FSMART โชว์งบ 9 เดือนรายได้ 2,464 ล้าน กำไรเพิ่ม 46.3%

บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส ประกาศงบ 9 เดือนรายได้ 2,464 ล้านบาท กำไร 420 ล้านบาท เพิ่ม 45.8% และ 46.3% จากงวดเดียวกันปีก่อน ขณะที่บริการโอนเงินกระแสดี สัดส่วนรายได้เพิ่มจากยอดผู้ใช้ต่อวันเพิ่มเป็น 20,000 รายการ

[caption id="attachment_230521" align="aligncenter" width="335"] นายสมชัย สูงสว่าง[/caption]

นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART ผู้นำช่องทางการชำระเงินผ่าน “ตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติม” ที่มีเครือข่ายมากที่สุดอันดับ 1 ของประเทศ เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวด 9 เดือนบริษัทมีรายได้รวม 2,464 ล้านบาท กำไรสุทธิ 420 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.8% และ 46.3% ตามลำดับจากงวดเดียวกันปี 2559 ที่มีรายได้ 1,690 ล้านบาท กำไร 287 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 3/2560 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 855 ล้านบาท กำไร 145 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.6% และ 39% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 600 ล้านบาท กำไร 104 ล้านบาท มูลค่าการเติมเงินที่เติบโตขึ้น ตามแผนการขยายตู้ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศมากขึ้น ซึ่งถือว่าเร็วกว่าแผนที่วางไว้ ทั้งนี้ ปัจจุบันมีจำนวนตู้บุญเติมกว่า 119,166 ตู้ มากกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีอยู่เพียงกว่า 85,656 ตู้

ปัจจุบันบริษัทมียอดเติมเงินไตรมาส 3/2560  อยู่ที่ 9,311 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการบริการเติมเงินโทรศัพท์ระบบเติมเงินล่วงหน้าและรับชำระเงินออนไลน์อื่นๆกว่า 85% ขณะที่รายได้ของบริการโอนเงินเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 9.7% เป็น 12.6% โดยในไตรมาส 3 ที่ผ่านมามียอดผู้ใช้งานกว่า 20,000 รายการต่อวัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่การโอนเงินประมาณ 14,600 รายการต่อวัน  และยังคงมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสัดส่วนรายได้ที่เปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นไปตามแผนที่บริษัทเน้นเพิ่มสัดส่วนรายได้จากบริการในช่องทางอื่นตามโครงสร้างรายได้บริษัทที่มีความหลากหลายมากขึ้น

ส่วนการดำเนินงานในไตรมาส 4 ปี 2560 บริษัทเชื่อว่าจะมียอดผู้ใช้บริการตู้บุญเติมเพิ่มจากปัจจุบันที่มีผู้เข้ามาใช้บริการผ่านตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติมกว่า  2.2 ล้านรายการต่อวัน หรือคิดเป็นจำนวนเบอร์ผู้ใช้บริการประมาณ 24 ล้านหมายเลข เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีการเพิ่มบริการใหม่หน้าตู้ ไม่ว่าจะเป็น การบริการรับชำระบิลค่าสาธารณูปโภค การจำหน่ายสติ๊กเกอร์ Line ผ่านตู้บุญเติม ซึ่งเป็นช่องทางใหม่สำหรับผู้ใช้งาน LINE ที่สามารถซื้อได้ด้วยเงินสด และล่าสุดกับการบริการรับชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมสำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เช่นเดียวกับ การขายสินค้าหน้าตู้ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าเพิ่มเช่นกัน รวมไปถึงการบริการโอนเงินที่จะเพิ่มธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)ในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งบริการต่างๆที่เพิ่มขึ้นนอกจากจะเป็นช่องทางในการเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทแล้ว ยังช่วยให้บริษัทขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ให้ใช้บริการตู้บุญเติมมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเป้าหมายจำนวนตู้บุญเติมปีนี้อยู่ที่ 122,000 ตู้ และยอดเติมเงินที่ 32,000 ล้านบาท โดยหากสามารถทำได้มากกว่าถือว่าเป็นความสำเร็จของบริษัทอีกครั้ง และยังช่วยตอกย้ำการจัดการแบบระบบแฟรนไชส์ที่บริหารจัดการด้วยการเน้นบริหารจุดทำเลที่ตั้งของการตั้งตู้บุญเติม ซึ่งนอกจากจะสามารถตอบสนองความต้องการและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่แล้ว ยังสนับสนุนให้การทำงานของตัวแทนมีประสิทธิภาพ และมีรายได้ตามเป้าหมายของบริษัท นอกเหนือจากกิจกรรมทางการตลาดที่บริษัทจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการสนใจเข้ามาใช้งานตู้เติมเงินเพิ่มมากขึ้น

“รายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆไตรมาส เกิดจากความร่วมมือของบริษัทและตัวแทนที่เดินตามแผนที่วางไว้ โดยที่ผ่านมาบริษัทรักษาจุดแข็งทางด้านการบริการ และพยายามพัฒนาในด้านอื่นๆให้ดียิ่งขึ้น แต่โดยรวมถือว่าประสบความสำเร็จในทุกด้าน ซึ่งเป็นส่วนช่วยยืนยันได้ว่าระบบธุรกิจแฟรนไชส์ สามารถสร้างการเติบโตแบบยั่งยืนในระยาว ซึ่งเป็นแนวทางการทำงานของบริษัทตลอดการดำเนินงานที่ผ่านมา”นายสมชัย กล่าว