ลีสซิ่งงัดแผนยั่วคนซื้อ ดาวน์ต่ำ ผ่อนน้อย รอโปะบัลลูน ปล่อยคืนโชว์รูม

11 พ.ย. 2560 | 12:35 น.
ค่ายรถยนต์จับมือลีสซิ่ง ออกแพ็กเกจการผ่อนชำระค่างวดรูปแบบใหม่ พยายามลดภาระให้ลูกค้าในช่วงแรก แล้วค่อยไปโปะเงินก้อนใหญ่ (บัลลูน) หรือเลือกปล่อยคืนให้โชว์รูม “บีเอ็มดับเบิลยู” เปิดแผน FREEDOM CHOICE แข่ง “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ที่มี mySTAR

แม้ภาพรวมตลาดรถยนต์ตั้งแต่เดือนมกราคม- กันยายน 2560 ยอดขายจะโต 11.5 % แต่ค่ายรถยนต์ยังเดินหน้างัดทุกกลยุทธ์เพื่อดันตัวเลขให้ถึงเป้าหมายที่เคยประกาศไว้ หนึ่งในเครื่องมือสำคัญคือ การร่วมมือกับสถาบันการเงิน หรือนำเสนอสินเชื่อของบริษัทตนเอง(แคปทีฟไฟแนนซ์) พร้อมออกแพ็กเกจใหม่ๆ หวังให้คนตัดสินใจเป็นเจ้าของรถได้เร็ว และปิดการขายง่ายขึ้น

ล่าสุด บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส “แคปทีฟไฟแนนซ์” ของบีเอ็มดับเบิลยู เปิดโปรแกรม BMW FREEDOM CHOICE ผ่อน-ดาวน์ ในช่วงแรกน้อย และค่อยไปโปะเงินก้อนใหญ่(บัลลูน) โดยลูกค้าสามารถเลือกผ่อนต่อ หรือจะปล่อยคืนโชว์รูมไปเลยก็ได้ ประเดิมกับรุ่น X1 ซีรีส์ 3 และ ซีรีส์ 5 (ในรุ่นที่กำหนด)

สำหรับโปรแกรม BMW FREEDOM CHOICE ถือว่ามีความยืดหยุ่นกว่าการทำสัญญาเช่าซื้อทั่วไป ด้วยการดาวน์เริ่มต้น 15% แถมยังรับประกันมูลค่ารถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในอนาคต และเมื่อสิ้นสุดสัญญาบัลลูน ก็มีทางเลือกให้กับลูกค้า 4 ข้อ ได้แก่ 1.ส่งมอบรถคืนให้กับบริษัท 2.เริ่มสัญญาใหม่สำหรับรถบีเอ็ม ดับเบิลยูคันใหม่ 3.ชำระเงินก้อนสุดท้ายและเป็นเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และ ขยายเวลาผ่อนชำระเงินก้อนสุดท้ายออกไปสูงสุดไม่เกิน 4 ปี อีกทั้งยังมีโปรแกรม BMW Services Inclusive (BSI) ที่ดูแลเรื่องค่าซ่อมบำรุงรถยนต์ตลอดระยะเวลาสัญญา

“ตัวอย่าง BMW FREEDOM CHOICE ระยะเวลา 4 ปี มีค่างวดเริ่มต้นที่ 19,999 บาท สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู X1 s Drive18i xLineและบีเอ็มดับเบิลยู 330e (Iconic) ปลั๊กอิน-ไฮบริดใหม่ โดยจะรวมโปรแกรมบำรุงรักษารถยนต์BMW Services Inclusive (BSI)ตลอดระยะเวลาสัญญา 4 ปี” บียอร์น แอนทอนส์สัน ประธานกรรมการบริหาร บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย กล่าว

ปัจจุบันลูกค้าที่ซื้อรถกับบีเอ็มดับเบิลยู พบว่าเกินครึ่ง ใช้บริการของบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส และอีก 18% ใช้บริการจากสถาบันการเงินอื่น ขณะที่เป้าหมายของปี 2560 คาดว่าการเติบโตของยอดสัญญาเช่าซื้อเป็น 38,157 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 9%

ส่วนเจ้าพ่อรถหรู “เมอร์เซเดส-เบนซ์” แม้เพิ่งทำการปรับเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ในส่วนของลีสซิ่ง แต่ยังคงเป้าหมายยอดสินเชื่อรวม ปีนี้ 4 หมื่นล้านบาท

