ทริสคงเครดิต CPALL ระดับ A+ หุ้นกู้ อยู่ที่ A

25 ต.ค. 2560 | 11:46 น.
ทริสเรทติ้ง ประกาศคงอันดับเครดิตองค์ CPALL ระดับ A+ สะท้อนควาเมป็นผู้นำธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อในไทย พร้อมให้เครดิตหุ้นกู้ วงเงินไม่เกิน 1.8 หมื่นล้านบาท ที่ระดับ A

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ที่ระดับ “A+" ในขณะเดียวกันให้อันดับเครดิตแก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 18,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “A" โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปชำระหนี้เงินกู้เดิมและเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

อันดับเครดิต “A+" ของบริษัทสะท้อนถึงสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อในประเทศไทย ตลอดจนลักษณะของธุรกิจค้าปลีกที่สามารถสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการมีเครือข่ายสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และการมีธุรกิจสนับสนุนที่เข้มแข็ง อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากภาระหนี้ที่อยู่ที่ระดับสูงของบริษัทและการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจผู้ค้าปลีก นอกจากนี้ การประเมินอันดับเครดิตยังพิจารณาถึงการฟื้นตัวช้าของเศรษฐกิจไทยซึ่งส่งผลกระทบในด้านลบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค

บริษัทมีสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งจากการเป็นผู้นำในธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อภายในประเทศ สถานะความเป็นผู้นำของบริษัทเกิดจากความสำเร็จในการบริหารสินค้า ตลอดจนความสามารถในการพัฒนาสินค้าและขยายร้านค้า รวมทั้งอันดับเครดิตยังได้รับการสนับสนุนจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของบริษัท โดยรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 188,702 ล้านบาทในปี 2555 เป็น 434,712 ล้านบาทในปี 2559

อันดับเครดิตถูกลดทอนบางส่วนจากภาระหนี้ระดับสูงของบริษัท เงินกู้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมากจากที่ไม่มีภาระหนี้สินในปี 2555 มาอยู่ที่ระดับ 185,337 ล้านบาทในปี 2556 เนื่องจากการกู้เงินเพื่อซื้อกิจการของ MAKRO แม้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาบริษัทจะสร้างกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่หนี้สินรวมของบริษัทยังคงอยู่ในระดับสูงจากการลงทุนขยายสาขาของทั้งร้านค้า 7-Eleven และห้างแม็คโคร ทั้งนี้ เมื่อรวมหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน เงินกู้รวมของบริษัทจะอยู่ที่ระดับ 199,059 ล้านบาทในปี 2559 และ 195,683 ล้านบาท ณ เดือนมิถุนายน 2560 ในช่วงเดียวกัน แต่บริษัทมีกระแสเงินสดเพื่อรองรับการชำระหนี้ของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable" หรือ “คงที่" สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะความเป็นผู้นำและความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย ตลอดจนสามารถสร้างผลกำไรที่แข็งแกร่งต่อไปได้ การมีเงินสดในมือในระดับที่สูงและเสถียรภาพในการสร้างกระแสเงินสดจะช่วยหนุนความยืดหยุ่นทางการเงินให้แก่บริษัทในช่วงการขยายการลงทุน

ทั้งนี้ อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากโครงสร้างเงินทุนและกระแสเงินสดที่ใช้รองรับการชำระหนี้ของบริษัทปรับตัวดีขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากผลการดำเนินงานของบริษัทอ่อนแอลงกว่าที่คาด หรือมีการขยายการลงทุนจำนวนมากจนส่งผลให้โครงสร้างเงินทุนและความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-1