นอุปสรรคต่อการเข้าไปกู้ภัย มีจังหวัดได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว 14 จังหวัด จากทั้งหมด 31 จังหวัดทั่วประเทศ หน่วยงานบรรเทาทุกข์แห่งหนึ่งของอิหร่านระบุว่า มีประชาชนราว 70,000 คนต้องการที่พักพิง หลังจากเกิดแผ่นดินไหวซึ่งถือเป็นครั้งรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในรอบปีนี้ ส่วนโรงพยาบาลใหญ่ในเมืองก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักทำให้การรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นไปอย่างยากลำบาก อยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ได้กล่าวแสดงความเสียใจ และขอให้ทุกหน่วยงานร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่
ด้านเขตปกครองตนเองชาวเคิร์ดในอิรัก ซึ่งอยู่ใกล้พรมแดนอิหร่าน แจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 คน บาดเจ็บ 321 คน พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุดคือเมืองดาร์บันดีข่าน ห่างจากเมืองสุเลย์มานิยาห์ในเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานของอิรัก ไปทางตะวันออกราว 75 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนทำให้ผู้คนในแบกแดดเมืองหลวงของอิรักตื่นตระหนกและพากันออกมาจากบ้านเรือนมาอยู่บนถนนเพื่อความปลอดภัย จนบรรดาสุเหร่าในเมืองหลวงต้องใช้ลำโพงกระจายเสียงสวดมนต์เพื่อให้กำลังใจแก่ประชาชน นอกจากนี้ แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ยังรู้สึกได้ถึงตุรกีคูเวต และอิสราเอลด้วย
ภาพ : สำนักข่าวซินหัว
ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยกว่า 350 รายในอิหร่าน และบาดเจ็บราว 6,000 ราย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 รายในอิรัก และบาดเจ็บมากกว่า 300 ราย
คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเริ่มเข้าสู่พื้นที่ประสบภัยที่อยู่ห่างไกลออกไป และคาดว่าผู้ที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่ในขณะนี้อาจพุ่งขึ้นมากกว่า 70,000 คน
ด้านความคืบหน้าสถานีโทรทัศน์ทางการอิหร่าน รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 421 คน บาดเจ็บกว่า 7,000 คน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นคาดว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อหน่วยกู้ภัยเข้าถึงพื้นที่ห่างไกลที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว
จังหวัดที่เสียหายหนักที่สุด คือ เคอร์มานชาห์ ห่างจากพรมแดนฝั่งตะวันตกด้านติดกับอิรักเพียง 15 กิโลเมตร มีผู้เสียชีวิตมากถึง 236 คน หลายหมู่บ้านเป็นบ้านดินจึงพังถล่ม นอกจากนี้ยังมีดินถล่มเป็นอุปสรรคต่อการเข้าไปกู้ภัย มีจังหวัดได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว 14 จังหวัด จากทั้งหมด 31 จังหวัดทั่วประเทศ หน่วยงานบรรเทาทุกข์แห่งหนึ่งของอิหร่านระบุว่า มีประชาชนราว 70,000 คนต้องการที่พักพิง หลังจากเกิดแผ่นดินไหวซึ่งถือเป็นครั้งรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในรอบปีนี้ ส่วนโรงพยาบาลใหญ่ในเมืองก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักทำให้การรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นไปอย่างยากลำบาก อยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ได้กล่าวแสดงความเสียใจ และขอให้ทุกหน่วยงานร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่
ด้านเขตปกครองตนเองชาวเคิร์ดในอิรัก ซึ่งอยู่ใกล้พรมแดนอิหร่าน แจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 คน บาดเจ็บ 321 คน พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุดคือเมืองดาร์บันดีข่าน ห่างจากเมืองสุเลย์มานิยาห์ในเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานของอิรัก ไปทางตะวันออกราว 75 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนทำให้ผู้คนในแบกแดดเมืองหลวงของอิรักตื่นตระหนกและพากันออกมาจากบ้านเรือนมาอยู่บนถนนเพื่อความปลอดภัย จนบรรดาสุเหร่าในเมืองหลวงต้องใช้ลำโพงกระจายเสียงสวดมนต์เพื่อให้กำลังใจแก่ประชาชน นอกจากนี้ แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ยังรู้สึกได้ถึงตุรกีคูเวต และอิสราเอลด้วย
ภาพ : สำนักข่าวซินหัว