โดยเบนซ์ลีสซิ่งชูจุดแข็งโปรแกรม mySTAR มายสตาร์ ที่เลือกชำระแบบบัลลูน มีจุดเด่นทำให้ค่างวดต่อเดือนตํ่ากว่าโปรแกรมการเงินรูปแบบ อื่นๆและเมื่อสิ้นสุดสัญญาบัลลูน ลูกค้าสามารถเลือกข้อเสนอได้ 3 ทางเลือก คือ 1. RETURN โดยลูกค้าสามารถเลือกคืนรถให้กับบริษัท โดยไม่ต้องชำระมูลค่าบัลลูนก้อนสุดท้าย หรือแบบที่ 2 คือ RETAIN ที่ลูกค้าเลือกชำระมูลค่าบอลลูนก้อนสุดท้าย และโอนกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของ ส่วนรูปแบบที่ 3 REFINANCE ที่ลูกค้าเลือกขยายระยะเวลาผ่อนยาวออกไปได้สูงสุดอีก 4 ปี

MP32-3312-1A อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัดที่เพิ่งจะแต่งตั้งให้โยกย้ายไปดูบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส ประเทศไต้หวันอย่าง นายศุภวุฒิ จิรมนัสนาคร ได้เปิดเผยว่า โปรแกรม mySTAR เปิดตัวมา 3 ปีแล้ว ลูกค้าตอบรับดีมาก โดยสัดส่วนของลูกค้าที่ใช้บริการของเบนซ์ลีสซิ่งมีกว่า 50% ขณะที่กลยุทธ์หรือแคมเปญที่บริษัทมีการนำเสนอเพิ่มขึ้นมาคือเพิ่มประกันภัยชั้น 1 เข้าไว้กับ mySTAR

ส่วนค่ายรถแบรนด์อื่นๆที่มีลีสซิ่งเป็นของตัวเอง มีกลยุทธ์ออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น โตโยต้าเปิดช่องทางให้นำค่าใช้จ่ายส่วนของประกันภัยชั้น 1 ไปรวมกับยอดจัดไฟแนนซ์ เพื่อไม่ให้ลูกค้าใช้เงินสดก้อนใหญ่ในการออกรถ ซึ่งแคมเปญนี้ประเดิมไปแล้วกับอีโคคาร์ “ยาริส เอทีฟ”

ส่วนฮอนด้า ลีสซิ่ง เพิ่งคลอดแคมเปญ“15 ปีที่ผูกพัน ดูแลกันตลอดไป” แจกของรางวัล ทั้งรถยนต์ ซีวิค แฮตช์แบ็ก รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ออล-นิว สกู๊ปปี้ ไอ คลับ 12 และทองคำ รวมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท

ด้านสินเชื่อรถยนต์ที่นำเสนอผ่านสถาบันการเงินก็มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดไม่แพ้กัน ยกตัวอย่างค่ายกรุงศรี ออโต้ ที่มีบริการทั้งรถใหม่-รถมือ 2 ได้วางกลยุทธ์การตลาดในช่วงครึ่งปีหลังด้วยการนำเสนอสมาร์ทแพลตฟอร์ม และนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาใช้ในการอนุมัติสินเชื่อให้รวดเร็วขึ้น และขยายช่องทางการให้บริการเพื่อให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน นอกจากนั้นแล้วได้จับมือกับ เว็บไซต์ “Kaidee (ขายดี)”เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการข้อมูลด้านสินเชื่อผ่านเว็บไซต์โดยจะคำนวณค่างวดและค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้กับผู้สนใจจะซื้อรถผ่านเว็บไซต์ได้เลย

“ช่องทางเดิมของเราคือกรุงศรี ออโต้ ที่มีกว่า 50 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งลูกค้าสามารถมาสอบถามหรือปรึกษาเรื่องรถเรื่องการเงินกับเราได้ นอกจากนั้นแล้วเรายังให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีดิจิตอลที่จะนำมาใช้กับกระบวนการภายในของเรา เช่น ต่อยอดกระบวนการอนุมัติสินเชื่อผ่านแพลตฟอร์มดิจิตอลและ กรุงศรีออโต้แชต ที่จะใช้สื่อสารภายในควบคู่ไปกับการขยายช่องทางการบริการอื่นๆและเรายังมีแผนที่จะนำเสนอรูปแบบทางการเงินใหม่ๆ ภายในสิ้นปีนี้”นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,312 วันที่ 9 - 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว